พลิกประวัติ 4 รมต.ป้ายแดง ครม. ประยุทธ์ชุดใหม่
พลิกแฟ้มประวัติ 4 รัฐมนตรีป้ายแดงใน ครม.ประยุทธ์ ชุดใหม่ ‘วีระศักดิ์ ฟูตระกูล’ อดีตปลัด กต. อดีต สนช. ปี’49 อดีต ผช.รมว.ต่างประเทศ ‘ชุติมา บุณยประภัศร’ อดีตปลัดพาณิชย์ ‘พิชิต อัคราทิตย์’ อดีต ปธ.บอร์ด รฟท. สารพัดกรรมการหน่วยงานรัฐ-เอกชน ‘สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์’ อดีต สปช. อดีตที่ปรึกษา รมว.อุตสาหกรรม คอนเน็คชั่นธุรกิจ ‘อุตตม สาวนายน’
ปิดฉากรูดม่านกันไปแล้ว สำหรับสารพัดข่าวลือ-ข่าวปล่อยต่าง ๆ นานา ภายหลังราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่การปรับคณะรัฐมนตรีเป็นครั้งที่ 4 ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นับตั้งแต่รัฐประหารยึดอำนาจเข้ามาเป็นรัฐบาลในช่วงกลางปี 2557
สยบเสียงซุบซิบก่อนหน้านี้ว่า ‘บิ๊กป้อม’ พี่ใหญ่แห่ง ‘บูรพาพยัคฆ์’ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม อาจ ‘ไขก๊อก’ พ้นทุกเก้าอี้ จนทำให้เจ้าตัวต้องออกมาปฏิเสธเสียงแข็ง ยืนกรานอยู่ทำหน้าที่ต่อ พร้อมซัดไปยังคนปล่อยข่าวว่า อาจผิดหวังในการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้
ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้ไม่นาน นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล อดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จนมีข่าวลือว่าอาจเข้านั่งเก้าอี้รัฐมนตรีตัวใดตัวหนึ่งในการปรับคณะรัฐมนตรีชุดนี้ ซึ่งบัดนี้ชัดเจนว่าแล้วว่า เป็น รมช.ต่างประเทศ
รวมถึงการปล่อยข่าวว่า ‘บิ๊กตู่’ กำลังมองหา ‘แม่ทัพ-ขุนศึก’ คนใหม่เข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีแทน พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา อดีต รมว.ยุติธรรม และ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ อดีต รมว.ศึกษาธิการ ที่ทั้งคู่ได้รับการโปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่งองคมนตรี
นี่ยังไม่นับการลุ้นของนายอุตตม สาวนายน อดีต รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ที่หลายฝ่ายเชื่อว่า อาจเข้ามาเป็นรัฐมนตรีให้กับกระทรวงใหม่ป้ายแดงอย่าง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ DE ทว่าคนที่มาแรงแซงเข้าวินคือ นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ อดีต รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ส่วนนายอุตตม ไปนั่งเก้าอี้ รมว.อุตสาหกรรมแทน
หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าการปรับคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ ส่วนใหญ่เป็นการสลับตำแหน่งกันมากกว่า ขณะที่มีรัฐมนตรี ‘หน้าใหม่’ เพียงแค่ 4 ราย เท่านั้น
ใครบ้าง ? สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รวบรวมประวัติความเป็นมา ดังนี้
1.นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
เรียกได้ว่าเป็น ‘ลูกหม้อ’ ประจำกระทรวงการต่างประเทศอย่างแท้จริง รับใช้ราชการมายาวนานกว่า 30 ปี เริ่มต้นจากเป็นเจ้าหน้าที่โต๊ะในกรมการเมือง หลังจากนั้นไปประจำที่ประเทศฟิลิปปินส์ ก่อนเป็นคณะทูตถาวรประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา กระทั่งเติบโตในหน้าที่การงานมาอย่างต่อเนื่องจนเป็นอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก และเป็นผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ก่อนกลับมาเป็นรองปลัดกระทรวง เป็นเอกอัครราชทูตที่ฝรั่งเศส และสหรัฐฯ ก่อนขึ้นแท่นเป็นปลัดกระทรวงในสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์
เคยเป็นอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในช่วงปี 2550 หลังการรัฐประหารของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) เมื่อปี 2549 กระทั่งการรัฐประหารของ คสช. เมื่อปี 2557 ก็ได้เข้ามาดำรงตำแหน่งเป็น สนช. เป็นคำรบที่สอง และเป็นผู้ช่วย รมว.ต่างประเทศ (นายดอน ปรมัตถ์วินัย) ด้วย
