ชัดๆคำพิพากษา"เทพสถิต วินด์ฟาร์ม" เช่าที่ส.ป.ก.ผลิตไฟขายกฟผ.-คนพื้นที่ไม่ได้ ปย.
เนื่องจากกระแสไฟฟ้าของบริษัทเทพสถิตฯ ที่ผลิตได้จะถูกรับซื้อโดย กฟผ.และส่งไปยังสถานีไฟฟ้าแรงสูงบำเหน็จณรงค์ เพื่อจำหน่าย การผลิตกระแสไฟฟ้าของบริษัทเทพสถิตฯ จึงมิได้เป็นประโยชน์แก่เกษตรกรในเขตดำเนินการปฏิรูปที่ดินดังกล่าว และราษฎรในพื้นที่ไม่ได้ประโยชน์ โดยตรงแต่อย่างใด
จากกรณีศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนตามศาลปกครองกลาง สั่งให้ยกเลิกสัญญาเช่าพื้นที่ ส.ป.ก.ในการเข้าติดตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้าของบริษัท เทพสถิต วินด์ฟาร์ม จำกัด เพราะไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น
มีสาระและความน่าสนใจในคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อ.1203/2556 คดีหมายเลขแดงที่ อ.1728/2559 ระหว่างนางสาววันวิสา กลิ่นศรีสุข และพวกอีก 10 คน ผู้ฟ้องคดี ซึ่งฟ้องเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดชัยภูมิ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 และ บริษัทเทพสถิต วินด์ฟาร์ม จำกัด ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3
คดีนี้ ผู้ฟ้องคดีที่ 1-10 ฟ้องว่า ผู้ฟ้องคดีที่ 1-10 เป็นราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชุมชนตำบลบ้านไร่ อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ ได้รับความเดือดร้อนเสียหาย อันเนื่องจากการที่ คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดชัยภูมิ ได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 4/2552 เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2552 เห็นชอบให้บริษัทเทพสถิต วินด์ฟาร์ม จำกัด ใช้พื้นที่เพื่อดำเนินกิจการติดตั้งกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้าในเขตปฏิรูปที่ดิน ตำบลบ้านไร่ อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ จำนวน 38 ไร่ โดยวิธีการเช่ามีกำหนด 3 ปี
ภายหลังมีมติดังกล่าว สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จังหวัดชัยภูมิได้เสนอให้ เลขาธิการ ส.ป.ก.พิจารณา และได้อนุมัติให้บริษัทเทพสถิต วินด์ฟาร์ม จำกัด ติดตั้งกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานลม เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2553 จากนั้นมีการทำสัญญาเช่าดังกล่าวไม่สุจริต กล่าวคือ มีกำหนดระยะเวลาให้เช่า 27 ปี ซึ่งจากเดิมมีกำหนด 3 ปี โดยไม่ผ่านความเห็นชอบจาก เลขาธิการ ส.ป.ก.
นอกจากนี้พื้นที่เพื่อดำเนินกิจการติดตั้งกังหันลมยังเป็นเขตพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 บี ซึ่งอยู่ในข่ายที่ต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดยต้องได้รับความเห็นชอบการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรี เสียก่อน ส.ป.ก.จึงจะพิจารณาอนุญาตให้ดำเนินกโครงการได้
แต่ปรากฎว่า โครงการดังกล่าว ไม่ได้จัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และไม่ได้รับการพิจารณาจากคณะรัฐมนตรีให้ใช้พื้นที่แต่อย่างใด ดังนั้นมติของคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดชัยภูมิ และคำสั่งอนุญาตของเลขาธิการ ส.ป.ก. จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ...
