สั่งสอบพ.ต.ท.ไม่เห็นด้วย โพสต์เฟซฯค้านห้ามนั่งกระบะ
ผู้การฯชุมพร สั่งตั้งกก.สอบวินัย"พ.ต.ท."ตร.น้ำดี หลังโพสต์เฟซบุ๊กค้านกม.ห้ามนั่งท้ายรถกระบะ เหตุทำให้คนจนเดือดร้อน ด้านชาวบ้านชี้ กม.ตึงเกินไป เพราะนั่งรถหลาย ๆ คนลดพลังงาน
เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.เอกราช หุ่นงาม สว.อก.สภ.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวแสดงความเห็นเกี่ยวกับกฎหมายห้ามนั่งท้ายรถกระบะว่า การออกกฎหมายไม่ควรก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับชีวิตคน ดังนั้นควรรับฟังเหตุผลของคนทุกระดับชั้นว่าออกแบบไหนเขารับได้ หรือออกแบบไหนเขาจะเดือดร้อน เพราะถ้าคนชั้นสูง และร่ำรวยออกกฎหมายจะคิดไม่ถึงถึงความลำบากของคนจน และถ้าออกโดยคนจนล้วน ๆ ก็จะไม่รู้ถึงภาพกว้างในสังคมระดับใหญ่ ที่สำคัญการออกกฎหมายควรกำหนดเป้าหมายความต้องการให้ชัดเจนหลาย ๆ ด้าน แล้วนำมาประชุมหารือสรุปว่าจะเอาด้านไหนที่เหมาะสมที่สุด เช่นจะเอาเป็นผลประโยชน์ด้านทรัพย์สินเข้าส่วนรวม หรือจะเอาประโยชน์ด้านความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนเป็นหลัก เหมือนครั้งหนึ่งเคยบอกให้รวม ๆ กันไปรถคันเดียวหลาย ๆ คน เพื่อลดรถบนถนนจราจรจะได้ไม่ติดขัด และเป็นการประหยัดน้ำมันช่วยชาติแต่ตอนนี้ห้ามนั่งรถเกินสี่คนต่อคันรวมถึงห้ามนั่งกระบะหลัง โดยมองถึงความปลอดภัย แต่ผมมองว่าความปลอดภัยน่าจะห้ามความเร็วมากกว่าเศรษฐกิจตอนนี้ควรผ่อนปรนกันแบบกลาง ๆ จะมีความสุขกว่าไว้เศรษฐกิจดีดีเมื่อไรค่อยทำก็ยังทัน ผมแค่แสดงความคิดเห็นส่วนตัวในฐานะประชาชนคนหนึ่งเองนะครับ!!"นั้น
ขณะที่ พ.ต.อ.วิมล พิทักษ์บูรพา รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า กรณีดังกล่าวถือเป็นการไม่เหมาะไม่ควร เนื่องจากข้าราชการตำรวจมีหน้าที่ในการรักษากฎหมายตามนโยบายของรัฐบาล ไม่ใช่เป็นผู้ที่ออกมาต่อต้านกฎหมายเสียเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังกรณีดังกล่าวปรากฏเป็นข่าวตามสื่อต่าง ๆ และทางสังคมออนไลน์ พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จว.ชุมพร จึงมีคำสั่งให้ พ.ต.ท.เอกราช ทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงมายัง ภ.จว.ชุมพรทันที หากภ.จว.ชุมพรพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นการกระทำความผิดจริงตามที่ปรากฏตามสื่อต่าง ๆ ก็คงต้องมีการตั้งกรรมการเพื่อสอบสวนทางวินัย เพราะข้าราชการตำรวจมีวินัยในการควบคุมดูแลอยู่ ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.เอกราชระบุว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวในฐานะประชาชนคนหนึ่ง แต่มาโพสต์ในเฟซบุ๊กที่เป็นสาธารณะทั้งที่ตนยังเป็นตำรวจอยู่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง
“สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้มีการประชุมทางไกลผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในเรื่องนี้ เพื่อต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติทุกนายมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องโดยกำชับว่าในเบื้องต้นที่มีการบังคับใช้กฎหมายนี้คือตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2560หากพบว่าประชาชนยังไม่ปฏิบัติกฎหมายก็จะใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก นั่นคือ 1.อะลุ่มอล่วยไปก่อนหากเห็นว่าไม่เป็นอันตรายจนเกินไป 2.ใช้วิธีกล่าวตักเตือน ขอให้ผู้ทำความผิดไปแก้ไข เปลี่ยนแปลงให้ถูกต้องเพื่อมิให้มีการกระทำผิดอีก และ 3.พยายามรณรงค์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องนี้แก่ประชาชน” พ.ต.อ.วิมล กล่าว
ด้านนายฉลองชาติ ยังปักษี อายุ 60 ปี 120 หมู่ที่ 15 ต.ท่าข้าม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร อาชีพ ทำสวน กล่าวว่า การมีรถกระบะและนั่งรถไปด้วยกันหลาย ๆ คน หลายบ้านเป็นการลดพลังงานเมื่อออกกฎหมายมาไม่ให้นั่งกระบะ เห็นว่ามันตึงเกินไปอาจจะเหมาะสมกับเมืองใหญ่ ๆ ที่มีการท่องเที่ยว ถ้ามีการนำคนมานั่งในกระบะหลังก็เห็นว่าสมควร แต่ควรยกเว้นในภาคเกษตรกรที่ต้องนำแรงงานไปใช้ในการเกษตรที่ไม่ใช่นำคนไปเที่ยว จึงควรแบ่งโซนในการบังคับใช้ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมในการใช้บังคับได้จริง.