"พื้นที่ปลอดภัย"ยังไร้รูปร่าง "มาราฯ"จัดประชุมใหญ่วางยุทธศาสตร์พูดคุย
ความพยายามแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยแนวทางสันติวิธี โดยการเปิดโต๊ะพูดคุยเพื่อสันติสุขระหว่างรัฐบาลไทยกับกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ ยังคงดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกันระหว่างสองฝ่ายเพื่อเร่งกำหนด “พื้นที่ปลอดภัย” ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ตามกระแสเรียกร้องของภาคประชาสังคม โดยเป็นการประชุมของคณะทำงานเทคนิคร่วมฯ ทั้งจากคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาลไทย กับผู้แทนของ “มารา ปาตานี” ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นการหารือต่อเนื่องมาจากการพบปะครั้งก่อน
อย่างไรก็ดี การพูดคุยตลอดสัปดาห์ยังไม่สามารถตกลงกันได้ทั้งในหลักการและรายละเอียด โดยคณะทำงานเทคนิคร่วมฯ ฝ่ายรัฐบาลไทย ได้เสนอให้ มารา ปาตานี กำหนดกรอบ นิยาม และรูปแบบของพื้นที่ปลอดภัยได้อย่างเต็มที่ เพราะรัฐบาลไทยยอมรับได้อยู่แล้ว โดยจะกำหนดในบริบทพื้นที่ เช่น อำเภอ ตำบล หรือหมู่บ้านร่วมกันก็ได้ ซึ่งพื้นที่ที่กำหนดจะต้องไม่มีปฏิบัติการทางทหารจากทั้งสองฝ่าย หรือจะกำหนดในบริบทกลุ่มเปราะบาง เช่น จะต้องไม่มีปฏิบัติการทางทหารกับผู้หญิง เด็ก ครู คนแก่ และนักบวช เป็นต้น
แต่ทาง มารา ปาตานี ยังไม่ตกลงกับข้อกำหนดทั้งสองรูปแบบ เพราะยังเห็นไม่ตรงกันในรายละเอียด โดยสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการที่ มารา ปาตานี ประกอบด้วยกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐมากถึง 6 กลุ่ม จึงไม่มีเอกภาพทางความคิดเท่าที่ควร
สำหรับการพูดคุยเพื่อสันติสุขระหว่างคณะพูดคุยฯของรัฐบาลไทย กับ มารา ปาตานี จะมีขึ้นครั้งสุดท้ายของปีนี้ระหว่างวันที่ 19-22 ธ.ค. ที่ประเทศมาเลเซีย
มาราฯ จัดประชุมใหญ่กำหนดทิศทางพูดคุย
อีกด้านหนึ่ง กลุ่มมารา ปาตานี ได้ประชุมใหญ่ร่วมกันเพื่อหารือเกี่ยวกับทิศทางการพุดคุยเพื่อสันติสุข และการสร้างพื้นที่ปลอดภัย
การประชุมใหญ่ลักษณะนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 โดยปีนี้ประชุมระหว่างวันที่ 10-14 ธ.ค. มีการเสนอกรอบการทำงานเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องการพูดคุย ปัญหาและอุปสรรคที่ต้องเผชิญ รวมทั้งหาวิธีการแก้ไขและการก้าวข้ามปัญหาและอุปสรรคเหล่านั้น เพื่อให้การพูดคุยสันติสุขเดินหน้าต่อไป ไม่หยุดกลางทางเหมือนการพูดคุยสันติภาพรอบที่ 1 เมื่อปี 2556
สำหรับ “มารา ปาตานี” เกิดจากการรวมกลุ่มกันของผู้เห็นต่างจากรัฐ 6 กลุ่ม คือ กลุ่มบีอาร์เอ็นที่สนับสนุนการพูดคุย กลุ่มบีไอพีพี กลุ่มจีเอ็มไปพี และกลุ่มพูโล 3 กลุ่มย่อย
ระหว่างการประชุม หัวหน้าขบวนการใน มารา ปาตานี ได้ปราศรัยพร้อมเปิดวิสัยทัศน์ของแต่ละกลุ่มเกี่ยวกับการต่อสู้เพื่อปาตานี รวมทั้งการต่อสู้ทางการเมืองที่ยึดหลักการสันติวิธี ไม่ใช้ความรุนแรง
หนึ่งในแกนนำที่ปราศรัย ได้นำคลิปไปเผยแพร่ในเฟซบุ๊คของตนเอง เนื้อหาของการปราศรัยเน้นทำความเข้าใจกับคนในพื้นที่ชายแดนใต้เกี่ยวกับภารกิจของมารา ปาตานี และระบุตอนหนึ่งถึงปัญหาความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจรัฐไทย โดยบอกว่า “รัฐไทยจะหลอกอะไรเราอีก เขาหลอกเราหมดแล้ว ไทยจะหลอกเรามากกว่านี้ไม่มีแล้ว”
นอกจากนี้ ยังมีผู้รับผิดชอบตำแหน่งต่างๆ ของทุกขบวนการ เช่น ปีกเยาวชน ปีกสตรี ได้ออกมาปราศรัยเช่นกัน