นอกจากนี้ ผู้ถูกฟ้องที่ 1-10 เห็นว่า เมื่อโครงการติดตั้งกังหันลมผลิตกระแสดไฟฟ้าด้วยพลังงานลม อยู่ในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 บี และเป็นโครงการระยะยาวที่อาจส่งผลกระทบต่อการอุปโภคบริโภค และประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชุมชนตำบลบ้านไร่ อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ ทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติสุข เพราะต้องสูญเสียลุ่มน้ำชั้น 1 บี อันเป็นทรัพยากรธรรมชาติ ที่มีความอุดมสมบูรณ์ปราศจากมลภาวะ แต่กลับไม่มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นแต่อย่างใด
ในคำฟ้องผู้ถูกฟ้องที่ 1-10 ขอให้ศาลมีคำพิพากษา หรือคำสั่งดังนี้
1.เพิกถอนมติของคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดชัยภูมิ ในการประชุมครั้งที่ 4/2552 เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2552 ที่เห็นชอบกำหนดให้พื้นที่ตำบลบ้านไร่ อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นเขตปฏิรูปที่ดิน เป็นพื้นที่เพื่อกิจการกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้า และให้ บริษัทเทพสถิต วินด์ฟาร์ม จำกัด ใช้พื้นที่ดังกล่าวเพื่อดำเนินกิจการติดตั้งกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้า โดยวิธีการเช่า
2.สั่งให้ระงับ หรืองดเว้น หรือเพิกถอนการทำสัญญาเช่าพื้นที่ติดตั้งกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้าพื้นที่ตำบลบ้านไร่ อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ ที่เป็นพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 บี ระหว่างเลขาธิการ ส.ป.ก. และผู้ถูกฟ้องคดีคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดชัยภูมิ และ บริษัทเทพสถิต วินด์ฟาร์ม จำกัด จนกว่าจะได้ดำเนินการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม
ซึ่งศาลปกครองชั้นต้นพิพากษาเพิกถอนมติ คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดชัยภูมิ ได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 4/2552 เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2552 และให้บริษัทเทพสถิต วินด์ฟาร์ม จำกัด ใช้พื้นที่ดังกล่าวเพื่อดำเนินกิจการติดตั้งกังหันลมผลิตกระแสดไฟฟ้าโดยวิธีการเช่า
ทั้งนี้ ผู้ถูกฟ้องคดี อุทธรณ์คำพิพากษา โดยขอให้ศาลปกครองสูงสุดพิพากษากลับคำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น เป็นให้ยกฟ้อง
คดีนี้ศาลปกครองสูงสุดได้ออกนั่งพิจารณาคดี โดยรับฟังสรุปข้อเท็จจริงของตุลาการเจ้าของสำนวน และคำชี้แจงด้วยวาจาประกอบคำแถลงการณ์ของตุลาการผู้แถลงคดี และพิจารณาเอกสารทั้งหมดในสำนวนคดี กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ฯลฯ ที่เกี่ยวข้องประกอบแล้ว
ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีมีประเด็นที่ต้องวินิจฉัย มติของคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดชัยภูมิ ในการประชุมครั้งที่ 4 /2552 เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2552 ที่เห็นชอบกำหนดให้พื้นที่ตำบลบ้านไร่ อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นเขตปฏิรูปที่ดิน เป็นพื้นที่กิจการกังหันผลิตกระแสไฟฟ้า และให้ บริษัทเทพสถิต วินด์ฟาร์ม จำกัด ใช้พื้นที่ดังกล่าวเพื่อดำเนินกิจการติดตั้งกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้าโดยวิธีการเช่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ในเบื้องต้น มีประเด็นต้องพิจารณาก่อนว่า ส.ป.ก.มีอำนาจนำที่ดินในท้องที่ตำบลบ้านไร่ อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิมาใช้ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมหรือไม่
เห็นว่า ส.ป.ก.เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์และมีอำนาจนำที่ดินในท้องที่ตำบลบ้านไร่ อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ มาใช้ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้
กรณีมีประเด็นต้องวินิจฉัยต่อไปว่า กิจการกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้าของ บริษัทเทพสถิต วินด์ฟาร์ม จำกัด เป็นกิจการที่เป็นการสนับสนุนหรือเกี่ยวเนื่องกับการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือไม่
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้ บริษัทเทพสถิต วินด์ฟาร์ม จำกัด ได้ยื่นคำขอรับอนุญาตการจัดการที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์เพื่อใช้สำหรับกิจการที่เป็นการสนับสนุนหรือเกี่ยวเนื่องกับการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินกิจการกังหันลมผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยมีสถานะที่ประกอบกิจการ ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 2 ตำบลบ้านไร่ อำเถอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นเขตปฏิรูปที่ดินตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลยางกลัก และตำบลบ้านไร่ อำเถอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ.2552
อนึ่ง แม้โครงการดังกล่าวได้รับความเป็นชอบจากประชาคมในท้องถิ่น รวมทั้งความเห็นชอบจากองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านไร่ และผู้ขอได้ทำการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการในเบื้องต้น รวมถึงได้รับการส่งเสริมสนับสนุนการผลิตพลังงานทดแทน (โครงการไร่กังหันลม) จากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ก็ตาม
แต่โดยวัตถุประสงค์หลักของการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเพื่อช่วยให้เกษตรกรมีที่ดินทำกินและให้การใช้ที่ดินเกิดประโยชน์มากที่สุด รวมตลอดถึงการจัดที่อยู่อาศัยในที่ดินเพื่อเกษตรกรรมนั้น โดยเช่าซื้อ เช่า หรือเข้าทำประโยชน์ โดยรัฐให้ความช่วยเหลือในการพัฒนาอาชีพเกษตรกรรม การปรับปรุงทรัพยากรและปัจจัยการผลิต ตลอดจนการผลิตและการจำหน่ายให้เกิดผลดียิ่งขึ้น...
สำหรับโครงการกิจการกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้าของบริษัทเทพสถิตฯ มีลักษณะเป็นการจัดทำบริการสาธารณะอันเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมก็ตาม แต่กิจการดังกล่าวเป็นไปเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าจำหน่ายให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย อันเป็นกิจการที่มีวัตถุประสงค์ในการแสวงหากำไร มิใช่กิจการที่เป็นการบริการหรือเกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของเกษตรกรในด้านเศรษฐกิจและสังคมในเขตปฏิรูปที่ดินในท้องที่ตำบลบ้านไร่ อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ โดยตรง
เนื่องจากกระแสไฟฟ้าของบริษัทเทพสถิตฯ ที่ผลิตได้ จะถูกรับซื้อโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยและส่งไปยังสถานีไฟฟ้าแรงสูงบำเหน็จณรงค์ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย อำเภอบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ โดยผ่านสายส่งไฟฟ้าระบบ 115 กิโลโวลต์ เพื่อจำหน่าย
การผลิตกระแสไฟฟ้าของบริษัทเทพสถิตฯ จึงมิได้เป็นประโยชน์แก่เกษตรกรในเขตดำเนินการปฏิรูปที่ดินดังกล่าว อีกทั้งไม่ปรากฎข้อเท็จจริงในสำนวนคดีว่า ผู้ฟ้องคดีที่ 1-10 และราษฎรในพื้นที่ได้รับประโยชน์จากการผลิตกระแสไฟฟ้าของบริษัทเทพสถิตฯ โดยตรงแต่อย่างใด
นอกจากนี้ การจัดตั้งกองทุนพัฒนาไฟฟ้าก็เป็นเพียงผลของการดำเนินโครงการกิจการกังหันลมตามมติ กพช.ที่กำหนดให้จัดตั้งกองทุนเพื่อจัดหาเงินทุนในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อมในชุมชนพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ซึ่งได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโรงไฟฟ้าหรือการผลิตไฟฟ้าเท่านั้น
ดังนั้น โครงการกิจการกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้าของบริษัทเทพสถิตฯ จึงมิใช่กิจการที่เป็นการบริการหรือเกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของเกษตรกร ในด้านเศรษฐกิจและสังคมในเขตดำเนินการปฏิรูปที่ดิน อันไม่เข้าลักษณะตามความในข้อ 1.5 ของประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดกิจการอื่นที่เป็นการสนับสนุนหรือเกี่ยวเนื่องกับการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตามมาตรา 30 วรรคห้า แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2518 แก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2532 (ฉบับที่2)ฯ
ดังนั้น มติของคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดชัยภูมิ ในการประชุมครั้งที่ 4 /2552 เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2552 ที่เห็นชอบกำหนดให้พื้นที่ตำบลบ้านไร่ อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นเขตปฏิรูปที่ดิน เป็นพื้นที่เพื่อกิจการกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้า และให้ บริษัทเทพสถิต วินด์ฟาร์ม จำกัด ใช้พื้นที่ดังกล่าวเพื่อดำเนินกิจการติดตั้งกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้าโดยวิธีการเช่า จึงเป็นมติไม่ชอบกฎหมาย อุทธรณ์ฟังไม่ขึ้น
การที่ศาลปกครองชั้นต้นพิพากษาเพิกถอนมติของคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดชัยภูมิ ในการประชุมครั้งที่ 4 /2552 เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2552 ที่เห็นชอบกำหนดให้พื้นที่ตำบลบ้านไร่ อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นเขตปฏิรูปที่ดินและเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 บี ตามมติคณะรัฐมนตรีให้เป็นพื้นที่เพื่อกิจการกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้า และให้ บริษัทเทพสถิต วินด์ฟาร์ม จำกัด ใช้พื้นที่ดังกล่าวเพื่อดำเนินกิจการติดตั้งกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้าโดยวิธีการเช่า ส่วนคำขออื่นให้ยกนั้น ศาลปกครองสูงสุดเห็นพ้องด้วยในผล
พิพากษายืน
ที่มาภาพ:http://www.ewea.org