ยูนิเซฟระลึกการทำงานให้กับเด็กที่เปราะบางที่สุดในโลกนานกว่า 70 ปี
องค์การเด็กที่ใหญ่ที่สุดในโลกก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2489 เพื่อให้ความช่วยเหลือและความหวังแก่เด็กที่ได้รับความทุกข์ยากหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
นครนิวยอร์ก 11 ธันวาคม 2559 – ในวาระโอกาสครบรอบการก่อตั้ง 70 ปี ยูนิเซฟเฉลิมฉลองต่อความก้าวหน้ามากมายที่มีให้แก่เด็กๆ บนโลกนี้ และเริ่มการเรียกร้องอย่างเร่งด่วนอีกครั้งเพื่อเข้าถึงเด็กอีกหลายล้านคนที่ชีวิตและอนาคตของพวกเขาอยู่ในอันตรายจากความขัดแย้ง วิกฤตการณ์ ความยากจน ความไม่เท่าเทียมกัน และการเลือกปฏิบัติ
“ยูนิเซฟได้รับการก่อตั้งขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อให้ความช่วยเหลือและความหวังแก่เด็กทุกคนที่มีความเสี่ยงหรือมีความจำเป็น ไม่ว่าจะอยู่ที่ประเทศใดหรือไม่ว่าประเทศนั้นจะมีบทบาทในสงครามอย่างไร จนถึงทุกวันนี้ ความเร่งด่วนและความเป็นสากลของภารกิจของเราไม่ได้ลดน้อยลงไปแต่อย่างใดเลย ในยามที่เด็กทั่วโลกยังคงต้องการความช่วยเหลืออย่างมาก เราก็ยิ่งมุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อให้เกิดผลแก่เด็กทุกคน” นายแอนโทนี่ เลค ผู้อำนวยการองค์การยูนิเซฟกล่าว
ยูนิเซฟก่อตั้งขึ้นโดยสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเพื่อช่วยเหลือเด็กในยุโรป จีน และตะวันออกกลางช่วงหลังสงคราม ยูนิเซฟขยายขอบเขตการดำเนินการอย่างรวดเร็วด้วยเงินสนับสนุนโดยสมัครใจจากรัฐบาล ประชาสังคม ภาคเอกชน และพลเมืองผู้ใส่ใจในปัญหา โดยเมื่อปี พ.ศ. 2498 ได้ทำงานเพื่อเด็กๆ ในกว่า 90 ประเทศ
ในวันนี้ ยูนิเซฟเป็นองค์กรเด็กขนาดใหญ่ที่สุดในโลกโดยทำงานร่วมกับภาคีในประเทศและดินแดนต่างๆ 190 แห่งผ่านเจ้าหน้าที่ระดับประเทศและระหว่างประเทศถึง 13,000 คนเพื่อเข้าถึงเด็กทุกคน
การเข้าร่วมโดยไม่ย่อท้อในสถานที่ที่ยากลำบากที่สุดในโลกได้ช่วยก่อให้เกิดความคืบหน้าอย่างเห็นได้ชัดแก่เด็กในช่วงไม่กี่ทศวรรษนี้ จำนวนเด็กที่เสียชีวิตก่อนอายุ 5 ปีได้ลดลงมากกว่าครึ่งภายใน 25 ปีที่ผ่านมา เด็กหลายร้อยล้านคนได้พ้นจากความยากจน อัตราการออกจากโรงเรียนของเด็กวัยประถมศึกษาได้ลดลงมากกว่าร้อยละ 40 ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2533
• ในช่วงทศวรรษ 2480 ยูนิเซฟจัดหาความช่วยเหลือฉุกเฉินทางโภชนาการ ซึ่งโดยหลักๆ อยู่ในรูปของนม ให้แก่เด็กในยุโรปหลังสงคราม ในปี พ.ศ. 2558 ยูนิเซฟและภาคีได้ให้การรักษาภาวะขาดสารอาหารต่อเนื่องรุนแรงแก่เด็ก 2.9 ล้านคนทั่วโลก
• ในช่วงทศวรรษ 2490 ยูนิเซฟริเริ่มการรณรงค์เป็นครั้งแรกเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรค เช่น วัณโรค และโรคคุดทะราด ในปี พ.ศ. 2558 ยูนิเซฟจัดซื้อวัคซีน 2.8 พันล้านชุด และได้ร่วมกับภาคีเพื่อช่วยคุ้มครองเด็กจากโรคที่ร้ายแรงถึงชีวิตต่างๆ ครอบคลุมจำนวนร้อยละ 45 ของเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปีทั่วโลก
