ก.เกษตรฯ เร่งเดินหน้าโครงการปลูกพืชหลังนา
รองปลัดเกษตรฯ ดันโครงการปลูกพืชหลังนาใช้น้ำน้อย เตรียมบูรณาทุกหน่วยงานในกระทรวง ชี้ล่าช้าเพราะขาดเมล็ดพันธุ์ เร่งผลิตเมล็ดถั่วเขียวช่วยชาวนาในเขตชลประทาน
น.ส.สุพัตรา ธนเสนีวัฒน์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์(กษ.)เปิดเผยภายหลังการประชุมมาตรการลดต้นทุนการผลิตสินค้าเกษตร ว่าต้องปรับรูปแบบการดำเนินงาน เนื่องจากกรมพัฒนาที่ดินมีความเชี่ยวชาญเรื่องดินและปุ๋ย กรมการข้าวพัฒนาด้านเมล็ดพันธุ์ ดังนั้นจึงจะตั้งคณะกรรมการทำงานเฉพาะเพื่อบูรณาการทุกภาคส่วนเข้าด้วยกัน
รองปลัด กษ.ยังยกตัวอย่างแนวทางการลดต้นทุนการผลิตทางการเกษตรว่า ดินในแต่ละพื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่างกัน พื้นที่ที่สมบูรณ์อยู่แล้วไม่จำเป็นต้องใช้ปุ๋ยครบทุกสูตรเพื่อประหยัดต้นทุนได้อีกทาง ทั้งนี้การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ที่เหมาะสมก็มีความจำเป็นมาก
ส่วนโครงการปลูกพืชหลังนาที่พยายามส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่ชลประทานปลูกถั่วเขียวในช่วงหน้าแล้ง ยังไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากเมล็ดพันธุ์ไม่เพียงพอ
“เมล็ดพันธุ์พืชเป็นตัวสำคัญที่จะทำให้ได้ผลผลิตมากขึ้น จึงมีการพูดถึงโครงการพืชหลังนา ที่ต้องการให้เกษตรกรลดการใช้น้ำจากการทำนาในหน้าแล้ง ซึ่งโครงการดังกล่าวขยายเวลาจากปี 53 เป็นปี 54-56 โดยจะให้กรมต่างๆทำงานร่วมกัน เช่น กรมการข้าว กรมพัฒนาที่ดิน ซึ่งเกษตรกรต้องปรับตัวเลิกใช้วิธีจ้างให้เขาหว่านปุ๋ย เพราะบางพื้นที่ดินดีอยู่แล้วไม่ต้องใช้ปุ๋ยทุกสูตร” รองปลัด กษ. กล่าว
รองปลัด กษ.กล่าวอีกว่า ปัญหาพันธุ์พืชไม่เพียงพอส่วนหนึ่งมาจากการย้ายศูนย์ขยายพันธุ์พืชของกรมส่งเสริมการเกษตรมาเป็นศูนย์ขยายพันธุ์ข้าว ทำให้บุคลากร เครื่องจักรและเทคโนโลยีต่างๆเน้นศึกษาเรื่องข้าวเพียงอย่างเดียว ประกอบกับอุทกภัยและภัยแล้ง จึงต้องชะลอโครงการปลูกพืชหลังนาเนื่องจากไมมีเมล็ดพันธุ์ที่ดีให้กับเกษตรกร ที่สำคัญหลังจากรัฐประกาศโครงการประกันรายได้ส่งผลให้เกษตรกรเน้นปลูกพืชที่รัฐบาลรับประกันราคามากกว่า.
ที่มาภาพ : http://www.moac-info.net/modules/news/news_view.php?News_id=139790&action=edit&joomla=1