บริการทางการเงินและมาตรการให้ความช่วยเหลือประชาชนของธนาคารออมสิน
วันที่ 20 ธันวาคม 2559 คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ ดังนี้
1. รับทราบมาตรการเพื่อรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย และมาตรการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม
2. เห็นชอบมาตรการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนทั่วไป
สาระสำคัญของมาตรการฯ มีดังนี้
1. มาตรการเพื่อรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ประกอบด้วย
1.1 เงินฝากประชารัฐเพื่อผู้สูงวัย สำหรับประชาชนทั่วไปที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป คิดอัตราดอกเบี้ยบวกเพิ่มร้อยละ 100 จากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเผื่อเรียกปกติของธนาคารออมสิน (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเผื่อเรียกปกติอยู่ที่ร้อยละ 0.5 ต่อปี) และมีเพดานเงินฝากไม่เกินรายละ 1 ล้านบาท ทั้งนี้ ธนาคารออมสินให้บริการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2559 เป็นต้นไป
1.2 สินเชื่อที่อยู่อาศัยแบบ Reverse Mortgage สำหรับผู้สูงวัยให้สามารถนำที่อยู่อาศัยของตนเองที่ปลอดภาระหนี้มาใช้เป็นหลักประกันสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิต โดยธนาคารออมสินจะจ่ายเงินกู้เป็นรายเดือน ภายในระยะเวลาไม่เกิน 20 ปี โดยเมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาการกู้เงินตามสัญญาแล้วต้องไม่เกินอายุ 85 ปี และเมื่อครบกำหนดตามสัญญา ผู้กู้สามารถขอขยายเวลาเพิ่มเติมได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด หรือชำระหนี้เพื่อปิดบัญชี หรือให้ธนาคารขายหลักประกันเพื่อปิดบัญชีต่อไป โดยธนาคารออมสินคิดอัตราดอกเบี้ยประมาณอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate : MRR) – ร้อยละ 0.5 ต่อปี (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR อยู่ที่ร้อยละ 7.125 ต่อปี) ทั้งนี้ โดยที่สินเชื่อที่อยู่อาศัยแบบ Reverse Mortgage เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ซึ่งแตกต่างจากผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่อยู่อาศัยที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อพิจารณาหลักเกณฑ์การกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องก่อนที่ธนาคารออมสินจะให้บริการผลิตภัณฑ์ดังกล่าวต่อไป และกระทรวงการคลังจะมอบหมายให้ธนาคารออมสินให้ความรู้แก่ผู้ขอสินเชื่อเกี่ยวกับรูปแบบของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เพื่อป้องกันมิให้เกิดปัญหาในอนาคต
1.3 สินเชื่อเคหะลูกกตัญญู สำหรับผู้ที่อุปการะเลี้ยงดูบิดามารดาทั้งของตนเอง หรือ
คู่สมรส โดยผู้กู้ต้องมีชื่อในทะเบียนบ้านเดียวกับบิดาและ/หรือมารดาไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือมีหลักฐานการหักลดหย่อนภาษีค่าอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดาในการยื่นเสียภาษีไม่น้อยกว่า 1 รอบบัญชี โดยสินเชื่อดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปจัดหาหรือซ่อมแซมที่อยู่อาศัย รวมถึงการซื้อสิ่งอำนวยความสะดวก วงเงินสินเชื่อสูงสุด ร้อยละ 100 ของราคาประเมินหลักทรัพย์ตามเงื่อนไขของธนาคาร โดยธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าลูกค้าทั่วไปและมีระยะเวลา
ปลอดดอกเบี้ย 6 -12 เดือน และสามารถผ่อนชำระได้ถึงอายุ 65 ปี ทั้งนี้ ธนาคารออมสินเริ่มให้บริการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2559 – วันที่ 30 มิถุนายน 2560
