ก.วัฒนธรรมดัน “เข้าวัดวันอาทิตย์” ตั้งเป้า 1 วัด 1 ตำบล 8 พันแห่งทั่ว ปท.ปี 54
เพื่อแก้ปัญหาเสาศาลามากกว่าคนเข้าวัด ก.วัฒนธรรมผลักโครงการเข้าวัดวันอาทิตย์ เป็นทางเลือกให้ชาวพุทธที่ไม่มีโอกาสเข้าวัดวันพระซึ่งไม่ตรงกับวันหยุดราชการ โชว์ตอบรับ 2,459 แห่ง ผลักต่อ “1 วัด 1 ตำบล” 8,000 แห่งทั่วประเทศ ชูวัดปัญญานันทารามต้นแบบบูรณาการศาสนธรรมสู่การศึกษาทุกระดับ
วานนี้(10 ต.ค.53) ที่วัดปัญญานันทาราม จ.ปทุมธานี นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายสด แดงเอียด อธิบดีกรมการศาสนา พระปัญญานันทมุนี เจ้าอาวาสวัดปัญญานันทาราม ร่วมแถลงข่าว “โครงการเข้าวัดปฏิบัติธรรมวันอาทิตย์” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2554
พระพรหมวชิรญาณ กรรมการมหาเถระสมาคม กล่าวสัมโมทนียกถาว่าการให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา เป็นวิถีชาวพุทธ โครงการนี้เป็นทางเลือกหนึ่งให้พุทธศาสนิกชนที่ไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมตามหลักพระพุทธศาสนาในวัดวันพระได้ จะได้เข้าวัดปฏิบัติธรรมวันอาทิตย์ เพื่อน้อมนำหลักธรรมมาใช้ในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องดีงาม สมกับคำว่าศีลธรรมกลับมาโลกาจะสงบร่มเย็น และเป็นการขยายกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาไปอย่างกว้างขวาง
นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่าวัดเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นหนึ่งในสถาบันหลักของชาติที่มีอิทธิพลฝังลึกในวิถีชีวิตไทยมาช้านาน นอกจากเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ยังเป็นศูนย์กลางชุมชน วัฒนธรรม เป็นที่สงเคราะห์ ที่พึ่งทางใจ ที่พักผ่อนหย่อนใจ การไปวัดจึงเป็นวิถีดั้งเดิมของคนไทยที่รัฐบาลต้องการพลิกฟื้น กระทรวงวัฒนธรรมจึงจัดโครงการเข้าวัดปฏิบัติธรรมวันพระต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน แต่วันพระอาจไม่ตรงกับวันหยุดตามสากลนิยม เพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตชาวพุทธปัจจุบัน จึงจัดโครงการเข้าวัดปฏิบัติธรรมวันอาทิตย์ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเป็นทางเลือกแก่พุทธศาสนิกชน ส่งเสริมให้วันอาทิตย์เป็นครอบครัว ให้คนได้ใกล้ชิดและนำหลักธรรมไปดำเนินชีวิตให้มีสติในชีวิตประจำวัน เป็นประโยชน์แก่ตน ครอบครัว สังคม ประเทศ
“เบื้องต้นกระทรวงได้ประสานกับวัดที่มีความพร้อม มหาเถระสมาคมได้ให้คณะพระสังฆาธิการสนับสนุน มีวัดที่ตอบรับเข้าร่วม 2,459 วัด ทั้งนี้จะขยายไปยังวัดให้ครบทุกตำบล ในปี 2554”
ด้าน นายสด กล่าวว่า การเข้าวัดปฏิบัติธรรมสามารถทำได้ทุกวันตามแต่สะดวก แต่วันอาทิตย์เป็นวันหยุดที่ประชาชนจะได้ถือโอกาสพักผ่อนพร้อมๆกับได้ความร่มเย็นจากการปฏิบัติธรรมทั้งครอบครัว กระทรวงโดยกรมการศาสนาตั้งเป้า 1 ตำบล 1 วัด ซึ่งหมายถึง 8,000 วัด และถ้าทำได้ทั้งหมดก็หมายถึง 3 หมื่นกว่าวัดทั่วประเทศ
พระปัญญานันทมุนี กล่าวว่า เมื่อก่อนคนไทยเข้าวัดวันพระ ปัจจุบันก็เข้าแต่ไม่ทั่วถึงคือเฉพาะบางกลุ่ม เช่น ผู้สูงวัยที่เกษียณแล้วหมดทางไปเลยหันหน้าเข้าวัด จนเสาศาลามากกว่าคนเข้าวัดแล้ว เหมือนคนแก่มาช่วยผดุงพระพุทธศาสนาไว้ อีกมุมหนึ่งคือมาช่วยพระปลงสังเวส และเมื่อมีการปรับเปลี่ยนวันหยุดเป็นเสาร์อาทิตย์ ซึ่งถือเป็นวันพักผ่อน แต่มาดูแล้วได้แต่พักไม่มีผ่อน คนเลยเครียด หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ เห็นปัญหานี้ว่าสังคมไทยอันตรายแล้ว มีแต่ทำมาหากิน ไม่มีการสร้างชีวิตให้ร่มเย็นเป็นสุขได้
“สังคมชาวพุทธเป็นสังคมที่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงตามหลักอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ เลยเปิดวัดแสดงธรรมวันอาทิตย์ที่พุทธสถานเชียงใหม่ตั้งแต่ปี 2492 จนกระทั่งเริ่มตั้งวัดชลประทานรังสฤษดิ์ และรวมทั้งวัดปัญญานันทาราม 2537 จนกระทั่งเกิดโครงการนี้ในปัจจุบัน”
ทั้งนี้วัดปัญญานันทาราม เป็นวัดต้นแบบโครงการเข้าวัดปฏิบัติธรรมวันอาทิตย์ ซึ่ง 8.00-12.00 น.จะมีกิจกรรมทำบุญตักบาตร ฟังเทศน์ สาธยายพระไตรปิฏก นอกจากนี้ทุกวันศุกร์เสาร์อาทิตย์ ตั้งแต่ประมาณ 13.00 น.มีกิจกรรมเจริญสมาธิภาวนา ส่วนวันพระก็มีกิจกรรมทางพุทธศาสนาเป็นปกติ วัดนี้ยังมีกิจกรรมโดดเด่นมากมาย เช่น ค่ายพุทธธรรม, โครงการพุทธอาสาทำบุญไม่ผ่านเงิน, วารสารปัญญาสาร และมีสถานีวิทยุชุมชนคลื่นสีขาวของชาวพุทธ fm97.75 ออกอากาศ 05.00-24.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ 0864618353 และ 029046102 .
ขอบคุณภาพจาก : http://www.google.co.th/images?q=รูปวัดปัญญานันทาราม