เปิดแผนโจมตีทหารพรานดับ 6 ที่จะแนะ
เหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดแล้วยิงถล่มซ้ำกำลังพลของทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งตลอด 13 ปีที่ผ่านมา และแต่ละครั้งมักก่อความสูญเสียไม่น้อยทีเดียว
การก่อเหตุในลักษณะนี้ได้ คนร้ายต้องผ่านการฝึก และวางแผนมาค่อนข้างดี โดยเฉพาะการเลือก “พื้นที่สังหาร” หรือที่เรียกว่า Killing Zone จนทำให้การป้องกันหรือตอบโต้ทำได้ยากอย่างยิ่ง
“ทีมข่าวอิศรา” ได้รับข้อมูลการวิเคราะห์แผนปฏิบัติการของคนร้ายที่ลอบโจมตีเจ้าหน้าที่ทหารพราน ชุดปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 1114 (ชป.ร้อย ทพ.1114) หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 11 (ฉก.ทพ.11) ขณะเดินทางกลับจากตัวเมืองนราธิวาส บนถนนสาย 4115 พื้นที่หมู่ 3 บ้านริแง ต.ผดุงมาตร อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ทำให้ทหารพรานเสียชีวิตทั้งหมด 6 นาย และคนร้ายยังได้พยายามจุดไฟเผาร่างของเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่เสียชีวิต ก่อนนำอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ ทั้งปืนเอ็ม 16 จำนวน 5 กระบอก และเอ็ม 79 จำนวน 1 กระบอก หลบหนีไปด้วย
การนำเสนอข้อมูลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทราบว่า คู่ต่อสู้ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงนั้นมีศักยภาพขนาดไหน และวางแผนมาอย่างไร เพื่อประโยชน์ในการป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ
จากรายงานของศูนย์ข้อมูลวัตถุระเบิด ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังจากที่ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พบระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายใช้จำนวน 4 ลูก เป็นระเบิดแสวงเครื่องที่ใช้ในการระเบิดเสาไฟฟ้าให้หักโค่น 2 ต้น จำนวน 2 ลูก และระเบิดขว้าง ซึ่งเป็นระเบิดแสวงเครื่องแบบมีด้ามจับ (IED Grenade hand stick) จำนวน 2 ลูก ชิ้นส่วนระเบิดตกอยู่บริเวณประตูรถกระบะฝั่งที่นั่งข้างคนขับจำนวน 1 ลูก และตกอยู่บริเวณพื้นดินท้ายรถกระบะอีก 1 ลูก
นอกจากนั้นยังพบปลอกกระสุนปืนของคนร้าย ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายใช้เป็นที่ซุ่มยิงรวม 5 จุด อยู่บนเนินดินสูงริมถนนทั้งสองข้างทาง ก่อนถึงจุดที่รถกระบะของเจ้าหน้าที่ตกลงไปข้างทาง แยกเป็นริมถนนฝั่งเดียวกับเสาไฟฟ้า 3 จุด และริมถนนฝั่งที่รถกระบะเสียหลักตกลงไปข้างทาง 2 จุด
ปฏิบัติการของคนร้ายกลุ่มนี้ ใช้กำลังคนมากกว่า 10 คน อาวุธครบมือ และมีการวางแผนเอาไว้อย่างดี เริ่มจากนำระเบิดแสวงเครื่องไปวางไว้ที่เสาไฟฟ้าจำนวน 2 ต้นริมถนนฝั่งขวาทางไป อ.สุคิริน จ.นราธิวาส และวางคนที่ทำหน้าที่เป็นชุดซุ่มยิงมาดักซุ่มอยู่ข้างทางทั้งสองฝั่งก่อนถึงจุดวางระเบิดเสาไฟฟ้า ซึ่งจุดซุ่มยิงดังกล่าวเป็นเนินสูงกว่าระดับถนน
เมื่อรถกระบะของเจ้าหน้าที่ทหารพรานวิ่งมาใกล้ถึงจุดซุ่มยิง คนร้ายได้จุดระเบิดแสวงเครื่องที่เสาไฟฟ้า ทำให้เกิดระเบิดและเสาไฟฟ้าหักโค่นกีดขวางเส้นทาง เป็นเหตุให้รถของเจ้าหน้าที่ทหารพรานเสียหลักตกลงไปจอดสนิทอยู่ข้างทาง จากนั้นคนร้ายชุดซุ่มยิงจึงได้ระดมยิงและขว้างระเบิดแสวงเครื่องแบบมีด้ามจับ ใส่รถของเจ้าหน้าที่ทหารพราน โดยคนร้ายกลุ่มนี้อยู่ตรงจุดซุ่มยิงซึ่งเป็นเนินสูงริมถนน ทำให้ทิศทางกระสุนจากปืนของคนร้ายเป็นการยิงกดจากที่สูงลงไปบรรจบกันที่รถกระบะเป้าหมายเป็นรูปตัววี ส่งผลให้กระสุนปืนจากชุดซุ่มยิงทั้งสองฝั่งไม่พลาดมาโดนกันเอง
หลังจากที่คนร้ายระดมยิงจนเห็นว่าเจ้าหน้าที่ทหารพรานเสียชีวิตแล้ว จึงได้ออกมาจากจุดซุ่มยิง เข้าไปที่รถกระบะ เพื่อชิงอาวุธปืนของทหารพรานที่เสียชีวิต จากนั้นคนร้ายยังได้จุดไฟเผาร่างของทหารพราน และมีการโปรยตะปูเรือใบบนถนนที่เป็นเส้นทางเข้ามายังจุดเกิดเหตุ เพื่อถ่วงเวลาไม่ให้เจ้าหน้าที่ชุดสนับสนุนเข้าที่เกิดเหตุได้เร็วนัก ทำให้กลุ่มคนร้ายมีเวลาในการหลบหนี
ส่วนระเบิดขว้างแสวงเครื่องแบบมีด้ามจับ (IED Grenade hand stick) ที่คนร้ายใช้ในเหตุการณ์นี้ นับเป็นเหตุการณ์ที่ 3 แล้วที่พบมีการใช้ระเบิดขว้างแสวงเครื่องชนิดนี้ โดยพบครั้งแรกในเหตุการณ์คนร้ายบุกโจมตีป้อมจุดตรวจ 3 ฝ่ายที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 3 เม.ย.60 และครั้งที่ 2 พบในพื้นที่บ้านดูกูสุเหร่า หมู่ 7 ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ถูกซุกซ่อนอยู่ในป่าจำนวน 3 ลูก สภาพพร้อมใช้งาน เมื่อวันที่ 26 เม.ย.60
สำหรับกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกับที่มีรายงานข่าวของหน่วยงานความมั่นคงระบุว่า พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบ จำนวน 15- 20 คน พร้อมอาวุธครบมือ เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา บริเวณเทือกเขาในพื้นที่บ้านลูโบะลาเซาะ ต.ร่มไทร อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ซึ่งมีพื้นที่รอยต่อใกล้กับบ้านริแง ต.ผดุงมาตร อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุและคนร้ายเลือกใช้เป็น Killing Zone นั่นเอง
------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณ : เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เอื้อเฟื้อภาพวัตถุระเบิดขว้างแสวงเครื่องแบบมีด้ามจับ