1.4 สินเชื่อประชารัฐเพื่อผู้สูงวัย สำหรับบุคคลที่มีอายุระหว่าง 60 – 70 ปีเพื่อการประกอบอาชีพอิสระเพื่อหารายได้และใช้เป็นเงินทุนในการประกอบอาชีพ วงเงินไม่เกิน 200,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อเดือน โดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เป็นผู้ค้ำประกัน และธนาคารออมสินจะจ่ายค่าธรรมเนียมค้ำประกันแทนผู้กู้ตั้งแต่ปีที่ 2 เป็นต้นไปจนครบสัญญา ทั้งนี้ ธนาคารออมสินเริ่มให้บริการ
ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2559 เป็นต้นไป
2. มาตรการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม ประกอบด้วย
2.1 สินเชื่อโครงการประชารัฐเพื่อประชาชน สำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมและมีความจำเป็นต้องใช้เงินทุนเพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ซ่อมแซมหรือจัดหาเครื่องมือเครื่องใช้ในการประกอบอาชีพใหม่ ตลอดจนเพื่อการอุปโภค บริโภค ในช่วงที่รายได้ลดลงอันเนื่องมาจากไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ วงเงินสินเชื่อรายละไม่เกิน 50,000 บาท ระยะเวลาชำระคืนเงินกู้ไม่เกิน 5 ปี อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในปีที่ 1 ร้อยละ 0 ต่อเดือน และในปีที่ 2-5 ร้อยละ 1 ต่อเดือน โดยผู้กู้สามารถใช้บุคคล หรือ บสย. ค้ำประกันได้
2.2 มาตรการประชารัฐแก้ไขหนี้ประชาชน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมและไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติส่งผลให้รายได้ลดลง โดยธนาคารออมสินจะดำเนินการพักชำระหนี้ให้แก่ลูกค้าสินเชื่อทุกประเภทที่ประสบภาวะน้ำท่วมสุงสุดไม่เกิน 3 ปี โดยชำระเฉพาะดอกเบี้ยระหว่างร้อยละ 50 – 100 ของจำนวนดอกเบี้ยที่ต้องชำระตามปกติ รวมถึงขยายเวลาในการชำระหนี้ได้เท่ากับระยะเวลาที่ขอพัก ชำระเงินต้น
3. มาตรการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระรายย่อยและผู้มีรายได้น้อย ได้แก่ โครงการลดดอกเบี้ยให้ประชาชนรายย่อย ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อลดภาระการผ่อนชำระลูกหนี้ ทั้งลูกหนี้ที่มีประวัติการชำระหนี้ดี ลูกหนี้ค้างชำระและที่ตัดหนี้สูญไปแล้ว เพื่อให้กลับเข้าใช้บริการของธนาคารออมสินได้ในโอกาสต่อไป โดยมีหลักเกณฑ์ ดังนี้
3.1 ลูกหนี้ที่มีประวัติการชำระหนี้ดี 12 เดือนติดต่อกัน (ไม่มีดอกเบี้ยผิดนัดในรอบ 12 เดือน ระหว่างเดือนธันวาคม 2559 – เดือนพฤศจิกายน 2560)
ธนาคารออมสินจะคืนดอกเบี้ยร้อยละ 30 ของดอกเบี้ยที่จ่ายให้แก่ธนาคารต่อเนื่องในรอบระยะเวลา 12 เดือน โดยโอนเงินเข้าบัญชีให้กับลูกหนี้หรือนำไปหักเงินต้นคงเหลือให้มีจำนวนลดลง
3.2 ลูกหนี้ค้างชำระและลูกหนี้ที่ตัดหนี้สูญไปแล้ว (ณ วันทำสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้) ธนาคารออมสินจะดำเนินการ ดังนี้
1) ปรับโครงสร้างหนี้เฉพาะในส่วนของต้นเงินกู้ โดยขยายระยะเวลาได้ ไม่เกิน 2 เท่าของระยะเวลาคงเหลือตามสัญญากู้หรือสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้แต่ไม่เกิน 10 ปี ยกเว้นระยะเวลาคงเหลือตามสัญญากู้เกินกว่า 10 ปี ให้ใช้ระยะเวลาคงเหลือเป็นระยะเวลาของสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และพักดอกเบี้ยผิดนัดและดอกเบี้ยปกติในช่วงเวลาที่ผิดนัด
2) เมื่อลูกหนี้สามารถผ่อนชำระได้ตามเงื่อนไขที่ปรับโครงสร้างหนี้ได้ ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 12 เดือน ธนาคารจะยกดอกเบี้ยผิดนัดที่พักไว้ให้ และคืนดอกเบี้ยที่ชำระ ในรอบระยะเวลา 12 เดือน จำนวนร้อยละ 30 เพื่อนำไปลดจำนวนดอกเบี้ยปกติที่พักไว้
3) ดอกเบี้ยที่ตั้งพักไว้คงเหลือ ให้จ่ายชำระหนี้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี นับแต่วันที่ลงนามในสัญญา และไม่เกินระยะเวลาปรับปรุงโครงสร้างหนี้
ทั้งนี้ ธนาคารออมสินขอแยกบัญชีโครงการดอกเบี้ยให้ประชาชนรายย่อยเป็นโครงการตามนโยบายรัฐบาล (Public Service Account : PSA) รวมถึงนำดอกเบี้ยที่คืนหรือลดให้ตามโครงการมาบวกกลับกำไรที่ใช้ในการคำนวณโบนัสให้พนักงาน