กษ. มอบรางวัล 3 ปราชญ์ดีเด่น รับวันเกษตรกร
ก.เกษตร มอบรางวัลปราชญ์ของแผ่นดินให้กับเกษตรกร รับวันพืชมงคลและวันเกษตรกร โดยแบ่งรางวัลออกเป็น 3 สาขา ได้แก่ ปราชญ์เกษตรเศรษฐกิจพอเพียง, ปราชญ์เกษตรผู้นำชุมชนและเครือข่าย, ปราชญ์เกษตรผู้ทรงภูมิปัญญาและมีคุณูปการต่อภาคการเกษตรไทย
วันที่ 12 พ.ค. 54 นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัลเกษตรกร สถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2554 ที่จะเข้ารับพระราชทานโล่รางวัลจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ประจำปี 2554 ณ พลับพลาที่ประทับ มณฑลพิธีสนามหลวง
โดยปราชญ์เกษตรดีเด่นที่ได้รับรางวัล 3 ท่านได้แก่ 1.หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ได้รับรางวัลปราชญ์เกษตรดีเด่น สาขาปราชญ์เกษตรผู้ทรงภูมิปัญญาและมีคุณูปการต่อภาคการเกษตรไทย เนื่องจากได้ทำวิจัย ส่งเสริมและพัฒนา ทั้งด้านพันธ์สัตว์ พันธ์พืช และพัฒนาไปสู่การช่วยเหลือประชาชนให้สามารถช่วยเหลือตนเองได้รวมถึงการ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และธรรมชาติ การพัฒนาคุณภาพผลผลิต ที่เน้นด้านความสดสะอาดและปลอดภัย จนทำให้เป็นที่ยอมรับของตลาดอย่างแพร่หลาย
2.นายจันทร์ที ประทุมภา ได้รับรางวัลปราชญ์เกษตรดีเด่นสาขาปราชญ์เกษตรเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเริ่มจากการเป็นหนี้จนต้องไปทำงานต่างประเทศเพื่อหาเงินกลับมาใช้หนี้ และไถ่ถอนที่ดินคืน หลังจากนั้นจึงเริ่มการทำเกษตรผสมผสาน ด้วยแรงกายแรงใจ ใช้แรงงานในครอบครัว หลังจากได้ดำเนินการเกษตรทฤษฎีใหม่ทำให้ไม่ต้องซื้ออาหารที่ต้องกินต้องใช้ เพราะปลูกที่อย่างสามารถกินและขายได้อีกทั้งยังถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้ที่ สนใจปีละไม่ต่ำกว่า 2-3 พันคน
3.นายลัภย์ หนูประดิษฐ์ได้ รับรางวัลปราชญ์เกษตรดีเด่น สาขาปราชญ์เกษตรผู้นำชุมชนและเครือข่าย เนื่องจากเป็นผู้ก่อตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ คลองหวะ ซึ่งสามารถนำไปขยายเป็นต้นแบบสู่จังหวัดอื่นได้ อีกทั้งยังจัดตั้งศูนย์แพทย์ประจำสหกรณ์ โดยเน้นแนวคิดเรื่องการป้องกันมากกว่ารักษา ทำให้ชุมชนเข้าใจและเข้าถึงบริการเรื่องสุขภาพอนามัยมากขึ้นด้วย
ทั้งนี้การคัดเลือกเกษตรกร สถาบันเกษตรกร สหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติ เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 จนถึงปัจจุบัน ด้วยวัตถุประสงค์หาบุคคลที่มีผลงานทางเกษตรดีเด่น ปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์ เสียสละ บำเพ็ญประโยชน์เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของส่วนร่วม โดยการคัดเลือกเกษตรกรดีเด่น แบ่งตามสาขาอาชีพต่างๆ 14 สาขา ได้แก่ อาชีพทำนา, ทำสวน, ทำไร่, ทำไร่นาสวนผสม, เลี้ยงสัตว์, เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด, เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำกร่อย, เพาะเลี้ยงปลาสวยงามและพรรณไม้น้ำ, ปลูกสวนป่า, บัญชีฟาร์ม, พัฒนาที่ดินเพื่อเกษตรกรรม, การใช้วิชาการเกษตรดีที่เหมาะสม, ที่ปรึกษากลุ่มยุวเกษตรกร และสมาชิกกลุ่มยุวเกษตรกร
นายบุญมี สุระโคตร เกษตรกร ต.ดู่ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ผู้ได้รับรางวัลเกษตรกรดีเด่น สำหรับอาชีพทำนา กล่าวว่า เริ่มลดการใช้ปุ๋ยเคมีมาตั้งแต่ปี 2544 และนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เพื่อลดรายจ่าย ลดต้นทุนการปลูกข้าว อีกทั้งยังอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยเริ่มจากการไม่เผาตอซังและไถกลบตอซังและหว่านพืชปุ๋ยสด ต่อมา พ.ศ. 2547 ได้ทำปุ๋ยหมักอินทรีย์ชีวภาพใช้ในการทำนาเพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุในดิน จนเกิดเครือข่ายสมาชิกในหมู่บ้านใกล้เคียงจำนวน 47 ราย ระดมทุนได้ 608,000 บาทจึงเป็นการเริ่มต้นผลิตปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ และเกิดการคิดค้นการทำอาหารเสริมพืชชนิดน้ำ และสมุนไพรไล่แมลงมาใช้เองหลายชนิด ทำให้ประหยัดต้นทุนการผลิตจนมีรายได้จากการทำนาปี 22 ไร่ และนาปรัง 5 ไร่ รวมทั้งสิ้น 144,500 บาท นอกจากนี้ยังมีรายได้จากการขายปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ด และการแปรรูปข้าวขาวดอกมะลิ 105 เป็นข้าวกล้อง และข้าวกล้องงอก จนเป็นที่ยอมรับ ของคนในวงกว้าง ภายใต้ชื่อ เกษตรกรเกษตรทิพย์ และข้าวตราลุงบุญมี