ธ.ก.ส. พบเกษตรกรอีสานใต้จับมือเถ้าแก่โรงสีสวมสิทธิ์จำนำข้าวรอบ 2

ธ.ก.ส.อึ้ง ชาวนาอีสานใต้ร่วมมือเจ้าของโรงสีสวมสิทธิ์จำนำข้าวนาปีรอบ 2 ขู่ผิดกม.อาญา-แพ่ง เตรียมปิดช่องโหว่ปรับจำนำข้าวนาปรัง 1 มี.ค. 55 รับไม่เกินรายละ5 แสน

 เร็ว ๆ นี้ นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนโยบายรัฐ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.54 สิ้นสุดวันที่ 29 ก.พ.55 ซึ่งเหลือระยะเวลาอีก 10 วัน จะปิดโครงการและเปิดโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.เป็นต้นไปนั้น ธ.ก.ส.ตรวจสอบพฤติกรรมที่น่าสงสัยของเกษตรกรบางราย โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสานใต้ ตั้งแต่ จ.บุรีรัมย์ นครราชสีมา สุรินทร์ ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี เนื่องจากมีเกษตรกรบางรายมีข้าวตกค้างนำมาเข้าร่วมโครงการรับจำนำเพิ่มเติม ซึ่งถือเป็นการเข้าร่วมโครงการรอบ 2

ทั้งนี้ พฤติกรรมของเกษตรกรบางรายที่ธนาคารตรวจพบคือ มีการนำข้าวเข้าร่วมโครงการเพิ่มเติมหลังจากที่นำข้าวเปลือกส่วนหนึ่งเข้าร่วมโครงการรับจำนำไปแล้ว 1รอบ ซึ่งโดยปกติจะพบน้อยมาก เพราะเกษตรน่าจะเก็บเกี่ยวข้าวในครั้งเดียวไม่ได้ทยอยเก็บเหมือนกับพืชเกษตร อื่นๆ แต่เนื่องจากในปีนี้ รัฐบาลมีนโยบายว่าเปิดรับจำนำข้าวทุกเม็ด โดยไม่ได้จำกัดปริมาณ จึงมีเกษตรกรบางรายนำข้าวมาจำนำเพิ่มเติม โดยมั่นใจว่ามีกลุ่มบุคคลมาชักจูงชาวนาให้เข้าร่วมขบวนการเพื่อแบ่งผลประโยชน์ร่วมกัน โดยเกษตรกรไม่ทราบว่า พฤติกรรมแบบนี้เข้าข่ายผิดกฎหมายอาญาและแพ่ง

นายสุพัฒน์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังพบการใช้สูตรในการคำนวณรับจำนำที่วัดจากผลผลิตสูงสุดของต่อไร่ของแต่ละจังหวัดก็เป็นช่องโหว่ด้วยเช่นกัน เนื่องจากเกษตรกรอาจมีความสามารถในการเพาะปลูกข้าว 500กิโลกรัมต่อไร่ แต่ผลผลิตสูงสุดของจังหวัดกำหนดเพดานไว้ที่ 600 กิโลกรัมต่อไร่ ยังมีส่วนต่างเหลืออยู่อีก 100 กิโลกรัมต่อไร่ เกษตรกรจึงคิดว่า ยังเหลือสิทธิ์ในการรับจำนำโดยมีกลุ่มบุคคลชักชวนให้เข้าร่วมโครงการเป็นรอบ ที่ 2ทั้งที่ไม่มีข้าวอยู่ในมือ โดยข้าวที่ใช้สวมสิทธิ์น่าจะเป็นข้าวจากโรงสีข้าวในพื้นที่ที่รับซื้อไว้ในราคาถูก ๆ ในช่วงที่ราคาข้าวตกต่ำไม่ถึง 9,000บาท/ตัน พอเห็นราคารับจำนำดีกว่าที่ราคา 15,000 บาท/ตัน จึงนำข้าวที่เก็บไว้ในโกดังไปสวมสิทธิ์ แต่ไม่น่าจะใช่ข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน

นายสุพัฒน์ กล่าวอีกว่า การเปิดรับจำนำข้าวทุกเม็ดของรัฐบาล มีช่องโหว่ทำให้เกิดขบวนการในลักษณะดังกล่าว ธ.ก.ส.จึงได้ส่งเรื่องให้คณะอนุกรรมการตรวจสอบ ที่มีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)เป็นกรรมการลงพื้นที่ตรวจสอบ และยังได้ประสานงานไปยังระดับจังหวัดและอำเภอที่มีปัญหาแล้ว เพราะเหลือระยะเวลาอีกเพียง 10วันก็จะปิดโครงการแล้ว แต่ยังมีเกษตรกรจำนวนหนึ่งนำข้าวมาจำนำเพิ่มเติม จึงสั่งหยุดรับจำนำข้าวรอบที่ 2 ไว้ก่อน เพื่อรอการตรวจสอบข้อเท็จจริงและป้องกันไม่ให้วิธีการนี้แพร่ระบาดไปยัง จังหวัดอื่นๆ ซึ่งขณะนี้ ธ.ก.ส.ยังไม่ได้รับความเสียหายจากเรื่องดังกล่าว ส่วนความคืบหน้าของโครงการรับจำนำข้าว เปลือก ล่าสุด มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการประมาณ 1 ล้านราย รับจำนำข้าว 6.4 ล้านตัน ต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดว่า รับจำนำ 8 ล้านตัน โดยได้ปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 107,828 ล้านบาท

ส่วนการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังนั้น คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กชข.)มีมติให้ปิดช่องโหว่ทั้งหมดแล้ว โดยเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังจะนำข้าวเข้าร่วม โครงการสูงสุด บวกอีกไม่เกิน 20%ของการผลิตสูงสุดของแต่ละจังหวัด หรือไม่เกิน 120% และยังกำหนดให้เกษตรกรนำเข้าร่วมโครงการได้ไม่เกินคนละ 500,000 บาท

มีรายงานเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่เกิดการรับจำนำข้าวรอบที่ 2 ในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีนั้น เกิดจากองค์การคลัง สินค้า (อคส.) ออกใบประท้วงในแก่เกษตรกรทั้งที่ใกล้ยุติโครงการแล้ว เมื่อเกษตรกรรับใบประท้วงแล้วก็จะมารับเงินจาก ธ.ก.ส. โดยเกษตรกรแจ้งว่า เป็นข้าวที่เพิ่งเก็บเกี่ยวได้เพื่อรับผลประโยชน์ร่วมกันกับโรงสีข้าว.