ศาลอุทธรณ์ยืน ประหาร 2 พม่า ข่มขืน-ฆ่า 2 นักท่องเที่ยว เกาะเต่า
ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษายืนสั่งประหารชีวิต 2 ผู้ต้องหาชาวเมียนมา ข่มขืนและฆ่า 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ บนเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ด้วยเหตุผลตามอุทธรณ์ไม่เป็นสาระ
เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2560 ศาลจังหวัดเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ผู้พิพากษาศาลอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 8 คดีฆาตกรรมสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่า โดยมีนายธีระวุฒิ พราหมหันต์ รองอัยการจังหวัดเกาะสมุย ฝ่ายโจทก์ฟังรับฟังคำตัดสินแทนผู้เสียหายฝ่ายโจทก์ โดยคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ภาค 8 ได้พิจารณาคดีดังกล่าวตามศาลชั้นต้นว่า การอุทธรณ์ของทนายฝ่ายจำเลยทั้งสองได้แก่ นายซอลิน เป็นจำเลยที่ 1 และนายเวพิว เป็นจำเลยที่ 2 แรงงานชาวเมียนมาที่อ้างว่าฝ่ายโจทก์ไม่มีเอกสารและภาพถ่ายในขั้นตอนการจัดเก็บวัตถุพยานการบรรจุปิดผนึก การส่ง และรับวัตถุพยาน และการตรวจสอบวัตถุพยานบางขั้นตอนมาเป็นพยานนั้น เห็นว่าในการปฎิบัติหน้าที่เกี่ยวกับคดีนี้นับแต่พนักงานสอบสวนรับแจ้งเหตุเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุอันเป็นจุดเริ่มต้นของการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานไปจนถึงการตรวจพิสูจน์เสร็จสิ้น ผู้ตรวจพิสูจน์ออกรายงานส่งให้พนักงานสอบสวนมีเหตุการณ์ขั้นตอนที่ต้องดำเนินการหลายขั้นตอนการทำเอกสารถ่ายภาพเหตุการณ์และขั้นตอนต่างๆทั้งหมดเพื่อเก็บไว้ย่อมเป็นไปไม่ได้
การที่โจทก์ไม่ได้เอกสารหรือภาพถ่ายของเหตุการณ์บางขั้นตอน เช่น ไม่ได้รับภาพถ่ายขณะที่ตรวจเก็บวัตถุพยานจากช่องคลอด ทวารหนัก และหัวนมของผู้ตายที่ 2 มาเป็นพยานจึงไม่เป็นข้อพิรุธที่จะระแวงว่าเจ้าพนักงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้ปฎิบัติงานในขั้นตอนในการตรวจเก็บนั้นเพราะสิ่งที่ทำให้ศาลเชื่อหรือไม่เชื่อพยานหลักฐานของโจทก์นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับภาพถ่ายภาพหนึ่งภาพใดหรือเอกสารฉบับหนึ่งฉบับใดของเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ้งหรือขั้นตอนใดชั้นตอนหนึ่งเท่านั้น แต่ศาลเชื่อพยานหลักฐานของโจทก์ก็โดยพิจารณาจากพยานหลักฐานทั้งปวงที่โจทก์นำสืบมาทั้งหมดว่ามีเหตุผลเชื่อมโยงมั่นคงหนักแน่นจนแน่ใจว่ามีการกระทำผิดจริงและจำเลยทั้งสองเป็นผู้กระทำความผิดนั้นโดยปราศจากความสงสัยใดๆ ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาแล้วข้างต้น สำหรับเหตุผลอื่นๆตามอุทธรณ์ข้ออื่นของจำเลยทั้งสองไม่เป็นสาระและไม่ทำให้ผลแห่งคำพิพากษาเปลี่ยนแปลงไป จึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองมานั้น ศาลอุทธรณ์ภาค 8 เห็นพ้องด้วยอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น ผู้พิพากษาศาลจังหวัดเกาะสมุยจึงได้อ่านคำตัดสินศาลอุทธรณ์ที่พิจารณาตามศาลชั้นต้นคือให้ประหารชีวิต นายซอลิน และนายเวพิว
สำหรับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 57 เวลาประมาณหลังเที่ยงคืน จำเลยทั้ง 2 มีเจตนาฆ่านายเดวิดวิลเลียม มิลเลอร์ อายุ 24 ปี โดยการใช้ด้ามจอบตีจนถึงแก่ความตาย และน.ส.ฮานนาห์ วิคตอเรีย วิทเธอริดจ์ อายุ 24 ปี ถูกจำเลยทั้งสองข่มขืนกระทำชำเราและใช้จอบตีทำร้ายจนเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณโขดหินหาดทรายรี หมู่ 1 ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี จากนั้นประมาณ 2 สัปดาห์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมนายซอลินผู้ต้องหาได้ที่เกาะเต่า ส่วนนายเวพิว ผู้ต้องหาอีกรายได้หลบหนีไปและถูกจับกุมได้ที่ท่าเทียบเรือนอนในตัวเมืองจ.สุราษฎร์ธานี กระทั่งเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.58 ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ประหารชีวิตจำเลยทั้ง 2 คน