ยิงลูกจ้าง4,500ดับหน้า รร.ที่สะบ้าย้อย – “อักษรา”ยันเอกสาร BRN ข่าวลวง
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงร้อนระอุ เมื่อคนร้ายใช้อาวุธสงครามกราดยิงลูกจ้างของภาครัฐที่ปฏิบัติหน้าที่เฝ้าหน้าโรงเรียนใน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา จนเสียชีวิต ขณะที่หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขฯ ยืนยันเอกสารของกลุ่มบีอาร์เอ็นอ้างปรับโครงสร้างสภาองค์การนำ ไม่ใช่ของจริง
เหตุรุนแรงล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 24 พ.ย.59 คนร้ายอย่างน้อย 4 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงใส่ นายดอเลาะ มะตาเห ลูกจ้างโครงการจ้างงานเร่งด่วน 4,500 บาทของหน่วยเฉพาะกิจสงขลา เสียชีวิตบริเวณหน้าโรงเรียนบ้านควนหรัน ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา โดยนายดอเลาะรับหน้าที่เฝ้าหน้าโรงเรียนเป็นประจำทุกวัน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ โดยล่าสุดได้ภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด พบว่าคนร้ายมีด้วยกัน 4 คน ใช้รถจักรยานยนต์ 2 คันเป็นพาหนะ โดยมือยิงที่นั่งซ้อนท้ายแต่งกายคล้ายหญิงมุสลิม คาดว่าเพื่อพรางตัวจากการสังเกตของเจ้าหน้าที่
ครม.เพิ่งต่ออายุ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ 4 อำเภอสงขลา
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันอังคารที่ 22 พ.ย. คณะรัฐมนตรีเพิ่งมีมติต่ออายุให้ 4 อำเภอของ จ.สงขลา คือ อ.จะนะ เทพา สะบ้าย้อย และนาทวี รวมทั้ง อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี เป็นพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551
ทั้งนี้ มติดังกล่าวได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.59 ถึงวันที่ 30 พ.ย.60 ซึ่งเป็นการขยายเวลาต่อเนื่องมาจากปีก่อนหน้า
ครม.ส่วนหน้าหนุนซื้อ “ซีที สแกน” 20 ล้าน
วันเดียวกัน มีการประชุมคณะผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ครม.ส่วนหน้า ซึ่งเป็นการประชุมอย่างเป็นทางการครั้งที่ 3
ผลการประชุมสรุปว่า จะเน้นเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติดซึ่งถือเป็นปัญหาสำคัญในพื้นที่ โดยจะเพิ่มเติมแนวทางการแก้ไขปัญหาจากปกติที่ดำเนินการอยู่แล้ว ส่วนการอำนวยความยุติธรรม โดยเฉพาะการผ่าพิสูจน์ศพซึ่งยังมีปัญหาติดขัดหลักศาสนาอิสลามอยู่นั้น จะดำเนินการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์เอกซเรย์ หรือ CT SCAN จำนวน 1 เครื่อง งบประมาณ 20 ล้านบาท ติดตั้งไว้ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยทางศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. จะผลักดันเรื่องนี้ให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว
นายภาณุ อุทัยรัตน์ ในฐานะเลขานุการ ครม.ส่วนหน้า ยังได้ปฏิเสธข่าวการซ้อมทรมานผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคงที่กำลังเป็นกระแสในพื้นที่ขณะนี้ โดยยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่ามีข่าวผู้เห็นต่างจากรัฐกว่า 200 จะเตรียมเข้าโครงการพาคนกลับบ้านในเดือน ธ.ค.นี้ ตามที่ “ทีมข่าวอิศรา” ได้เสนอข่าวไปแล้ว
“อักษรา” ชี้เอกสารบีอาร์เอ็น “ข่าวลวง”
ส่วนที่มีข่าวและเผยแพร่เอกสารอ้างเป็นของกลุ่มบีอาร์เอ็น โคออร์ดิเนต รายงานผลการประชุมสภาองค์การนำ หรือ DPP ที่มีการตั้งบุคคลขึ้นดำรงตำแหน่งใหม่หลายตำแหน่งนั้น พล.อ.อักษรา เกิดผล หนึ่งใน ครม.ส่วนหน้า และหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขฯ บอกว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง และเอกสารที่ปรากฏเป็นข่าวก็เป็นเอกสารปลอม