• ในปี พ.ศ. 2496 ยูนิเซฟได้เปิดตัวโครงการน้ำสะอาด สุขอนามัย และสุขาภิบาล ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2533 ถึง 2558 ช่วยให้ผู้คนกว่า 2.6 พันล้านคนเข้าถึงแหล่งน้ำดื่ม และ 2.1 พันล้านคนเข้าถึงสถานอนามัยที่ปรับปรุงดีขึ้น
• ในปี พ.ศ. 2504 ยูนิเซฟขยายความสนใจสู่ด้านการศึกษาเด็ก ในปี พ.ศ. 2558 ยูนิเซฟและภาคีช่วยให้เด็กอายุ 3 ถึง 18 ปีจำนวน 7.5 ล้านคนเข้าถึงการศึกษาพื้นฐานทั้งในระบบและนอกระบบโรงเรียน
• ในปี พ.ศ. 2532 สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติลงมติรับรองอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ซึ่งระบุอย่างเฉพาะเจาะจงว่าเด็กทุกคนควรได้รับการจดทะเบียนเกิดเพื่อสร้างการมีตัวตันภายใต้กฎหมายและเป็นการปกป้องคุ้มครองสิทธิตน ในปี พ.ศ. 2558 ยูนิเซฟสนับสนุนการจดทะเบียนเกิดของเด็กกว่า 9.7 ล้านคนใน 54 ประเทศ
• ในปี พ.ศ. 2541 ยูนิเซฟเป็นสมาชิกก่อตั้งภาคีเพื่อขจัดไข้มาลาเรียโดยสนับสนุนการรักษาและวิจัยไข้มาลาเรีย และขยายมาตรการป้องกัน เช่น มุ้งคลุมเตียงกันแมลงที่ใช้งานได้นาน ในปี พ.ศ. 2558 ยูนิเซฟจัดซื้อมุ้งคลุมเตียงกว่า 22.3 ล้านหลังให้แก่เด็กและครอบครัวใน 30 ประเทศ
• ตั้งแต่ได้รับการก่อตั้งเป็นต้นมา ยูนิเซฟตอบสนองสถานการณ์ฉุกเฉินด้านมนุษยธรรมที่ส่งผลกระทบต่อเด็กๆ จำนวนหลายพันครั้ง ในปี พ.ศ. 2558 ยูนิเซฟและภาคีได้จัดหาวัคซีนโรคหัดแก่เด็ก 11.3 ล้านคนในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์, จัดให้เด็กจำนวน 4 ล้านคนในสถานการณ์ฉุกเฉินเข้าถึงการศึกษาพื้นฐานทั้งในหรือนอกระบบโรงเรียน, และจัดให้มีการสนับสนุนด้านจิตสังคมแก่เด็ก 2 ล้านคนที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
แม้ว่าจะมีความก้าวหน้ามากมายเหล่านี้ เด็กหลายล้านคนก็ยังคงถูกทอดทิ้งอยู่เบื้องหลัง เป็นเพราะพวกเขาใช้ชีวิตอยู่ในความยากจนหรืออยู่ในชุมชนที่ยากแก่การเข้าถึง เป็นเพราะความแตกต่างทางเพศสภาพ เชื้อชาติ ศาสนา กลุ่มชาติพันธ์ หรือเป็นเพราะทุพพลภาพที่พวกเขามี เด็กเกือบ 250 ล้านคนเติบโตขึ้นในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง และเกือบ 50 ล้านคนต้องย้ายถิ่นฐานออกจากบ้านของพวกเขา
“วิสัยทัศน์ของยูนิเซฟในอีก 70 ปีข้างหน้า มองว่าโลกนี้จะเป็นโลกที่ไม่จำเป็นต้องมีงานของเราอีกต่อไป – เป็นโลกที่เด็กทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัย ได้รับการศึกษา การดูแลและคุ้มครอง ,,, และเด็กทุกคนสามารถใช้ศักยภาพตนได้มากที่สุด” นายเลค กล่าว “มันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และเส้นทางสู่อนาคตที่ดีสำหรับเราทุกคน”
เกี่ยวกับยูนิเซฟ
ยูนิเซฟทำงานเพื่อส่งเสริมสิทธิและความเป็นอยู่ของเด็กทุกคน เราทำงานงานร่วมกับพันธมิตรใน 190 ประเทศและเขตแดนทั่วโลกเพื่อนำคำมั่นสัญญาไปสู่การปฏิบัติจริง โดยเน้นไปที่การเข้าถึงเด็กที่เปราะบางและขาดโอกาสที่สุด ไปจนถึงส่งเสริมให้เกิดประโยชน์แก่เด็กทุกคนในทุกแห่งหนทั่วโลก