เปิดคำร้องเบื้องหลัง! ‘หม่อมเต่านา’ ถูกกล่าวหาละเมิดอำนาจศาล-ขู่อัยการ
“…ดังนั้นคณะพนักงานอัยการจึงไม่ได้เป็นผู้ตัดสินว่าจำเลยผิดหรือไม่ และการที่ศาลจะพิพากษาไปในทางใด ย่อมหมายความว่า คดีต้องมีพยานหลักฐานมีน้ำหนักมั่นคงรับฟังได้ว่าจำเลยผิด หรือไม่ผิดเท่านั้น กรณีจึงต้องเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม เพราะศาลท่านมีหน้าที่ประสาทความยุติธรรมให้ปรากฏเป็นที่ประจักษ์และเป็นที่ยุติ…”
กำลังเป็นประเด็นที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนาหู
กรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตั้งองค์คณะ 3 ราย ไต่สวนข้อเท็จจริง กรณี ม.ล.มิ่งมงคล โสณกุล กับผู้ถูกกล่าวหาผู้ชายรายหนึ่ง อาจเข้าข่ายมีพฤติกรรมคุกคามข่มขู่พนักงานอัยการ ในคดีที่อัยการสูงสุด (อสส.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการจำนำข้าว
ปัจจุบันศาลฎีกาฯได้ออกหมายจับผู้ถูกกล่าวหาผู้ชายรายดังกล่าวแล้ว เนื่องจากได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังที่พักตามทะเบียนราษฎร์ แต่ไม่มีผู้รับ ส่วน ม.ล.มิ่งมงคล ไม่สามารถนำหนังสือแจ้งดังกล่าวไปติดได้ เนื่องจากอาศัยที่คอนโดมีเนียม จึงได้มีหนังสือเรียกให้มาชี้แจงต่อศาลแทน
นอกเหนือจากนั้นพนักงานอัยการ เข้าแจ้งความต่อ สน.ทุ่งสองห้อง เขตบางเขน กทม. ด้วย โดยระบุรายละเอียดพฤติกรรมของผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด เนื่องจากหวาดเกรงภยันตราย และความปลอดภัยในชีวิตของตนเอง และครอบครัว
(อ่านประกอบ : ศาลฎีกาฯออกหมายจับชายต้องสงสัยปมขู่อัยการคดีข้าว-แจ้งความด้วย)
ตกลงเรื่องนี้มีที่มาที่ไปเป็นอย่างไร ?
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบในหนังสือคำร้องของพนักงานอัยการที่ยื่นต่อศาลฎีกาฯเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว มีรายละเอียด สรุปได้ ดังนี้
เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2559 วันนัดไต่สวนพยานจำเลย ในคดีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว เวลาประมาณ 12.00 น. หลังจากที่ศาลหยุดพักการพิจารณาคดีตอนเที่ยง และเดินลงจากบัลลังก์ไปแล้วนั้น ได้มีชายและหญิงรวมสองคน เข้ามายืนในระยะประชิดใกล้โต๊ะพนักงานอัยการโทก์ แล้วจ้องหน้าพนักงานอัยการผู้ว่าคดี ด้วยกิริยาอาการเคียดแค้นแสดงความอาฆาตร้ายจะเอาเรื่อง โดยเข้าลักษณะทำนองคุกคามข่มขู่ทำให้หวาดกลัว หรือกดดันคณะทำงานอัยการอันสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินคดีนี้ และในขณะที่คณะทำงานอัยการพร้อมด้วยนิติกรกำลังเดินออกจากบัลลังก์ หญิงคนดังกล่าวยังไม่หยุดพฤติกรรมคุกคาม แต่ได้เดินกดดันตามเข้ามาในระยะกระชั้นชิดในลักษณะส่อไปในทางอาจเกิดภยันตรายต่อคณะทำงานอัยการได้
นอกจากนี้ในระหว่างที่คณะทำงานอัยการเดินทางออกจากบัลลังก์ ชายที่มาด้วยกับผู้หญิงยังได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปพนักงานอัยการผู้ว่าคดีไปด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในศาลนี้ และการกระทำดังกล่าวนอกจากเป็นพฤติการณ์ก่อกวนข่มขู่คณะทำงานอัยการแล้ว ยังมีแนวโน้มว่า อาจนำไปใช้ในทางไม่ดี หรือก่อภัยอันตรายแก่พนักงานอัยการผู้ว่าคดี และคณะทำงานอัยการผู้ได้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุดทั้งหมดรวมทั้งผู้เกี่ยวข้อง และที่สำคัญผลจากการปฏิบัติหน้าที่ในคดีนี้อย่างตรงไปตรงมาของคณะทำงานอัยการ ยังได้มีเหตุการณ์ผิดปกติไม่น่าไว้วางใจเกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของคณะทำงานอัยการ อันเข้าลักษณะส่อไปในทางจะเกิดภยันตรายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตของคณะทำงานและครอบครัว รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องเป็นอย่างยิ่ง ทั้งในปัจจุบันและในอนาคตต่อไปภายหน้า คณะทำงานอัยการจึงได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานด้วย
เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม เพื่อประโยชน์แห่งการดำเนินคดีให้เป็นไปโดยสงบเรียบร้อย และเพื่อให้เกิดความเข้าใจถูกต้องตรงกันทุกฝ่าย คณะทำงานอัยการผู้ได้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุด ขอเรียนว่า
