โพลพบจริยธรรมข้าราชการพลเรือนอยู่ในเกณฑ์ดี
ข้อมูลจากสำนักงาน ก.พ. เปิดเผยผลการสำรวจสถานภาพจริยธรรมข้าราชการพลเรือน จากข้าราชการพลเรือน ๒๓,๔๗๖ คน ทัวประเทศ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๔
เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงาน ก.พ. ได้จัดให้มีการประชุม อ.ก.พ. วิสามัญเกี่ยวกับการส่งเสริมจริยธรรมเพื่อราชการใสสะอาด โดยมี นายสีมา สีมานันท์ กรรมการ ก.พ. เป็นประธาน ซึ่งที่ประชุมได้รับทราบผลการสำรวจสถานภาพจริยธรรมข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๔ ใน ๔ ด้าน คือ ด้านการรับรู้ ด้านความพึงพอใจ ด้านการปฏิบัติหรือพฤติกรรม และด้านแนวทางการแก้ไขปัญหาของข้าราชการ และส่วนราชการ พบว่า ข้าราชการพลเรือนประเภทบริหาร เป็นกลุ่มที่รับรู้เกี่ยวกับประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือนซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อต้นปี ๒๕๕๓ มากที่สุด และประเด็นที่ข้าราชการรับรู้ถูกต้องมากที่สุด คือ การไม่แสวงหาประโยชน์ในทางมิชอบ กรณีการรับของขวัญที่มีมูลค่าไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ด้านความพึงพอใจ พบว่า ข้าราชการพลเรือนมีความพึงพอใจต่อสถานการณ์ทางจริยธรรมของหน่วยงานระดับมาก โดยเฉพาะการยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และให้ความสำคัญในการเคารพสิทธิ รับฟังความคิดเห็นอย่างเสมอภาคด้านพฤติกรรม พบว่า ข้าราชการพลเรือนมีการปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมในระดับมาก ส่วนผู้นำและส่วนราชการ มีการปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมในระดับปานกลางถึงน้อย โดยส่วนราชการมักจะชมเชยหรือให้รางวัล เมื่อบุคลากรปฏิบัติงานดี มีการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับจริยธรรมและนำความคิดเห็นนั้นมาปรับปรุงการปฏิบัติงาน และมีการฝึกอบรมบุคลากร
เพื่อพัฒนาจริยธรรมของข้าราชการ สำหรับด้านแนวทางการแก้ไขปัญหา พบว่า เมื่อมีปัญหา ข้าราชการพลเรือนมักจะปรึกษาพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานมากที่สุด รองลงมาคือ การปรึกษากับผู้บังคับบัญชา และปล่อยวาง นิ่งเฉย สำหรับส่วนราชการ พบว่า ใช้วิธีการรณรงค์ปลูกจิตสำนึกให้ผู้บังคับบัญชาเป็นแบบอย่าง และปรับปรุงกฎหมายให้เปิดเผย โปร่งใส ตรวจสอบได้
ที่ประชุม อ.ก.พ. ฯ มีความเห็นว่า การสำรวจสถานภาพจริยธรรมข้าราชการพลเรือน เพื่อให้ได้ความคิดเห็นที่หลากหลายมุมมอง ในระยะต่อไปควรมีการสำรวจความคิดเห็นจากภาคประชาชนอีกส่วนหนึ่งด้วย เพื่อนำมุมมองจากภายนอกมาเป็นแนวทางประกอบการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมของข้าราชการ พลเรือน โดยเฉพาะในเรื่องการให้ความคุ้มครองข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา รวมทั้งการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการปฏิบัติราชการอย่างโปร่งใสและมีความรับผิดชอบ โดยอาศัยองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน รวมทั้งภาคประชาชนร่วมเป็นเครือข่ายในการดำเนินการ