เครือข่าย ปชช.ฟ้องศาลปกครอง กรมทางหลวง-ก.คมนาคม ขยายถนนมรดกโลกเขาใหญ่
ประชาชนอนุรักษ์มรดกโลกเขาใหญ่ จับมือสมาคมต่อต้านสภาวะแวดล้อม ฟ้องศาลปกครองกรมทางหลวง-ก.คมนาคม ขยายถนนเขาใหญ่กระทบสิ่งแวดล้อมและชุมชนรุนแรง ละเมิด รธน.มาตรา 67 วรรคสอง ไม่ผ่านอีไอเอ-ประชาพิจารณ์ เสนอแผนฟื้นฟูระบบนิเวศน์มรดกโลก-หนุนชุมชนท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์หนองน้ำแดง เร่งรัฐเปิดเวทีสาธารณะถกแผนแม่บทแก้ปัญหาจริงจัง
เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน เครือข่ายประชาชนอนุรักษ์มรดกโลกเขาใหญ่แถลงข่าวให้เร่งฟื้นฟูระบบนิเวศน์สองข้างทางหลวง 2090 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา หรือถนนธนะรัชต์ ซึ่งเป็นประตูสู่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และพัฒนาหนองน้ำแดงให้เป็นชุมชนรักษาปากประตูสู่มรดกโลก ทั้งนี้ก่อนหน้านี้การรวมพลังคัดค้านของภาคประชาชนทำให้ ครม.มีมติยกเลิกการขยายถนนบริเวณ กม.11-16 ส่วน กม.ที่ 2-10 ให้ชะลอไว้โดยให้กระทรวงคมนาคมและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ไปตกลงเรื่องรูปแบบถนนรวมทั้งแผนฟื้นฟูข้างทางที่ชัดเจน และมอบหมายให้นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เครือข่ายฯ ได้ออกแถลงการณ์ให้ปรับปรุงชุมชนหนองน้ำแดงเป็นชุมชนรักษาปากประตูสู่มรดกโลกในรูปแบบชุมชนท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ฟื้นฟูระบบนิเวศน์และปรับภูมิทัศน์สองข้างทางและตัวถนน โดยให้บริเวณ กม.2-5 เป็นถนน 4 เลนที่ร่มรื่นสวยงามปลอดภัย ส่วน กม.6-10 เป็นถนน 4 เลนเรียวสอบเข้าเป็น 2 เลนที่ กม.ที่ 10-11 อย่างสวยงามกลมกลืนกับระบบนิเวศน์ตั้งแต่ กม.ที่ 11 เป็นต้นไป ทั้งหลีกเลี่ยงสภาพคอขวดที่ก่อปัญหาจราจรรุนแรงได้ รวมทั้งให้มีการฟื้นฟูระบบนิเวศน์สองข้างทางจากหลัก กม.11-24 และป้องกันมิให้มีการขยายถนนในอนาคต
และยังเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเวทีร่วมอย่างเร่งด่วนระหว่างหน่วยงานรัฐ ประชาชนที่เกี่ยวข้อง และผู้สนใจ เพื่อระดมแนวทางฟื้นฟูสภาพถนนและระบบนิเวศน์อย่างจริงจัง นำไปสู่แผนแม่บทแก้ปัญหาร่วมกัน และเพื่อให้เกิดหลักประกันในการแก้ไขปัญหาเครือข่ายประชาชนฯจะดำเนินการคือ 1.ยื่นฟ้องศาลปกครอง 2.ยื่นหนังสือต่อประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประธานคณะกรรมาธิการศึกษาและตรวจสอบการทุจริตและธรรมาภิบาลวุฒิสภา ผู้ตรวจการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน และผู้ตรวจการแผ่นดิน
ด้านสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ร่วมกับเครือข่ายประชาชนฯ จะยื่นฟ้องต่อศาลปกครองในวันที่ 18 มิ.ย. ให้ดำเนินคดีกับกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ในข้อหาละเมิดรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรคสอง ดำเนินโครงการที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนรุนแรง โดยไม่ผ่านอีไอเอ และประชาพิจารณ์รับฟังความเห็นประชาชน
คำฟ้องระบุว่า พื้นที่รอบเขตอุทยานฯเป็นแนวกันชนรักษาเขาใหญ่ไม่ให้กระทบกระเทือน จึงมีความอ่อนไหวทางระบบนิเวศน์ รวมทั้งเงื่อนไขการเป็นมรดกโลกที่ต้องจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสม แต่กรมทางหลวงและกระทรวงคมนาคมได้ดำเนินโครงการจากแยกทางหลวงหมายเลข 2 ต.หนองน้ำแดง ตั้งแต่ กม.2-10 ระยะทาง 8 กม. เป็นถนน 4 เลนโดยมีจุดเริ่มต้นการก่อสร้างที่จุดต่อเชื่อมทางต่างระดับปากช่องตะวันตก มุ่งสู่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ภายใต้งบประมาณไทยเข้มแข็งจากภาษีประชาชน 69,736,342.01 ล้านบาท โดยมีการตัดต้นไม้สองข้างทางมากมาย ซึ่งรวมทั้งต้นไม้หวงห้าม เช่น ประดู่ มะค่า สัก ต้นไม้หายาก ต้นไม้อายุร่วมร้อยปี และอุโมงค์ต้นไม้ระยะทางกว่า 1 กม. ทั้งที่่ยังมิได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อมรดกโลกเขาใหญ่อันเป็นพื้นที่สำคัญต่อวิถีชุมชนท้องถิ่นและสิ่งแวดล้อม
ผู้ฟ้องจึงขอให้ศาลพิจารณา 1.สั่งให้ผู้ถูกฟ้องสั่งการให้ผู้รับเหมาโครงการหรือผู้ที่เกี่ยวข้องระงับการขยายหรือปรับปรุงถนนธนะรัชต์ตลอดสายไว้ก่อน จนกว่าจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรคสอง และ พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535 และ 2.ขอให้ศาลสั่งให้ผู้ถูกฟ้องฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดขึ้นตลอดแนวถนนให้กลับมาเหมือนเดิมมากที่สุด โดยกระบวนการการมีส่วนร่วมและกระบวนการรับฟังความเห็นประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียอย่างรอบด้านเสียก่อน .