หมอชนบทดีเด่นร้องรัฐผ่านงบเครื่องมือแพทย์

นพ.วรวิทย์ ตันติวัฒนทรัพย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุ้มผาง จังหวัดตาก แพทย์ชนบทดีเด่น กล่าวว่า จากที่ได้ทราบข่าวว่าคณะรัฐมนตรีได้ตัดสินใจยุติการจ่ายเงินในงบผูกพันเพื่อจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ในโครงการไทยเข้มแข็งที่จัดทำในรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนั้น  ตนรู้สึกผิดหวังมาก เนื่องจากโรงพยาบาลอุ้มผางเป็นโรงพยาบาลชายแดนห่างไกลซึ่งกำลังรอเงินงบนี้เพื่อจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจ เครื่องตรวจการเคลื่อนไหวของเด็กในครรภ์ เครื่องอัลตร้าซาวด์ เครื่องกระตุกหัวใจ และเตียงผ่าตัด ซึ่งล้วนเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการช่วยชีวิตทั้งสิ้น โดยได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง เปิดซองประกวดราคาเรียบร้อยแล้ว อยู่ในระหว่างรองบประมาณเพื่อเซ็นสัญญาเท่านั้น ถ้าต้องมีการรื้องบประมาณใหม่ และต้องให้ตนเริ่มกระบวนการแจ้งความจำเป็นและของบประมาณใหม่ เท่ากับเป็นการทำลายโอกาสในการรอดชีวิตของคนไข้อย่างมาก เพราะบางรายมีฐานะยากจนไม่ยินยอมให้ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลขนาดใหญ่ จึงต้องรอการรักษาที่โรงพยาบาลอุ้มผางเท่านั้น

งบประมาณ 3000 ล้านบาทเพื่อจัดซื้อครุภัณฑ์ให้แก่โรงพยาบาลในกระทรวงสาธารณสุข 1000 แห่งนี้ นับว่าเป็นงบที่ยกระดับการบริการสุขภาพอย่างมาก โดยโรงพยาบาลทุกแห่งไม่เคยได้รับงบเพื่อพัฒนาเลยในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มโครงการหลักประกันสุขภาพ  มีแต่งบประมาณเพื่อซ่อมแซมและทดแทนที่เสียหายเท่านั้น  โครงการนี้รัฐบาลมีกำหนดที่จะต้องโอนงบประมาณตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปีพ.ศ.2554 ซึ่งโรงพยาบาลทุกแห่งรองบประมาณมาโดยตลอด แต่วันนี้กลับบอกว่าจะยกเลิกทั้งหมดเลย ซึ่งเท่ากับเป็นการทำลายระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในทางอ้อม ทำให้คนไข้ได้รับการรักษาที่ล่าช้าและไม่มีคุณภาพ ทุกวันนี้มีคนไข้หลายรายที่ต้องเลื่อนการรักษาออกไปก่อน รวมถึงโรงพยาบาลบางแห่งในจังหวัดตากกำลังรองบประมาณเครื่องปั่นไฟ ในขณะที่ไฟฟ้าดับบ่อย ซึ่งจะให้บริการไม่ได้เลย

“ผมจึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีสนับสนุนงบประมาณเพื่อจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ในครั้งนี้ อย่าเข้าไปในวังวนของการเล่นเกมส์การเมือง โดยคิดว่างบประมาณนี้อนุมัติโดยพรรคไหน หรือไม่เช่นนั้นก็ให้เปลี่ยนชื่อโครงการจากไทยเข้มแข็งเป็นชื่ออื่นก็ได้ แต่ขอให้โรงพยาบาลทุกแห่งได้รับงบประมาณ ตนก็พอใจแล้ว” นพ.วรวิทย์กล่าว