2.นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นับเป็นอีกข้าราชการคนหนึ่งที่เป็น ‘ลูกหม้อ’ กระทรวงพาณิชย์มาอย่างยาวนาน เริ่มชีวิตราชการในปี 2525 ก่อนเติบโตทางหน้าที่การงานเรื่อยมา เป็น ผอ.กองการค้าพหุภาคี กรมเศรษฐกิจพาณิชย์เมื่อปี 2528 ต่อมาเป็นอัครราชทูตที่ปรึกษา สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศเมื่อปี 2539 กระทั่งปี 2544 ได้นั่งเก้าอี้รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และปี 2550 ได้เป็นอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทั่งในช่วงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปี 2552-2553 ได้เป็นอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และอธิบดีกรมการค้าภายในตามลำดับ
ต่อมาในช่วงกลางปี 2553-กลางปี 2557 เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ ท้ายสุดภายหลังการรัฐประหารปี 2557 เพียง 1 เดือน ได้ขยับขึ้นเป็นปลัดกระทรวงพาณิชย์
3.นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
อดีตดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการและกรรมการในการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นอกเหนือจากนั้นแล้วยังเคยเป็นกรรมการ และผู้ถือหุ้นในบริษัทเอกชนหลายแห่งในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เคยเป็นบอร์ดให้หน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรเอกชนหลายแห่ง เช่น กรรมการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กรรมการคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ม.ธรรมศาสตร์ กรรมการอำนวยการวิทยาลัยนวัตกรรมอุดมศึกษา ม.ธรรมศาสตร์
โดยเฉพาะในช่วงปี 2549-2551 ได้รับความไว้วางใจให้เป็นประธานกรรมการบริหาร ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแหงประเทศไทย (ธพว.) ประธานคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง ธพว. และประธานคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้วย
4.นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ อดีตเลขานุการกรรมาธิการ (กมธ.) การปฏิรูปสังคม ชุมชน เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส สปช. อดีตที่ปรึกษาคณะกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน และอดีตที่ปรึกษา รมช.เกษตรและสหกรณ์ และในช่วงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เคยดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษา รมว.อุตสาหกรรม (นางอรรชกา สีบุญเรือง)
นอกจากนี้ยังเคยเป็นประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะไร้ท์พาวเวอร์ จำกัด ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะซิกเนเจอร์ แบรนด์ จำกัด กรรมการมูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก กรรมการวัดปทุมวนารามราชวรวิหาร ฝ่ายฆราวาส ด้วย
ที่น่าสนใจคือ นายสนธิรัตน์ ได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในผู้ทำธุรกิจที่ดินเขาใหญ่กับนายอุตตม ที่มีบริษัท เดอะ ซิกเนเจอร์ แบรนด์ จำกัด (นายสนธิรัตน์ ถือหุ้นใหญ่) เป็นผู้ดำเนินการ โดยลงทุนร่วมกันทั้งหมด 7 ราย วงเงิน 100 ล้านบาท โดยนายสนธิรัตน์ ลงทุนด้วยเงิน 20 ล้านบาท ขณะที่นายอุตตม ลงทุนด้วยเงิน 5 ล้านบาท
(อ่านประกอบ : โชว์บันทึกลงทุนธุรกิจที่ดิน 29 ไร่เขาใหญ่‘อุตตม’ร่วมหุ้น 7 คนวงเงิน 100 ล.)
ทั้งหมดคือโฉมหน้า-ประวัติของ 4 รัฐมนตรี ‘ใหม่แกะกล่อง’ ที่เข้ามาร่วมหัวจมท้ายกับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อลุยแก้สารพัดปัญหาประเทศที่ปัจจุบันยักแย่ยักยันเต็มแก่
ส่วนจะทำได้มากน้อยแค่ไหน ต้องรอพิสูจน์ผลงานกันต่อไป !