หนึ่ง คณะทำงานอัยการผู้ได้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุดได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลางในฐานะทนายแผ่นดินที่ต้องรักษาประโยชน์ของชาติบ้านเมือง และประชาชนโดยรวม คณะทำงานอัยการไม่เคยมองจำเลยกับพวกเป็นศัตรูแต่อย่างใด รวมทั้งไม่ได้เป็นศัตรูกับฝ่ายใดทั้งสิ้น พนักงานอัยการมีบทบาทหน้าที่ในฐานะทนายแผ่นดิน ยึดมั่นในความเป็นกลาง และอำนวยความยุติธรรมให้ทุกฝ่าย
สอง คณะพนักงานอัยการจึงไม่ได้คาดหมัดคาดมวยกับใครหรือฝ่ายใด แต่ต้องว่าไปตามข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานในสำนวน ผิดต้องว่าไปตามผิด ถูกว่าตามถูก ไม่ว่าจำเลยจะเป็นใคร เป็นพรรคการเมืองหรือฝ่ายใด พนักงานอัยการจักปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้เสมอหน้ากัน ไม่เว้นผู้ใด
สาม ในการปฏิบัติหน้าที่คณะพนักงานอัยการต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างตรงไปตรงมา แบบไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม และยึดถือความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ตั้ง หามีผลประโยชน์ทับซ้อนใด ๆ ไม่ โดยยึดถือความถูกต้องเป็นธรรม และประโยชน์ของชาติบ้านเมืองเป็นใหญ่ เหนือกว่าสิ่งอื่นใด ทั้งต้องไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนหรือพวกพ้อง
สี่ คณะพนักงานอัยการเป็นเพียงผู้ทำหน้าที่เสนอข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานต่อศาล รวมทั้งเป็นผู้ช่วยศาลในการดำเนินคดีในระบบไต่สวน โดยมีวัตถุประสงค์เพียงประการเดียวคือ ช่วยกันค้นหาความจริงให้เป็นที่ยุติ มิให้ความจริงถูกทำให้บิดเบือนหรือเข้าใจผิดไป และที่สำคัญคือระบบไต่สวน ศาลมีอำนาจแสวงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานได้เต็มที่ว่า จำเลยผิดหรือไม่
ดังนั้นคณะพนักงานอัยการจึงไม่ได้เป็นผู้ตัดสินว่าจำเลยผิดหรือไม่ และการที่ศาลจะพิพากษาไปในทางใด ย่อมหมายความว่า คดีต้องมีพยานหลักฐานมีน้ำหนักมั่นคงรับฟังได้ว่าจำเลยผิด หรือไม่ผิดเท่านั้น กรณีจึงต้องเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม เพราะศาลท่านมีหน้าที่ประสาทความยุติธรรมให้ปรากฏเป็นที่ประจักษ์และเป็นที่ยุติ
ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ขอประทานศาลโปรด
หนึ่ง ขอศาลเป็นสื่อกลางทำความเข้าใจต่อฝ่ายจำเลยกับพวก ให้เข้าใจถึงบทบาทหน้าที่ของคณะพนักงานอัยการ
สอง ขอให้ศาลจัดให้มีระบบความปลอดภัยขั้นสูงสุด รวมทั้งตรวจสอบการพกพาอาวุธทั้งที่เป็นอาวุธโดยสภาพและไม่เป็นอาวุธโดยสภาพ พร้อมกับเก็บประวัติรวมทั้งเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับตัวบุคคลที่จะเข้าฟังการพิจารณา หรือเข้าสู่เขตอำนาจศาล ป้องกันการรับบัตร (แลกบัตร) แทนกัน
สาม ขอให้ศาลดำเนินการกับบุคคลที่ประพฤติตนไปในทางละเมิดอำนาจศาลหรือประพฤติตัวไม่เรียบร้อยบริเวณศาล รวมทั้งการคุกคามขัดขวางกระบวนการยุติธรรม และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และเป็นประโยชน์แก่ทางราชการ ที่จักช่วยให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทำงานได้อย่างเต็มที่ (ถ้าหากมี) รวมไปถึงการป้องปรามหรือป้องกันภยันตรายต่าง ๆ อันอาจเกิดขึ้นได้ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ทั้งภายในและภายนอกเขตอำนาจศาล ทั้งนี้เพื่อความสงบสุขของชาติบ้านเมืองและประชาชนโดยรวม
และถ้ายังปรากฏพฤติการณ์คุกคามดังที่ได้เรียนข้างต้น พนักงานอัยการไม่อาจดำเนินหน้าที่ต่อไปได้โดยปราศจากความหวาดระแวง ขอศาลโปรดพิจารณากำหนดให้ดำเนินกระบวนพิจารณาลับด้วย (ดูเอกสารประกอบ)
ทั้งหมดคือข้อร้องเรียนของพนักงานอัยการ ที่ยื่นต่อศาลฎีกาฯ ซึ่งอ้างว่าเกิดเหตุการณ์ บุคคลชาย-หญิง เข้ามาจ้องหน้าในลักษณะอาฆาตแค้น คุกคามข่มขู่ กระทั่งศาลฎีกาฯตั้งองค์คณะไต่สวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้ โดยเรียก ‘หม่อมเต่านา’ เข้ามาชี้แจงแล้ว
อย่างไรก็ดีในชั้นนี้ยังถือว่า ม.ล.มิ่งมงคล เป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหาเท่านั้น ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
อ่านประกอบ :
ขีดเส้น ก.ค. 60 คดีข้าว‘ปู’สอบพยานต้องเสร็จ-เรียก‘หม่อมเต่านา’แจงปมขู่อัยการ
ศาลฎีกาฯออกหมายจับชายต้องสงสัยปมขู่อัยการคดีข้าว-แจ้งความด้วย
พลิกประวัติ‘หม่อมเต่านา’ขวัญใจคนเสื้อแดง ก่อนศาลเรียกแจงปมขู่อัยการ?