ตีโจทย์ คำขวัญวันเด็ก 2499-2560 คีย์เวิร์ดไหน ถูกใช้ซ้ำมากสุด
เครือข่ายเด็กเยาวชน 4 ภาค จัดเวทีเสวนาร่วมตีโจทย์คำขวัญวันเด็กปี 60 เด็กไทยจะมีส่วน ‘ ใส่ใจศึกษา พาชาติมั่นคง’ อย่างไร
คำขวัญวันเด็กมีประวัติศาสตร์ และรากเง้ามาจากอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ซึ่งเป็นหลักการสากลของเด็กและเยาวชนทั่วโลก
"วันเด็ก" จึงเป็นวันสำคัญที่มีรากฐานมาจากอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กขององค์การสหประชาชาติ ที่ให้ความสำคัญอยู่ด้วยกัน 4 ด้าน คือ สิทธิการอยู่รอด สิทธิการได้รับการคุ้มครอง สิทธิการได้รับการพัฒนา และสิทธิการมีส่วนร่วมในด้านต่างๆของสังคม
ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ศึกษาคำขวัญวันเด็กตั้งแต่ปี 2499-2560 เห็นว่า คำขวัญวันเด็กในแต่ละยุคแต่ละสมัย นายกรัฐมนตรีให้คำขวัญมาจากมุมมอง ความคิด ความต้องการ เจตคติ รวมไปถึงบุคลิกภาพส่วนตัวของท่านนายกรัฐมนตรี
และยังพบว่า มีคำสำคัญที่ถูกใช้ซ้ำในคำขวัญวันเด็กอยู่ 6 คำ คือ
1.วินัยและการเรียน จำนวน 18 ครั้ง
2. ชาติ 17 ครั้ง
3. คุณธรรม 15 ครั้ง
4.ขยัน 11 ครั้ง
5.ประหยัด สามัคคี ซื่อสัตย์ 9 ครั้ง
และ 6. ประชาธิปไตย 4 ครั้ง ซึ่งถือเป็นคำที่สำคัญที่สุด แต่ปรากฏได้น้อยมาก
ศ.ดร.สมพงษ์ มองว่า ภาพรวมทั้งหมดสิ่งที่เด็กไทยยังขาดบกพร่อง และควรจะต้องเสริมให้เกิดขึ้นจากคำขวัญวันเด็กมีอยู่ 5 ด้าน คือ 1.ความมีวินัย ตรงต่อเวลา 2.ซื่อสัตย์สุจริต 3.ประชาธิปไตย 4.พอเพียง และ 5.ความสามัคคี
เมื่อถามถึงคำขวัญวันเด็กประจำปี 2560 “เด็กไทย ใส่ใจศึกษา พาชาติมั่นคง”
นักการศึกษา มองว่า คำขวัญวันเด็กยังไม่ค่อยสอดคล้องกับสิทธิเด็ก แต่จะสอดคล้องกับสังคมและบริบทไทยมากกว่า
นี่เป็นส่วนหนึ่งที่เป็นภาพสะท้อนจากมุมมองผู้ใหญ่
ขณะที่ตัวแทนเด็กและเยาวชน 4 ภาคร่วมตีโจทย์คำขวัญวันเด็กปี 2560 ด้วยเช่นกัน
น.ส.นูรมี เวาะผา นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น กศน.อำเภอเมือง จ.ปัตตานี เห็นว่า คำขวัญวันเด็กปี 2560 จะมีส่วนเกี่ยวข้องในการพาชาติให้มั่นคงได้ โดยการชักชวนเพื่อนที่ด้อยโอกาสมาเรียน กศน. และทำกิจกรรมช่วยเหลือสังคมที่ไม่สร้างความวุ่นวายให้กับสังคม
ขณะที่นายเกริกไกวัล รวบยอด วัย 19 ปี นักเรียนชั้นปีที่ 2 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ จ.นครปฐม บอกว่า ด้วยบทบาทการเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ มีหน้าที่รักษากฎหมายรักษาความสงบแห่งชาติ ดังนั้นประเทศชาติจะมั่นคงไม่ได้หากบ้านเมืองวุ่นวายไม่สงบ ดังนั้นในขณะที่เขายังเป็นนักเรียนก็จะตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด ขยายความรู้ให้ได้มากที่สุด เพื่อการเป็นตำรวจที่ดี โดยพยายามเรียนรู้ เข้าร่วมกิจกรรมในด้านการพัฒนาสังคม เรียนรู้ควบคู่กันไป และสิ่งหนึ่งที่สำคัญ คือการมีคุณธรรม มีจิตสำนึกที่ดีในการที่จะเป็นคนดี ย่อมจะขับเคลื่อนสังคมให้อยู่ได้อย่างสงบสุข และประเทศชาติก็จะเกิดความมั่งคงจากภายในขยายออกสู่ภายนอก
ส่วนน.ส.ชมพุนุช มณีโชติ กลุ่มพลังโจ๋วัย 16 ปี จ.แพร่ ยอมรับว่า แต่ก่อนเธอไม่ชอบเรียนหนังสือและเข้าแก๊งมอเตอร์ไซด์ ต่อมาถูกชวนให้มาร่วมกิจกรรมเยาวชนกับกลุ่มพลังโจ๋ ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของเด็กแก๊ง เด็กแว้นเพื่อทำประโยชน์ให้กับชุมชน เช่น โครงการแว้น 9 วัด ไปช่วยทำความสะอาดวัด ช่วยงานชุมชน ทำค่ายเพศศึกษา และถึงแม้กลุ่มพลังโจ๋เคยเป็นกลุ่มที่ผู้ใหญ่มองว่าไม่ดี แต่ถ้าวันหนึ่งพวกเขาได้รวมตัวกันทำอะไรให้สังคม เด็กเหล่านี้ก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการพาชาติให้มั่นคงได้ด้วยการลุกขึ้นมาทำความดี เพื่อให้คนในสังคมหันมามองกลุ่มนี้บ้าง
เด็กและเยาวชนถูกคาดหวังจากผู้ใหญ่ จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาชาติในอนาคตมาโดยตลอด ปีนี้ก็เช่นกันยุคไทยแลนด์ 4.0 ...