สตง.ลุยตรวจเครื่องบินที่อู่ตะเภาแล้ว หลังถูกร้องสอบปมจอดทิ้งรอขายต่อ
สตง. ลุยตรวจเครื่องบิน 14 ลำ ที่อู่ตะเภาแล้ว ไม่อนุญาตสื่อเข้าดู หลัง กลุ่มธรรรมาภิบาลฯ เข้ายื่นร้องบอร์ด-ผู้บริหาร ‘การบินไทยฯ’ สอบปมจัดซื้อเครื่องบินมาจอดทิ้งไว้รอขายต่อ ชี้ทำเสียหายนับแสนล้าน
จากกรณีเมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2560 กลุ่มธรรมาภิบาลฯ นายโยธิน ภมรมนตรี และ นายสุเทพ สืบสันติวงศ์ ได้เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ผ่านศูนย์บริการประชาชน ขอให้ตรวจสอบความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อเครื่องบินแอร์บัส A340-500 และ A340-600 มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท เนื่องจากพบถูกจอดรอขายที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา (จ.ระยอง-พัทยา) ว่าโปร่งใส และคุ้มค่าต่อการลงทุนแล้วหรือไม่
ล่าสุด นายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ประธานกลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชั่น เปิดเผย สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า กลุ่มธรรมาภิบาลฯ ได้เดินทางไปที่สำนักงานใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เข้ายื่นหนังสือถึงผู้บริหารการบินไทยฯ เพื่อขอนำคณะสื่อมวลชน และ สตง. เข้าดูสภาพภายนอกและภายในเครื่องบินที่จอดรอขาย จำนวน 14 ลำ (มูลค่าการจัดซื้อกว่า 8 หมื่นล้านบาท) คือ เครื่องบินแอร์บัส A340 จำนวน 6 ลำ เครื่องบินแอร์บัส A330 จำนวน 4 ลำ และเครื่องบินโบอิ้ง 747 จำนวน 4 ลำ ที่สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ตามวันที่สะดวกและเหมาะสม และเพื่อให้เกิดความกระจ่างชัดต่อสาธารณที่ต้องการทราบข้อเท็จจริง ขอให้ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม ดังนี้
1.ขอทราบราคาในการจัดซื้อเครื่องบินทั้ง 14 ลำ
2.ขอทราบสาเหตุที่แท้จริงของการหยุดทำการบินของเครื่องบินทั้ง 14 ลำ
3.ขอทราบสาเหตุที่แท้จริงของการจอดรอขายต่อ และหรือ เป็นการจอดที่ถูกต้องตามหลักการที่เป็นสากลในการจอดอากาศยานเพื่อรอขายต่อหรือไม่ ในพื้นที่สนามบินอู่ตะเภาที่มีสภาพภูมิประเทศติดกับชายฝั่งทะเล
4.ขอทราบราคาที่ต้องการจะขายต่อ และหรือ มีผู้สนใจจะซื้อต่อเเล้วหรือไม่ ของเครื่องบิน (ดูเอกสารประกอบ)
นางเพชรพริ้ง สารสิน ผอ.ใหญ่ ฝ่ายภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร ได้เป็นผู้ลงรับหนังสือดังกล่าว พร้อมกล่าวว่า การบินไทยฯ จะรับเรื่องนี้ไว้ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของการบินไทยฯ ต่อไป ทั้งนี้ ไม่สะดวกตอบคำถามมใด ๆ ต่อสื่อมวลชน เนื่องจากต้องนำเสนอเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุม
นายวิวัฒน์ ประธานกลุ่มธรรมาภิบาลฯ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้เข้าหารือและยื่นหนังสือเชิญ นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้าร่วมตรวจสอบสภาพเครื่องบิน AIRBUS A340-500/A340-600 ทั้ง 14 ลำ ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ สตง. ยินดีเข้าร่วมตรวจสอบ หากมีข้อทูจริตอื่น ๆ ก็จะดำเนินการทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2560 กลุ่มธรมมาภิบาลฯ ได้รับหนังสือจาก ร.อ.กนก ทองเผือก รอง กก.ผอ.ใหญ่ สายทรัพยากรบุคคลและกำกับกิจกรรมองค์กร บริษัท การบินไทยฯ โดยระบุว่าตามที่กลุ่มธรรมาภิบาลฯ นำเรียนปลัดกระทรวงคมนาคม เมื่อ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อขอให้นำพาคณะสื่อมวลชนเข้าพื้นที่เพื่อดูสภาพเครื่องบิน AIRBUS A340-500/A340-600 ของบริษัทฯ ที่จอดรอขายอยู่ที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาในวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา และปลัดฯ คมนาคมได้ให้การบินไทยฯ พิจารณาเรื่องนี้ นั้น การยินไทยฯ ยินดีให้ความร่วมมือ แต่เนื่องจากเครื่องบินที่จอดรอขายอยู่ในบริเวณพื้นที่จำกัดเฉพาะ และจะต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน
“เมื่อวานนี้ที่สนามบินอู่ตะเภา การบินไทยฯ ได้นำเอาเครืองมาบังล้อ และนำเอาผ้ามาปิดตัวเครื่องยนต์ของเครื่องบินทั้ง 14 ลำาแล้วเพื่อทำให้ดูเหมือนว่ากำลังรอการขาย ขณะที่ในส่วนของสถานที่จอดถือว่าผิดหลักสากล เพราะกำหนดไว้ว่าไม่ให้จอดเครื่องรอขายในที่แจ้ง ให้จอดเก็บในสถานที่ปิดมิดชิด ไม่อับชื้น เพื่อชะลอการเสื่อมสภาพ ซึ่งกรณีนี้ทำให้เห็นได้ชัดว่า เจตนาจอดทิ้งให้เป็นซาก แล้วนำมาขายในราคาถูก ทั้งที่อายุการใช้งานเครื่องบินมีถึง 20 ปี แต่ใช้งานได้ไม่กี่ปีก็นำมาจอดทิ้งไว้ น่าจะประมาณ 6-7 ปีได้แล้ว โดยความเสียหายครั้งนี้มีมูลค่ารวมนับแสนล้านบาท โดยเครื่องบินทั้งหมดใช้เครื่องยนต์ของโรลส์-รอยซ์ด้วย” ประธานกลุ่มธรรมาภิบาลฯ ระบุ
ล่าสุด ในวันนี้ (8 ก.พ. 2560) นายประจักษ์ บุญยัง รองผู้ว่าฯ สตง. พร้อมทีมงาน และผู้เชี่ยวชาญด้านอากาศยานได้เดินทางเข้าตรวจสอบเครื่องบินทั้ง 14 ลำดังกล่าวของบริษัท การบินไทยฯ ที่สนามบินอู่ตะเภาแล้ว โดยทางเจ้าหน้าที่สนามบินฯ ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปภายในพื้นที่จอดเครื่องบิน