รัฐบาลไม่ใช้ม.44เร่งรัดสินบนโรลส์-รอยซ์
รัฐบาลยืนยันไม่ใช้ ม.44 เร่งรัดคดีทุจริตสินบนโรลส์-รอยซ์เพราะมีกฎหมายปกติบังคับใช้อยู่แล้ว
พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกระแสข่าวที่สื่อมวลชนและคนในสังคมแสดงความเป็นห่วงเรื่องการตรวจสอบปัญหาการทุจริตรับสินบนกรณีโรลส์-รอยซ์ ของบริษัทการบินไทย บริษัท ปตท. และบริษัททีโอที ว่าอาจล่าช้า โดยเสนอให้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 เพื่อเร่งรัดการดำเนินงานนั้นว่า
“ท่านนายกฯ เข้าใจความห่วงใยของสังคมที่ต้องการให้เร่งรัดชี้ผิดชี้ถูก เพื่อจะได้หายกังขาว่ามีใครเกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือไม่ แต่รัฐบาลก็ต้องคำนึงถึงความถูกต้องเหมาะสมในขั้นตอนการปฏิบัติต่าง ๆ เพราะเรื่องนี้มีหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง เช่น ป.ป.ช. และ สตง. ซึ่งมีกฎหมายปกติที่จะนำไปใช้บังคับอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องใช้มาตรา 44 เข้ามาดำเนินการ เช่นเดียวกับกรณีจำนำข้าวที่ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ โดยผู้ถูกกล่าวหามีโอกาสสู้คดีได้ อย่างโปร่งใสและยุติธรรม”
พลโทสรรเสริญ กล่าวต่อว่า การใช้มาตรา 44 จะเกิดขึ้นเฉพาะเรื่องที่สำคัญจำเป็นเท่านั้น เช่น เรื่องที่มีปัญหาติดขัดในข้อกฎหมายเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เรื่องที่มีขั้นตอนกระบวนการยุ่งยากซับซ้อน หากล่าช้าจะเกิดผลเสียหายต่อส่วนรวม เป็นต้น นอกจากนี้ หากใช้กฎหมายพิเศษในกรณีนี้อาจถูกคนบางกลุ่มเชื่อมโยงเป็นประเด็นทางการเมือง และไม่ยอมรับผลการตรวจสอบได้ เช่นเดียวกับที่เคยไม่ยอมรับการผลการตรวจสอบของ คตส. แม้หลายคดีจะตัดสินไปแล้วก็ตาม
“ส่วนเรื่องที่มีผู้เสนอให้แก้ไขกฎหมาย ป.ป.ง.และนำข้อตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับการฟอกเงินมาใช้แก้ปัญหากรณีโรลส์-ลอยซ์นั้น ท่านนายกฯ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปศึกษารายละเอียดว่า จะดำเนินการได้แค่ไหนอย่างไร เพื่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม ท่านนายกฯ พอใจที่ทุกคนในสังคมเริ่มให้ความสำคัญกับการต่อต้านการทุจริตมากขึ้น โดยยอมไม่ได้ที่จะปล่อยให้ผู้กระทำผิดลอยนวลหรือไม่ได้รับโทษ และอยากเห็นการดำเนินงานเป็นไปด้วยความรวดเร็ว โปร่งใส และเป็นธรรม แต่ทุกขั้นตอนจะต้องทำด้วยความรอบคอบและรับฟังข้อมูลรอบด้าน จึงอาจใช้เวลาบ้าง แต่เชื่อมั่นว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะปฏิบัติหน้าที่อย่างที่ดีสุดเพื่อประเทศชาติ”
ขอบคุณข่าวจาก