แรงงานไทยเกาหลีใต้พบวิทวัสแจ้งปัญหาเดือนร้อนในต่างแดน
แรงงานไทยและผู้ประกอบการในสาธารณรัฐเกาหลีใต้ร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ทูตแรงงานประจำสถานทูตไทยในเกาหลี กงศุลไทยในเกาหลี คณะกรรมการต่อต้านการทุจริตและสิทธิพลเมือง ACRC กระทรวงแรงงานเกาหลี รวมถึงสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลี ณ วัดป่าพุทธรังษีโซล ขอรับความเป็นธรรม พบแรงงานไทยด้านการเกษตร และปศุสัตว์ถูกกดขี่จากนายจ้างมากสุด และส่วนหนึ่งต้องกลายเป็นโรบินฮู้ดเนื่องจากไม่ขอต่อวีซ่าได้เพราะอายุเกิน 40 ปี ด้านวิทวัสลั่นแรงงานถูกกฎหมายต้องรีบช่วยเหลือ พร้อมวิงวอนแรงงานผิดกฎหมายอย่าชักชวนกันลักลอบเข้าทำงาน ย้ำแรงงานทุกคนห่างไกลยาเสพติด
พลเอก วิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า การเดินทางมาพบผู้ใช้แรงงานและผู้ประกอบการ ณ วัดป่าพุทธรังษีโซล ซึ่งมีคนมาจำนวนกว่า 200 คนในวันนี้ทำให้ได้รับทราบถึงปัญหาการดำรงชีวิตของแรงงานไทย และความไม่เป็นธรรมในการขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐในเกาหลี ซึ่งพบว่าบางกรณีอาจต้องเร่งประสานให้ความช่วยเหลือทันที เช่น กรณีแรงงานไทยไม่สามารถต่อวีซ่าได้เพราะอายุเกิน 40 ปีส่วนนายจ้างก็ไม่ยอมให้กลับประเทศเนื่องจากเป็นคนดีนายจ้างไว้วางใจและร้องขอให้อยู่ช่วยงานตลอดไปและรู้ใจกันมากเพราะทำงานมานานกว่า 17 ปี กรณีนี้คนนี้เลยกลายเป็นโรบินฮูดโดยปริยาย ซึ่งตัวผู้ใช้แรงงานเองก็บอกว่าต้องมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ค่อนข้างลำบากหลบซ่อนซึ่งเรื่องนี้ในวันนี้มีหน่วยงาน ACRC รวมถึงผู้แทนสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีมารับฟังปัญหาด้วยซึ่งจะมีการประสานกันในระดับนโยบายกันต่อไป หากมีการเสนอแนะแก้ไขระเบียบอาจทำให้ปัญหาได้รับการแก้ไขในเชิงระบบได้ นอกจากนี้ยังมีทั้งเรื่องปัญหาการถูกกดขี่ เอารัดเอาเปรียบจากนายจ้างโดยเฉพาะแรงงานเกี่ยวกับการเกษตร และปศุสัตว์ เช่น นายจ้างให้ทำงานวันหยุดโดยไม่มีค่าล่วงเวลาทางด้านผู้ใช้แรงงานจึงอยากให้เข้าไปดูในรายละเอียดของสัญญาการจ้างให้หน่อยในกรณีนี้ทางหน่วยงาน ACRC เองไม่นิ่งนอนใจพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือควบคู่กับกระทรวงแรงงานของเกาหลีโดยขอให้แจ้งเหตุว่าเกิดไรขึ้นจะได้รีบตรวจสอบและสอบสวนหากนายจ้างมีความผิดจะโดนลงโทษตามกฎหมาย รวมถึงมีปัญหาอื่น ๆ อีกมายทั้งขอให้เข้าไปดูเรื่องการประกอบกิจการของโรงาน เช่น โรงงานเฟอร์นิเจอร์ที่ยังไม่มีระบบควบคุมการผลิตที่ดีพอเกิดฝุ่นละอองจำนวนมาก และแพ้สารเคมีร่างกายขึ้นตุ่มเต็มตัวและเป็นพิษต่อระบบทางเดินหายใจ ปัญหาแรงงานโดนโกงค่าจ้าง หญิงท้องใกล้คลอดแต่ตั้งแต่เริ่มท้องยังไม่เคยมีโอกาสไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลได้เลย บางคนมีลูกเล็กเกิดเจ็บป่วยพาไปร้านยาก็ซื้อยาไม่ได้ไม่ขายให้ต้องไปโรงพยาบาลเท่านั้น ตลอดจนปัญหาของผู้ใช้แรงงานเองที่เกิดจากความไม่เข้าใจในการใช้สิทธิของการประกันอุบัติเหตุจนทำให้กลายเป็นข้อพิพาทระหว่างผู้ใช้แรงงานกับนายจ้าง อย่างเช่นในกรณีที่มีคนเกิดประสบอุบัติเหตุจากการทำงานไม่ถึงกับพิการแต่มีโรคแทรกซ้อนเกิดขึ้น คือเป็นความดัน และต้องพบหมอทุก 3 เดือน แต่ประกันมองว่าการรักษาเกี่ยวกับเรื่องอุบัติเหตุนั้นหายดีแล้ว จงตัดสิทธิในการเบิกเงินประกันถึงแม้ว่าจะยังต้องพบหมอเพื่อรักษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็ต้องทำความเข้าใจกัน
