200ผู้เห็นต่างฯจ่อกลับไทย – แกนนำพูโลถวายอาลัย - ข่าว BRN ปรับครม.ส่อมั่ว
กลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่หลบหนีทางการไทยไปพำนักอยู่ในประเทศมาเลเซียและประเทศอื่นๆ เตรียมเข้าโครงการ “พาคนกลับบ้าน” กลับมาถวายอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในเดือน ธ.ค.นี้ไม่ต่ำกว่า 200 คน
ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้รอบใหม่ที่ยืดเยื้อมานานเกือบ 13 ปี โดยมีคนในพื้นที่บางส่วนมีแนวคิดต่อต้านรัฐ และต้องการแบ่งแยกดินแดน ขณะที่ในช่วงต้นๆ ของการแก้ไขปัญหา ฝ่ายความมั่นคงได้ใช้มาตรการทางกฎหมาย โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายพิเศษที่ให้อำนาจในการปิดล้อม ตรวจค้น และควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยอย่างเข้มงวด ทำให้มีผู้คิดต่าง รวมถึงบุคคลที่คิดว่าตนเองเป็นเป้าหมาย หลบหนีไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านเป็นจำนวนมาก
ฝ่ายความมั่นคงไทยโดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จึงมีโครงการ “พาคนกลับบ้าน” เริ่มดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมมาตั้งแต่ยุค พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ เป็นแม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งปัจจุบัน พล.อ.อุดมชัย เป็นหนึ่งในผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ครม.ส่วนหน้า ด้วย
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สวรรคต ปรากฏว่าผู้เห็นต่างจากรัฐหรือบุคคลต้องสงสัยที่หลบหนีไปพำนักในประเทศเพื่อนบ้าน มีความต้องการเดินทางกลับภูมิลำเนา เพื่อร่วมถวายความอาลัยแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เพราะทุกคนล้วนจงรักภักดีและเทิดทูนพระองค์ท่าน จากนั้นก็จะขอต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมไทยและอาศัยอยู่กับครอบครัว ญาติพี่น้อง
มีรายงานจากฝ่ายความมั่นคงว่า กลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐที่แสดงความจำนงจะเดินทางกลับภูมิลำเนาครั้งนี้ มีมากกว่า 200 คน และทั้งหมดจะร่วมพิธีแสดงความอาลัยแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วย
สำหรับตัวเลขผู้เห็นต่างจากรัฐที่แสดงความจำนงเข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้าน จำนวนกว่า 200 คนนี้ นับว่ามากที่สุดครั้งหนึ่งตั้งแต่มีโครงการมา โดยในยุค พล.อ.อุดมชัย เคยมีผู้เข้าร่วมโครงการล็อตใหญ่ 93 คนในคราวเดียว เมื่อวันที่ 11 ก.ย.55 จนสื่อมวลชนนำไปรายงานข่าวกันอย่างครึกโครม โดยในกลุ่มนั้นมี นายแวอาลีคอปเตอร์ วาจิ ผู้ก่อความไม่สงบคนสำคัญที่เคยเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส และทางการเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปล้นปืนกว่า 400 กระบอกจากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง เมื่อวันที่ 4 ม.ค.47 รวมอยู่ด้วย
"แกนนำพูโล-สมาชิกมาราฯ" ออกแถลงการณ์
ด้านความเคลื่อนไหวขององค์กรต่อต้านรัฐไทยที่เคลื่อนไหวอยู่นอกประเทศ เช่น กลุ่มพูโลเก่า นายกาแม ยูโซฟ แกนนำกลุ่มพูโล ได้ออกแถลงการณ์แสดงความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยระบุตอนหนึ่งว่าพระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทย และปกครองอาณาประชาราษฎรอย่างเป็นธรรม พระราชกรณียกิจของพระองค์สร้างสันติสุขให้กับพสกนิกรไทยทุกศาสนาและทุกวัฒนธรรม
ขณะที่กลุ่มมารา ปาตานี ซึ่งเป็น “องค์กรร่ม” ของกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ 6 กลุ่มที่ร่วมพูดคุยเพื่อสันติสุขกับรัฐบาลไทยอยู่นั้น สมาชิกของกลุ่มฯได้ออกแถลงการณ์ในนาม “นักต่อสู้แห่งแผ่นดินฟาตอนี” ถวายความอาลัยแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เช่นกัน และได้ร่วมแสดงเจตนางดเว้นการกระทำที่เป็นการรบกวนในช่วงที่พี่น้องประชาชนกำลังอยู่ในสภาวะโศกเศร้าด้วย
สำหรับแถลงการณ์ในนาม “นักต่อสู้แห่งแผ่นดินฟาตอนี” นั้น ทางผู้เห็นต่างจากรัฐที่ร่วมโต๊ะพูดคุยกับรัฐบาลไทย ได้ยื่นผ่าน พล.อ.อักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อครั้งไปร่วมพูดคุยที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อปลายเดือน ต.ค.
เอกสาร BRN แจงปรับตำแหน่งใหม่ ส่อมั่ว!