ต่อมาได้มีแถลงการณ์ของมารา ปาตานี ออกมา โดย อาบูฮาฟิส อัลฮากิม ซึ่งก็คือ ดร.กามาลุดดิน ฮานาพี แกนนำกลุ่มบีไอพีพี ใน มารา ปาตานี สรุปว่า การประชุมมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 60 คน ทั้งชายและหญิง ซึ่งเป็นสมาชิกของ มารา ปาตานี ตัวแทนผู้เข้าร่วมมีทั้งที่มาจากปาตานี (หมายถึงสามจังหวัดชายแดนภาคใต้) และจากต่างประเทศ รวมถึงจากยุโรป
ในการประชุมได้มีการนำเสนอและพิจารณาบทความทางวิชาการ 10 ชิ้นในหลากหลายหัวข้อ เพื่อทบทวนแนวทางการขับเคลื่อนของ มารา ปาตานี พร้อมๆ กับการกำหนดทิศทางด้านการเมืองของ มารา ปาตานี ในอนาคต
ตอนท้ายของแถลงการณ์ระบุว่า เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ มารา ปาตานี ยืนยันว่าจะยึดมั่นเดินหน้ากระบวนการพูดคุยสันติภาพกับฝ่ายไทยเพื่อแสวงหาหนทางการแก้ปัญหาความขัดแย้งที่ปาตานี
ใต้ยังไม่ปลอดภัย "บึ้ม-ยิง" รายวัน
ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนใต้ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงมีเหตุรุนแรงรายวัน
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 ธ.ค.59 เวลา 02.30 น. คนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ไปจอดที่หน้าบ้านเลขที่ 27/10 หมู่ 7 ต.ท่งพอ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา และใช้อาวุธปืนจ่อยิง นายเดช พรหมจันทร์ อายุ 51 ปี ขณะกำลังนั่งลับมีดกรีดยางอยู่ในบริเวณบ้านจนเสียชีวิต จากนั้นคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
วันอังคารที่ 13 ธ.ค. เวลา 11.50 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนมีรถกระบะแบบสี่ประตู สีบรอนซ์-เงินเป็นพาหนะ โดยคนนั่งเบาะหลังลดกระจกและใช้ปืนพกขนาด 9 มม.ยิงใส่ นางอนัญวีร์ ยอดใจดี อายุ 45 ปี ชาว อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ และ นายทนง สายป่าน อายุ 17 ปี ชาว จ.ศรีสะเกษ ได้รับบาดเจ็บ ขณะกำลังทำงานติดตั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงอยู่ริมถนนสาย 4085 เทพา-ลำไพล ท้องทีบ้านปากอ หมู่ 5 อ.เทพา จ.สงขลา
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน คนร้ายลอบวางระเบิดรถกระบะของอาสารักษาดินแดน (อส.) ประจำ อ.จะแนะ จ.นราวาส ขณะเสร็จสิ้นภารกิจ รปภ.ครู กำลังเดินทางกลับฐาน แรงระเบิดทำให้มี อส.ได้รับบาดเจ็บ 6 นาย ทหารพรานที่ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา รวมทั้งชาวบ้าน โดนลูกหลงได้รับบาดเจ็บไปด้วย แต่ทั้งหมดอาการไม่สาหัส เหตุเกิดบนถนนสายชนบท บ้านไอร์กรอส หมู่ 6 ต.จะแนะ อ.จะแนะ โดยระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง ประกอบใส่ถังแก๊ส นำมาวางไว้ริมถนนก่อนกดจุดชนวน
ช่วงเย็นวันเดียวกัน คนร้ายลอบวางระเบิดทหารพรานชุดปฏิบัติการกองร้อยที่ 4402 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 ขณะกำลังเดินเท้ากลับฐาน หลังเสร็จภารกิจ รปภ.ครูของโรงเรียนละหารมิตรภาพที่ 113 แรงระเบิดทำให้ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) วรวุฒิ ทบวงค์ อายุ 35 ปี ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 (ปัตตานี-นราธิวาส) ท้องที่ ต.ละหาร อ.สายบุรี จ.ปัตตานี โดยระเบิดที่คนร้ายใช้ประกอบใส่ถังน้ำยาเคมีดับเพลิง จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 ห้องประชุมที่แหล่งข่าวอ้างว่า มารา ปาตานี ใช้จัดประชุมใหญ่ประจำปี (ภาพจากการประสานแหล่งข่าวผ่านทางกลุ่มร่วมด้วยช่วยกันชายแดนใต้
2 สภาพรถกระบะที่ อส.จะแนะ จ.นราธิวาส ใช้เป็นพาหนะกลับจากภารกิจ รปภ.ครู แล้วโดนระเบิด