นางกาญจนา วงศ์สุวรรณ์ อัครราชทูตฝ่ายแรงงานประจำสถานทูตไทยในเกาหลี กล่าวว่า เป็นเรื่องดีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินไทยมาเยือนแรงงานไทยในเกาหลี เพราะเนื่องจากมีปัญหาด้านแรงงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งต้องการผลักดันและการสนับสนุนการทำงานทั้งจากหน่วยงานรัฐทางประเทศไทย รวมถึงหน่วยงานรัฐในเกาหลี การที่ผู้ตรวจการแผ่นดินไทยลงนามความร่วมมือกับคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตและคุ้มครองสิทธิพลเมือง (ACRC) แห่งสาธารณรัฐเกาหลี ทำให้กระทรวงแรงงานมีเครือข่ายในการประสานเพื่อขอรับความช่วยเหลือ เยีวยวยา แก้ไขปัญหาต่าง ๆที่เกิดขึ้นได้สะดวกยิ่งขึ้น
นาย คิน อิน ซู (Kin In-Soo) รองประธานคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตและสิทธิพลเมือง (ACRC) แห่งสาธารณรัฐเกาหลี กล่าวว่า จากการที่ได้รับฟังปัญหาในวันนี้มีหลาย ๆ เรื่องเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นใหม่และเพิ่งได้รับทราบ แต่อย่างไรก็ตามหน่วยงาน ACRC ต้องเร่งให้ความช่วยเหลือตามพันธกรณีที่มีแก่กัน ซึ่งขอให้ผู้ประสบปัญหาแจ้งให้ทราบโดยเข้าไปยื่นเรื่องร้องเรียนทางระบบ E-People ทาง www.epeople.go.kr หรือผ่านทาง www.acrc.go.kr รวมทั้งศูนย์ช่วยเหลือแรงงานด่างชาติที่เป็นทางการ 8 แห่ง และศูนย์ช่วยเหลือแรงงานด่างชาติที่ไม่เป็นทางการอีก 88 แห่ง
พลเอก วิทวัส กล่าวเพิ่มว่า หน่วยงานรัฐไม่เคยละทิ้งประชาชน แต่ทางกลับกันทุกคนต้องรักษากฎ กติกาด้วยหากมีการเข้ามาทำงานอย่างถูกกฎหมายจะทำให้การช่วยเหลือนั้นราบรื่นสะดวก รวดเร็ว ซึ่งขณะนี้มีจำนวนไม่น้อยที่หลบหนีเข้ามาใช้แรงงานโดยมีโอกาสทำให้ประเทศไทยถูกตัดโควต้าของผู้ที่จะเข้ามาทำงานอย่างถูกกฎหมาย ทำให้สูญเสียโอกาสที่ดีไป ปัญหาสำคัญที่ต้องปรับตัวอย่างรวดเร็วคือการใช้ภาษาต้องมีฝึกฝนอย่างต่อเนื่องโดยเสนอให้ทางทูตแรงงานจัดหาครูมาสอนภาษาโดยใช้เวลาหลังเลิกงาน จะได้พึ่งพาตนเองได้
"อีกเรื่องที่สำคัญและไม่อยากให้เกิดขึ้นเลยคือปัญหายาเสพติด เพราะจะทำลายภาพพจน์ของประเทศไทยมาก อยากให้ทุกคนบอกต่อกันถึงโทษและความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น เพราะคนที่ทั้งพกมาค้าหรือเสพเองก็ดีย่ำแย่ทั้งนั้นหากเข้าไปยุ่งเกี่ยว ส่วนเรื่องการลักลอบหนีเข้าเมืองนี่เป็นปัญหาใหญ่มากครึ่งนึงของผู้ใช้แรงงานเข้ามาอย่างไม่ถูกต้องต้องอยู่อย่างหลบซ่อนไม่มีความสุข รวมถึงยังทำลายทั้งชื่อเสียงของประเทศไทย เศรษฐกิจการท่องเที่ยว คนที่มาเที่ยวจริง ๆ ก็เข้าประเทศเกาหลีอย่างลำบาก อีกทั้งตัดโอกาสคนที่ตั้งใจเข้ามาทำงานอย่างถูกกฎหมายซึ่งส่วนมากจะลักลอบเข้ามาประกอบอาชีพนวด ซึ่งเป็นอาชีพสงวนของประเทศเกาหลี ทั้งนี้ ผู้ตรวจการแผ่นดินเองจะเสนอแนะไปทางรัฐบาลไทยเพราะหลายเรื่องเป็นเรื่องระดับนโยบายระหว่างประเทศ ดังนั้น ต้องมีการหารือกันในระดับประเทศด้วย ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินจะรวบรวมปัญหาทั้งหมดที่ได้รับทราบจากการเดินทางมาครั้งนี้ไปยังรัฐบาลไทยอย่างเร่งด่วนต่อไป"