'บินไทย'สั่งห้ามสื่อดู! จอดทิ้งเครื่องบิน-ผอ.อู่ตะเภายันแค่ให้เช่าพื้นที่
ที่แท้ การบินไทย ห้ามสื่อเข้าไปดูเครื่องบิน ! ผอ.ท่าอากาศยานอู่ตะเภา ยันไม่มีข้อมูลจะให้ ปมเครื่องบิน 14 ลำถูกจอดทิ้ง แค่ให้เช่าพื้นที่เท่านั้น
จากกรณี กลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชั่น พร้อมด้วย นายโยธิน ภมรมนตรี และ นายสุเทพ สืบสันติวงศ์ ได้เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ผ่านศูนย์บริการประชาชน ขอให้ตรวจสอบความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อเครื่องบินแอร์บัส A340-500 และ A340-600 มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท เนื่องจากพบว่า ถูกจอดรอขายที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา (จ.ระยอง-พัทยา) ว่าโปร่งใส และคุ้มค่าต่อการลงทุนแล้วหรือไม่
ขณะที่ กลุ่มธรรมาภิบาลฯ ได้เข้ายื่นหนังสือถึงผู้บริหารบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) แล้วที่สำนักงานใหญ่ เพื่อขอนำคณะสื่อมวลชน และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้าดูสภาพทั้งภายนอกและภายในเครื่องบินที่จอดรอขายที่สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา และขอให้ชี้แจงข้อมูลราคาในการจัดซื้อเครื่องบิน สาเหตุของการหยุดบินของเครื่องบินทั้ง 14 ลำ ราคาที่ต้องการจะขายต่อ รวมถึงมีผู้สนใจจะซื้อต่อแล้วหรือไม่ ตลอดจนเป็นการจอดที่ถูกต้องตามหลักการที่เป็นสากลในการจอดอากาศยานเพื่อรอขายต่อหรือไม่ เพื่อให้เกิดความกระจ่างชัดต่อสาธารณที่ต้องการทราบข้อเท็จจริง (อ่านประกอบ : สตง.ลุยตรวจเครื่องบินที่อู่ตะเภาแล้ว หลังถูกร้องสอบปมจอดทิ้งรอขายต่อ)
ล่าสุด พล.ร.ต.วรพล ทองปรีชา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานอู่ตะเภา เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า กรณีดังกล่าวต้องติดต่อกับทางการบินไทยฯ ให้ชี้แจงในเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นเครื่องบินของการบินไทย ที่จอดอยู่ในส่วนที่การบินไทยฯ ได้เช่าไว้กับทางสนามบินฯ ซึ่งเป็นในส่วนของรันเวย์ และลานจอดเท่านั้น
“ต้องติดต่อไปที่การบินไทยฯ เพราะเป็นเครื่องของการบินไทยฯ เราแค่ให้เช่าพื้นที่รันเวย์และลานจอดเท่านั้น ไม่มีข้อมูลที่สามารถจะตอบได้ ส่วนที่มีเจ้าหน้าที่ สตง. เข้ามาตรวจสอบเราทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว ส่วนเรื่องที่ไม่อนุญาตให้สื่อฯ เข้ามานั้น เป็นคำสั่งของการบินไทยฯ” พล.ร.ต.วรพล กล่าว
ต่อมา ผู้สื่อข่าวติดต่อไปที่ศูนย์ข้อมูลข่าวสาร การบินไทยฯ โดยฝ่ายประชาสัมพันธ์การบินไทย ระบุว่า เรื่องดังกล่าวนี้ต้องให้ทางฝ่ายผู้บริหารเป็นผู้ชี้แจง โดยให้ผู้สื่อข่าวทำหนังสือเข้ามาก่อน และระบุว่าต้องการจะสัมภาษณ์ในเรื่องใดบ้าง
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เผยแพร่รายงานข่าวอ้างคำให้สัมภาษณ์ของ ร.อ.กนก ทองเผือก รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายทรัพยากรบุคคลและกำกับกิจการองค์กร ถึงกรณีนี้ว่า การจัดซื้อเครื่องบินแต่ละครั้งจะมีคณะกรรมการพิจารณาอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับการสั่งซื้อเครื่องบิน เครื่องยนต์ และกรอบเวลาในการจัดหา โดยเครื่องบินดังกล่าวคือ เครื่องบินแอร์บัส เอ 340-500 และ เอ 340-600 จำนวน 10 ลำ ซึ่งถูกจอดทิ้งไว้จริง เนื่องจากเมื่อปี 2551 บอร์ดการบินไทย มีมติให้ยกเลิกเส้นทางบินกรุงเทพฯ-นิวยอร์ก และ เส้นทางกรุงเทพฯ-ลอสแอนเจลิส ปัจจุบันจึงถูกนำจอดอยู่ที่สนามบินอู่ตะเภา เนื่องจากอยู่ระหว่างประกาศขาย แต่ยังไม่สามารถขายได้
“ส่วนที่ยังไม่สามารถขายได้ เพราะเครื่องบินของการบินไทยแต่ละลำมีอายุในการใช้งานตั้งแต่ 12 ปี 15 ปี และ 20 ปี ซึ่งต้องหักค่าเสื่อม และต้องประเมินราคากลาง การขายหากได้ราคาต่ำก็ไม่คุ้ม นอกจากนี้ก็ยังมีการขายตามสภาพเครื่องยนต์ ต้องพิจารณาถึงความต้องการของตลาด ซึ่งบอร์ดของการบินไทยพยายามเร่งรัดการขายเครื่องบินอยู่เนื่องจากต้องการรายได้” ร.อ.กนก กล่าวและว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินที่จอดรอขายอยู่ที่ท่าอากาศยานอู่ตะเภา มีจำนวนทั้งสิ้น 14 ลำ ได้แก่ เครื่องบินแอร์บัส A340 จำนวน 6 ลำ เครื่องบินแอร์บัส A330 จำนวน 4 ลำ และเครื่องบินโบอิ้ง 747 จำนวน 4 ลำ
อ่านประกอบ :
สตง.ลุยตรวจเครื่องบินที่อู่ตะเภาแล้ว หลังถูกร้องสอบปมจอดทิ้งรอขายต่อ