ผู้ตรวจการแผ่นดิน จับมือ ACRC ให้บริการปชช.-ยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานไทยในเกาหลี
ผู้ตรวจการแผ่นดินไทย เยือนสาธารณรัฐเกาหลี ร่วมหารือกับคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตและคุ้มครองสิทธิพลเมือง (ACRC) แห่งสาธารณรัฐเกาหลี มุ่งยกระดับมาตรฐานระบบแก้ปัญหาเรื่องร้องเรียน และส่งเสริมสิทธิของประชาชนประเทศคู่ภาคี โดยเฉพาะกรณีแรงงานไทยที่เดินทางไปประกอบอาชีพในประเทศเกาหลี ณ สำนักงานต่อต้านการทุจริตและคุ้มครองสิทธิพลเมืองแห่งสาธารณรัฐเกาหลี (Anti-Corruption and Civil Rights Commission (ACRC) ) รวมทั้งพบปะแรงงานไทยที่พำนักในสาธารณรัฐเกาหลี ณ วัดพุทธรังสี โซล เพื่อรับฟังสภาพปัญหาของแรงงานไทยในสาธารณรัฐเกาหลี หาแนวทางยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการเรื่องร้องเรียนในวันที่ 18 ธันวาคมนี้
นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า ในวันที่ 18 ธันวาคม 2559 พลเอก วิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดินปฏิบัติหน้าที่แทนประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ในฐานะกรรมการบริหารของสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศในระดับภูมิภาคเอเชีย พร้อมคณะผู้แทนสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เดินทางเยือนสาธารณรัฐเกาหลี เพื่อประชุมร่วมกับนาย คิน อิน ซู (Kin In-Soo) รองประธานคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตและสิทธิพลเมือง (ACRC) แห่งสาธารณรัฐเกาหลี นางวไลกร ศิวรักษ์ อัครราชทูต (หัวหน้าฝ่ายกงสุล) และนางกาญจนา วงศ์สุวรรณ์ อัครราชทูตฝ่ายแรงงาน พร้อมพบปะผู้แทนแรงงาน ผู้ประกอบการ และประชาชนไทยที่พำนักอยู่ในสาธารณรัฐเกาหลี ณ วัดพุทธรังสี โซล กว่า 200 คน เพื่อรับฟังและแก้ไขปัญหาของแรงงานไทยที่อาจไม่ได้รับความเป็นธรรมจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องและส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตตลอดจนการประกอบอาชีพในประเทศเกาหลี รวมทั้งมีส่วนร่วมกับภาครัฐที่เกี่ยวข้องในการเสริมสร้างความรู้แก่แรงงานไทย ซึ่งเป็นบทบาทหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดินตามพันธกรณีที่มีกับหน่วยงาน ACRC ซึ่งมีภารกิจหลักในการคุ้มครองคนไทยในต่างแดนที่ประสบความทุกข์ร้อนในด้านต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาด้านแรงงาน ทั้งที่เกี่ยวกับกฎหมาย ได้งานไม่ตรงกับสัญญาจ้าง มีปัญหากับนายจ้าง การขอวีซ่า เป็นต้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งภารกิจของกรรมการบริหารของสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศในระดับภูมิภาคเอเชียที่พลเอกวิทวัสได้ดำรงตำแหน่งอยู่ในขณะนี้ ในขณะเดียวกันต้องให้ความช่วยเหลือและคุ้มครองคนเกาหลีที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากหน่วยงานรัฐในเมืองไทยด้วยเช่นกัน
“ที่ผ่านมาทั้งสองประเทศได้มีการประชุมและหาแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกันในหลายด้าน ซึ่งทางฝ่ายเกาหลีเองก็ให้ความเอาใจใส่และพยายามประสานกับทางฝ่ายไทยในการแก้ปัญหาโดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานภาครัฐ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังจะมีปัญหาที่ต้องร่วมมือกันแก้ไขต่อไป อาทิ กรณีแรงงานไทยที่เดินทางไปประกอบอาชีพในประเทศเกาหลีได้งานไม่ตรงกับสัญญาจ้าง และการแก้ปัญหากรณีหญิงไทยที่สมรสกับชาวเกาหลีแล้วถูกกีดกันจากครอบครัวในการประกอบอาชีพ การศึกษาต่อ รวมถึงปัญหาการขอเปลี่ยนประเภทวีซ่าที่มีเงื่อนไขและขั้นตอนมาก ส่วนประเทศไทยได้ช่วยประสานงานและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการแก้ปัญหาสำหรับชาวเกาหลีที่แจ้งความประสงค์จะประกอบอาชีพ หรือฝึกอบรมให้แก่บริษัท หน่วยงาน หรือชาวเกาหลีในไทย ที่มีการขอขยายระยะเวลาเพื่อให้สามารถพำนักในประเทศไทยจากมาตรฐาน 90 วัน เป็นไม่เกิน 2 ปี ดังนั้น การเดินทางมาครั้งนี้ นับว่าเป็นการสานต่อความร่วมมืออันดีของผู้ตรวจการแผ่นดินทั้งสองประเทศ พร้อมมุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานไทยและเพิ่มมาตรฐานการบริหารจัดการเรื่องร้องเรียนให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด โดยมั่นใจว่าจะมีส่วนช่วยให้แรงงานไทยในประเทศเกาหลีได้รับความเป็นธรรมจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น” นายรักษเกชา กล่าว