อีกด้านหนึ่ง มีความเคลื่อนไหวของสำนักข่าวเบนาร์นิวส์ และมีสื่อไทยบางแขนงนำมารายงานต่อ เกี่ยวกับแถลงการณ์ของกลุ่มบีอาร์เอ็น โคออร์ดิเนต เรื่องการปรับเปลี่ยนตัวบุคคลในสภาองค์การนำ หรือ DPP สาระสำคัญคือมีการตั้ง นายสะแปอิง บาซอ เป็นประธานสภาองค์การนำ และ นายดูนเลาะ แวมะนอ เป็นเลขาธิการ
แถลงการณ์ที่ว่านี้ลงวันที่ 28 ก.ย.59
จากการตรวจสอบของ “ทีมข่าวอิศรา” พบว่า ข่าวนี้เป็นข่าวเก่าตั้งแต่ปลายเดือน ก.ย. โดยหน่วยงานความมั่นคงไทยรายงานเป็น “ข้อมูลการข่าว” ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่น้ำหนักของข่าวอยู่ในระดับ "ข่าวยังไม่กรอง"
ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ของฝ่ายความมั่นคง เชื่อว่ามีการประชุมสภาองค์การนำจริง และมีการปรับเปลี่ยนผู้รับผิดชอบบางหน้าที่จริง แต่โดยธรรมชาติขององค์กร และสมาชิกส่วนใหญ่เป็นแกนนำอาวุโส จึงไม่น่าจะมีการประกาศชื่อออกมาอย่างเป็นทางการแบบนี้
สำหรับสาระในการประชุมที่ผ่านการวิเคราะห์ของฝ่ายความมั่นคงไทย คือน่าจะมีการเปิดทางให้ฝ่ายทหาร หรือฝ่ายที่กุมกองกำลัง เข้ามาควบคุมหรือเป็นเสียงส่วนใหญ่ในสภาองค์การนำ ขณะที่กลุ่มสนับสนุนหรือมีบทบาทในการพูดคุยกับรัฐบาลไทย ถูกปรับเปลี่ยนออกไป จึงน่าเชื่อว่าท่าทีของบีอาร์เอ็นน่าจะส่งสัญญาณปฏิเสธการพูดคุยเจรจากับรัฐบาลไทย และเดินหน้าก่อเหตุรุนแรงตามแนวทางของตนเองต่อไป ซึ่งหลังจากนั้นก็มีเหตุรุนแรงขนาดใหญ่หลายเหตุการณ์ โดยเฉพาะในช่วงที่คณะพูดคุยของรัฐบาลไทยกับมารา ปาตานี นัดหารือกันเกี่ยวกับการกำหนด “พื้นที่ปลอดภัย” เมื่อปลายเดือน ต.ค.
“ทีมข่าวอิศรา” ได้รายงานความเคลื่อนไหวนี้ไว้ในรายงานพิเศษชื่อ ข้อมูลที่ยังสับสนเรื่อง"พื้นที่ปลอดภัย" กับข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการฯ เผยแพร่เมื่อวันที่ 30 ต.ค.59
ส่วนเอกสารที่อ้างว่าเป็นแถลงการณ์ของบีอาร์เอ็น รายงานผลการประชุมและประกาศชื่อผู้ดำรงตำแหน่งในสภาองค์การนำนั้น ฝ่ายความมั่นคงไทยยืนยันว่า ไม่ใช่เอกสารจริง เพราะมีข้อน่าสังเกตหลายประการ เช่น บีอาร์เอ็นเป็นองค์กรลับ การประชุมก็จัดขึ้นเป็นการลับ ไม่น่าจะมีเอกสารรายงานการประชุม ที่สำคัญกลุ่มเคลื่อนไหวกลุ่มนี้ไม่เคยเรียกตัวเองว่า “บีอาร์เอ็น-ซี” หรือ บีอาร์เอ็น โคออร์ดิเนต แต่เป็นชื่อที่ฝ่ายความมั่นคงไทยเรียก
ลูกชายสะแปอิงเสียชีวิต – ผู้การสมเกียรติร่วมพิธีฝัง
อนึ่ง นายสะแปอิง บาซอ เป็นอดีตครูใหญ่โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ จ.ยะลา ถูกออกหมายจับในคดีปล้นปืนล็อตใหญ่จากค่ายทหารใน จ.นราธิวาส ทางการไทยเชื่อว่าเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณสูงสุดของบีอาร์เอ็น
เมื่อวันจันทร์ที่ 21 พ.ย.59 เพิ่งมีข่าว นายฮัมดาน บาซอ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 191/7/ หมู่ 4 ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ลูกชายคนโตของ นายสะแปอิง บาซอ ได้เสียชีวิตลงจากการป่วยด้วยโรคลำไส้อักเสบ และหัวใจล้มเหลว ครอบครัวได้นำศพไปทำพิธีฝังที่มัสยิดตะลาฆอสมีลัน บ้านต้นมะขาม หมู่ 4 ต.เมาะมาวี โดยมี พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ไปร่วมพิธีด้วย
ส่วน นายดูนเลาะ แวมะนอ เป็นอดีตครูใหญ่โรงเรียนญิฮาดวิทยา หรือ ปอเนาะญิฮาด อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ทางการไทยเชื่อว่าเป็นผู้นำฝ่ายกองกำลังของบีอาร์เอ็น
ขณะที่สำนักข่าวเบนาร์นิวส์ เป็นเว็บไซต์ข่าวออนไลน์ที่ลงทุนโดยกลุ่มทุนต่างชาติ มีข่าวทั้งของไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย เขียนตามภาษาประจำชาติของประเทศเหล่านั้น และยังแปลเป็นภาษาอังกฤษกับภาษามลายูด้วย
ในส่วนของข่าวสารเกี่ยวกับประเทศไทย นอกจากข่าวความเคลื่อนไหวทางการเมืองแล้ว ข่าวจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็เป็นประเด็นที่เบนาร์นิวส์ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : แถลงการณ์ถวายความอาลัยฯ ของกาแม ยูโซฟ แกนนำพูโลเก่า และของสมาชิกมารา ปาตานี ที่ร่วมกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขฯ