บิ๊กตู่ ปัดข่าวดีเอสไอเตรียมเผด็จศึก ‘ธรรมกาย’ ยันทำตาม พ.ร.บ.สงฆ์
"บิ๊กตู่" ปัดข่าว "ดีเอสไอ" เตรียมเผด็จศึก "ธรรมกาย" ใน 5 วัน ยันจับสึกพระต้องทำตามขั้นตอนของ พ.ร.บ.สงฆ์ ไม่ใช่จะจับสึกผ่านโซเชียลมีเดีย
ที่พล.ม.2 พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขอชี้แจงถึงกระแสข่าวว่าอีก 5 วันจะมีการเผด็จศึกวัดพระธรรมกายว่า นายกรัฐมนตรีได้ทำการตรวจสอบจากคำให้สัมภาษณ์ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แล้วไม่ได้พูดแบบนั้น จึงขอร้องสื่อมวลชนว่าคงไม่ใช่ว่า 5 วัน ที่จะมีการจบประเด็น ขอร้องอย่าไปตีความแบบนั้น การที่เจ้าหน้าที่ออกมาพูดถึงระยะเวลา 5 วันนั้น ความหมายคือจะมีความก้าวหน้าของคดีเป็นลำดับไป
"ที่พูดว่า 5 วันนั้น ไม่ได้หมายความว่าเจ้าหน่าที่จะเข้าไปเผด็จศึก หรือเข้าตีไม่ใช่แบบนั้น ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่อย่างระมัดระวังไม่อยากให้เกิดปมประเด็นที่จะทำให้ฝ่ายต่าง ๆ นำไปขยายผลในเชิงเสียหายได้ จึงต้องมีความรอบคอบในการดำเนินการและมีความยืดหยุ่นอย่างสูง เพราะฉะนั้นเรื่องของระยะเวลา 5 วันที่พูดถึงนั้นหมายความว่าจะมีความคืบหน้าให้เห็นเป็นระยะ ๆ" พล.ท.สรรเสริญ กล่าว
ในส่วนที่มีคนเรียกร้องอยากให้มีการจับสึกพระที่กระทำผิดนั้น นายกรัฐมนตรี เคยชี้แจงให้สื่อมวลชนได้ทราบแล้วว่าการจะสึกพระนั้นต้องยึดหลักตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ในข้อที่ 21 คือ ถ้ามีการกระทำความผิดเจ้าหน้าที่จะต้องจับตัวผู้ที่กระทำผิดได้เสียก่อน ถึงจะสามารถดำเนินการจับสึกได้
"ไม่เช่นนั้นก็ต้องมีการสึกผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดียกันอย่างมากมาย ก็จะเป็นปัญหากันอีก เรื่องนี้ก็ขอให้เข้าใจตรงกัน เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทำได้ก็คือต้องดำเนินการเป็นขั้นตอนค่อย ๆ กดดันเพื่อให้สังคมเกิดความเข้าใจทั้งกับประชาชนบางส่วน พระที่อยู่ในพื้นที่หรือพระที่ไม่ใช่ลูกวัดให้ทยอยกันออกมา เชื่อว่าเมื่อถึงเวลาหนึ่งก็จะสามารถเข้าดำเนินการตรวจค้นได้ นายกฯได้ฝากชี้แจงเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน" พล.ท.สรรเสริญ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) ในวันที่ 10 มี.ค.นี้นายกรัฐมนตรีได้มีการสั่งการหรือมอบหมายโยบายเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายอย่างไรบ้าง พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า ในเรื่องดังกล่าวมีการรายงานในการประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาแล้ว คงเป็นเรื่องของการประสานงานระหว่างสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องว่าขั้นตอนต่อไปจะต้องทำอะไร ซึ่งก็คงมีสมมุติฐานในหลาย ๆ กรณี ว่ากรณีแบบนี้จะทำอย่างไร ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้รับทราบและมอบหมายให้รัฐมนตรีทุกคนได้ติดตามข้อมูลโดยตลอดไม่ว่าจะเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้อง เนื่องจากนายกรัฐมนตรีต้องการให้ทุกคนได้ช่วยกันชี้แจงให้สังคมทราบว่า เรื่องของวัดธรรมกายไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากเป็นเรื่องของสงฆ์และเมื่อมีฆราวาสเข้าไปยุ่งเกี่ยวก็อาจทำให้สังคมเกิดความไขว้เขว หรืออาจได้ข้อมูลไม่ครบถ้วนแท้จริงทั้งหมด
"ความจริงแล้วเป็นเรื่องของการกระทำผิดกฎหมายที่เราไม่ได้ต้องการจะนำมาลงโทษ เพียงแต่ขออย่างเดียวคือให้เข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมส่วนจะถูกจะผิดก็ว่ากันไป ต้องแยกแยะเรื่องให้ออก" พล.ท.สรรเสริญ กล่าว