พบปมการเมืองโยงยิงรถนักเรียนรือเสาะ สงสัยยืมมือ (ปืน) แนวร่วมฯก่อเหตุ
คดีคนร้ายยิงถล่มรถของ นายสมชาย ทองจันทร์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ทำให้ตัวนายสมชายและคนในครอบครัวเสียชีวิตถึง 4 ราย หนึ่งในนั้นเป็นเด็กชายวัยเพียง 8 ขวบนั้น เริ่มพบร่องรอยความขัดแย้งทางการเมืองที่อาจเป็นเบื้องหลังที่แท้จริงของเหตุรุนแรงในครั้งนี้
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์เมื่อวันอังคารที่ 7 มี.ค.60 ว่า เบื้องต้นน่าจะเป็นเรื่องการเมืองท้องถิ่น เพราะผู้ตายเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แต่รายละเอียด แม่ทัพภาคที่ 4 กำลังสรุปมา
สอดรับกับ พ.อ.พสิษฐ์ ชาญเลขา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 ที่บอกว่า เป็นเหตุที่มีความเชื่อมโยงระหว่างผลประโยชน์ในพื้นที่กับความมั่นคงร่วมกัน
ข้อมูลที่ "ทีมข่าวอิศรา" รวบรวมได้ ก็สอดคล้องกับประเด็นของฝ่ายความมั่นคง นั่นก็คือ นายสมชาย เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 บ้านธรรมเจริญ ต.โคกสะตอ ซึ่งหลายหมู่บ้านในตำบลนี้ เดิมเป็นพื้นที่ "นิคมสร้างตนเอง" ทำให้มีคนจากต่างถิ่นเข้ามาตั้งรกรากอยู่อาศัย หลายหมู่บ้านเป็นหมู่บ้านพุทธ แต่ที่ผ่านมามีปัญหาความขัดแย้งเกี่ยวกับการเมืองท้องถิ่นค่อนข้างรุนแรง ทั้งจากการเลือกตั้ง และการหักกันในเรื่องการบริหารงาน ถึงขั้นเคยมีปากเสียงและข่มขู่กันมาแล้ว
อย่างไรก็ดี ผู้ช่วยฯสมชาย ถือว่าเป็นผู้นำระดับท้องถิ่นที่ชาวบ้านรัก เข้ากันได้ดีทั้งกับคนพุทธและมุสลิม การตายของเขาและครอบครัวทำให้คนในชุมชนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่กล้าปริปากอะไร เนื่องจากทราบดีว่าเบื้องหลังของเรื่องนี้เกิดจากอะไร
ข้อมูลที่ "ทีมข่าวอิศรา" ได้มาก็คือ มีการยืมมือแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ในการก่อเหตุ หรืออาจจะใช้วิธี "ยืมปืน" ของแนวร่วมขบวนการเพื่อเบี่ยงประเด็นการสืบสวนของตำรวจ
ข้อมูลนี้สอดคล้องกับผลตรวจพิสูจน์ปลอกกระสุนปืนที่พบในที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งพบว่าเป็นปลอกกระสุนปืนกล ขนาด .223 ( 5.56 มม.) จำนวน 32 ปลอก และปลอกกระสุนปืนออโตเมติก ขนาด 9 มม. LUGER จำนวน 11 ปลอก โดยปลอกกระสุนยิงจากปืน 5 กระบอก เป็นเอ็ม 16 จำนวน 3 กระบอก และปืนเอชเค 33 กับปืนพกขนาด 9 มม.
ปืนเหล่านี้มีประวัติถูกใช้ในการก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่มาแล้วนับสิบคดี บางกระบอกใช้ก่อเหตุร่วมกันในคดีเดียวกัน บางกระบอกแยกกัน เช่น
1.ยิงทหาร ร้อย ร.15221 หน่วยเฉพาะกิจยะลา 12 เสียชีวิต 4 นาย เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.58
2.ยิงและเผา ส.อ.ประสิทธิ์ นัคราเรือง และ พลทหารยูโสบ เต๊ะหลี ที่บ้านท่าเรือ ต.บาตง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อ 16 ก.ค.58
3.ยิง นายวิรัตน์ จิ้มเท่ง เจ้าหน้าที่ อส.อำเภอรามัน จ.ยะลา เมื่อวันที่ 22 ก.ย.58
4.ยิง ส.อ.มาหะหมัด ซีระ ที่ ต.บาลอ อ.รามัน จ.ยะลา เมื่อวันที่ 3 ต.ค.58
5.ยิงนายรอเส๊ะ ยะดาหะ ผู้ใหญ่บ้านใน ต.ยะต๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา เสียชีวิต เมื่อวันที่ 6 ก.ค.58
6.โจมตีฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) บาโร๊ะ ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา เมื่อวันที่ 31 ก.ค.58
7.ยิงตำรวจชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (อีโอดี) ของศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ อ.รามัน จ.ยะลา เมื่อวันที่ 23 ม.ค.58
และล่าสุดปืนทั้งหมดถูกนำมาใช้ยิงครอบครัวของนายสมชาย ทองจันทร์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฯ ที่ อ.รือเสาะ
หากในที่สุดแล้วสมมติฐานทั้งหมดนี้เป็นความจริง โจทย์ข้อใหญ่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายความมั่นคงต้องช่วยกันแกะปมต่อไปก็คือ ความเชื่อมโยงระหว่างนักการเมืองหรือผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น กับบรรดาแนวร่วมก่อความไม่สงบ และอาวุธปืนซึ่งเชื่อกันว่าเป็น "ปืนกลาง" เคลื่อนที่ไปตามภารกิจที่ถูกใช้
ด้านความคืบหน้าการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นพื้นที่ต้องสงสัย 5 เป้าหมาย และควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยมาเป็นระยะ จนถึงขณะนี้รวมแล้ว 7 ราย และได้ปล่อยตัวไปบางส่วนเพราะไม่พบความเชื่อมโยงกับคดี
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : บรรยากาศที่ตัวอำเภอรือเสาะ เช้าวันรุ่งขึ้นหลังเกิดเหตุ มีการรวมตัวกันของประชาชนเพื่อประณามการกระทำที่ป่าเถื่อนรุนแรง