แฉ!อดีตที่ปรึกษานายกฯ รับสินบนสุราข้ามชาติ
ปัญหาการจ่ายสินบนให้กับเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมืองของไทย ไม่ได้มีเฉพาะบริษัทโรลส์-รอยซ์เท่านั้น ล่าสุด สถานีข่าวสปริงนิวส์ได้ตรวจสอบพบว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้ดำเนินคดีกับบริษัทที่จ่ายสินบนให้กับข้าราชการและนักการเมืองไทยอีกอย่างน้อย 2 บริษัท พร้อมกับระบุชัดเจนว่า "บริษัทสุราระดับโลก" จ่ายสินบนให้ "ที่ปรึกษารองนายกฯ" รวมไปถึงการจ่ายสินบนในการติดตั้ง CCTV ในรัฐสภา และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
เว็บไซต์กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เผยแพร่การดำเนินคดีกับ "บริษัท ดิอาจีโอ บีแอลซี " ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตสุรารายใหญ่ของอังกฤษ แต่มีการจดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นนิวยอร์ก โดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ พบว่า บริษัท ดิอาจิโอ ได้ละเมิดกฎหมายเอฟพีซีเอของสหรัฐฯ ด้วยการติดสินบนหลายประเทศรวมถึงประเทศไทยด้วย การติดสินบนที่เกิดขึ้นในประเทศไทยนั้นเกิดขึ้นในระหว่างปี 2547 ถึงกลางปี 2552 ผ่านตัวแทนจำหน่ายสุราในประเทศไทย โดยเงินสินบนดังกล่าวนั้นแลกกับการที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลไทยผู้นั้น จะทำหน้าที่ล็อบบี้เจ้าหน้าที่ไทยในคดีความด้านภาษี และศุลกากรมูลค่าหลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯให้กับดิอาจีโอ
รายงานยังระบุชัดด้วยว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวนั้น เจ้าหน้าที่รัฐบาลไทยคนนี้ เคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เคยดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี และยังเป็นที่ปรึกษาให้กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อีกทั้งยังเคยดำรงตำแหน่งใน "คณะกรรมการพรรคใหญ่ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลในสมัยนั้นอีกด้วย"
นอกจากนี้ ในเว็บไซต์กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยังเผยแพร่กรณีการปรับและลงโทษบริษัท ไทโค อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นบริษัทผู้ขายระบบรักษาความปลอดภัยอิเล็กโทรนิคส์ เป็นมูลค่ากว่า 26.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1,072 ล้านบาท จากข้อหาละเมิดกฎหมายเอฟซีพีเอว่าด้วยการทุจริตคอร์รัปชั่นในต่างประเทศ ซึ่งพบว่ามีการติดสินบนในประเทศไทยด้วย
ในส่วนของประเทศไทยนั้น รายงานของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุว่า เกิดขึ้นในระหว่างปี 2547-2548 โดยเป็นการติดสินบนผ่านบริษัทลูกในประเทศไทยซึ่ง "ไทโค " ถือหุ้นอยู่ 49% เเละระบุว่า ได้จ่ายเงินให้กับที่ปรึกษารายหนึ่ง มูลค่า 292,286 ดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทยเกือบ 12 ล้านบาท ในโครงการหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยจากการจ่ายเงินสินบนซึ่งคิดเป็นค่าที่ปรึกษาในครั้งนั้นได้ทำให้บริษัทลูกในประเทศไทยได้กำไรจากโครงการสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ เป็นเงิน 879,258 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 35 ล้านบาท
และในช่วงเวลาเดียวกันนั้น บริษัทลูกของไทโคในไทย ยังจ่ายเงินจำนวนหนึ่งให้กับ "ที่ปรึกษาคนหนึ่ง" เพื่อให้ได้มาซึ่งสัญญาการติดตั้งกล้องวิดิโอวงจรปิด (ซีซีทีวี) ในรัฐสภาไทยด้วย
การจ่ายสินบนไทโค
โดยบริษัทลูกของไทโคในไทย และที่ปรึกษาคนดังกล่าวได้ระบุในอินวอยซ์การจ่ายสินบนว่า เป็นค่า “รีโนเวท” หรือค่าปรับปรุง ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงไม่มีการปรับปรุงกล้องวิดีโอวงจรปิดในรัฐสภาไทยแต่อย่างใด
นอกจากนั้น ในระยะเวลาเดียวกัน บริษัทลูกของไทโคในไทย ยังจ่ายสินบนอีก 3 ครั้ง ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการดีไซน์และสำรวจเมืองพัทยา ซึ่งเป็นการจ่ายโดยไม่พบหลักฐานว่า "มีการสำรวจจริง"
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ บอกว่า จากการจ่ายสินบนเหล่านี้ ทำให้ "เอดีที ประเทศไทย" ได้รับกำไรจากโครงการต่าง ๆ เป็นมูลค่าราว 473,262 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 19 ล้านบาท
ขอบคุณข่าวจาก