ล้วงรายได้ค่าเช่าตึก32 ล.'พร้อมมิตร'!ก่อนเปิดศึกชิงครุภัณฑ์'บ้านแพ้ว'-'บิ๊ก'ถือหุ้นเพียบ
"..ทางโรงพยาบาลบ้านแพ้ว ได้ติดต่อไปยัง โรงพยาบาลพร้อมมิตร เพื่อขอเจรจานำเครื่องมือเครื่องใช้เหล่านี้ออกมา เพราะแม้เราจะเป็นองค์กรมหาชน แต่ก็ถือเป็นหน่วยงานในสังกัดของรัฐ เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ ถือเป็นครุภัณฑ์ของทางราชการ แต่ทางทนายความของโรงพยาบาลพร้อมมิตรไม่ยอม สำหรับเครื่องมือเครื่องใช้ที่กำลังมีปัญหากันมีหลายรายการ อาทิ กระติกน้ำร้อน เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น และเครื่องมือตรวจสอบอาการผู้ป่วยอีกบางรายการ วงเงินรวมก็เป็นหลักล้านบาท..."
กำลังเป็นประเด็นร้อนที่ถูกจับตามอง!
เกี่ยวกับปัญหาข้อพิพากเรื่องครุภัณฑ์ระหว่าง โรงพยาบาลบ้านแพ้ว และโรงพยาบาลพร้อมมิตร อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากโรงพยาบาลบ้านแพ้ว ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดของรัฐ ดำเนินการบริหารงานในรูปแบบองค์กรมหาชน ได้เข้าไปเช่าอาคารของโรงพยาบาลพร้อมมิตร เพื่อเปิดให้บริการรักษาคนไข้ ตั้งแต่ปี 2548 และเพิ่งหมดสัญญาเช่าเมื่อวันที่ 12 พ.ย.2559 ที่ผ่านมา ภายหลังจากที่โรงพยาบาลพร้อมมิตรไม่ต่อสัญญาเช่าให้ และแจ้งให้โรงพยาบาลบ้านแพ้ว ย้ายออกไปภายใน 15 วัน แต่ไม่ยอมให้โรงพยาบาลบ้านแพ้ว นำเครื่องมือเครื่องใช้บางส่วนออกไปด้วย โดยให้เหตุผลว่า ในการเช่าอาคารโรงพยาบาลพร้อมมิตร มีเครื่องมือเครื่องใช้เดิมของโรงพยาบาลพร้อมมิตรรวมอยู่ด้วย และมีการใช้งานจนชำรุดเสียหายไปแล้ว ดังนั้น เครื่องมือเครื่องใช้ที่โรงพยาบาลบ้านแพ้ว ที่มีอยู่ในปัจจุบันจึงควรชดเชยให้กับโรงพยาบาลพร้อมมิตร
"ทางโรงพยาบาลบ้านแพ้ว ได้ติดต่อไปยัง โรงพยาบาลพร้อมมิตร เพื่อขอเจรจานำเครื่องมือเครื่องใช้เหล่านี้ออกมา เพราะแม้เราจะเป็นองค์กรมหาชน แต่ก็ถือเป็นหน่วยงานในสังกัดของรัฐ เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ ถือเป็นครุภัณฑ์ของทางราชการ แต่ทางทนายความของโรงพยาบาลพร้อมมิตรไม่ยอม สำหรับเครื่องมือเครื่องใช้ที่กำลังมีปัญหากันมีหลายรายการ อาทิ กระติกน้ำร้อน เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น และเครื่องมือตรวจสอบอาการผู้ป่วยอีกบางรายการ วงเงินรวมก็เป็นหลักล้านบาท"
คือ คำยืนยัน ของ ผู้บริหารรพ.บ้านแพ้ว ที่ให้กับสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org พร้อมกับระบุว่า ล่าสุดทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เข้าทำการตรวจสอบข้อมูลเรื่องนี้ แล้ว และมีคำสั่งอายัดครุภัณฑ์ไว้ชั่วคราวด้วย
(อ่านประกอบ : บ้านแพ้ว-พร้อมมิตร เปิดศึกชิงครุภัณฑ์หลังหมดสัญญาเช่าตึก!สตง.สั่งอายัดชั่วคราว)
ทั้งนี้ เพื่อให้สาธารณชนได้รับทราบข้อมูลทั้งสองด้าน ในช่วงสายวันที่ 15 พ.ย.2559 ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยังโรงพยาบาลพร้อมมิตร ตามเบอร์โทรศัพท์หมายเลข 0-2259-0333 (เป็นเบอร์ที่แจ้งไว้ในเว็บไซต์โรงพยาบาลบ้านแพ้ว สาขาพร้อมมิตร) เพื่อขอสัมภาษณ์ผู้บริหารให้ชี้แจงข้อเท็จจริงในฝั่งของโรงพยาบาลพร้อมมิตร
เบื้องต้นได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่รพ.พร้อมมิตร รายหนึ่ง ว่า เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อมาไม่ใช่เบอร์ของ โรงพยาบาลบ้านแพ้ว สาขาพร้อมมิตร แล้ว เนื่องจากโรงพยาบาลบ้านแพ้ว ไม่ได้รับการต่อสัญญาเช่าอาคารจาก โรงพยาบาลพร้อมมิตร และย้ายออกไปอยู่ที่ตึกทีพีไอ ตรงถนนสาธรแล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวระบุว่า ต้องการสัมภาษณ์ผู้บริหารโรงพยาบาลพร้อมมิตร เกี่ยวกับปัญหาข้อพิพาทเรื่องครุภัณฑ์กับ โรงพยาบาลบ้านแพ้ว เจ้าหน้าที่แจ้งว่า คงต้องติดต่อกับทนายความของโรงพยาบาล เพราะในส่วนเจ้าหน้าที่ไม่มีใครทราบรายละเอียดมากนัก
เมื่อถามว่า สาเหตุที่โรงพยาบาลพร้อมมิตร ไม่ต่อสัญญาเช่าอาคารให้กับ โรงพยาบาลบ้านแพ้ว คืออะไร เจ้าหน้าที่ตอบว่า "ก็มีหลายสาเหตุหลายประการ แต่ไม่ทราบรายละเอียด"
เมื่อถามว่า ปัจจุบันมีการทำสัญญากับผู้เช่ารายใหม่แล้วหรือยัง เจ้าหน้าที่ตอบว่า "ยังไม่ได้ทำอะไร"
เมื่อถามว่า สตง.ออกคำสั่งอายัดครุภัณฑ์ ไว้แล้วใช่หรือไม่ เจ้าหน้าที่ตอบว่า "มีคำสั่งมาแต่ยังไม่ได้สรุปว่าเป็นชิ้นไหนบ้าง"
"เรื่องนี้ ทางเจ้าหน้าที่ไม่ทราบรายละเอียดมากนัก คงต้องสอบถามข้อมูลทางทนายอีกครั้ง ขอให้ทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้จะแจ้งข้อมูลให้ทนายทราบอีกครั้ง"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า โรงพยาบาลพร้อมมิตร ดำเนินงานภายใต้ชื่อ บริษัท โรงพยาบาลพร้อมมิตร จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2521 ทุนปัจจุบัน 90 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 12 ซอยพร้อมมิตร ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
แจ้งประกอบธุรกิจเช่าอาคารและอุปกรณ์
ปรากฎชื่อ นาย เพรา นิวาตวงศ์ และ นาง ปิยรัตน์ นิวาตวงศ์ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ นายแพทย์ อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ (บิดานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี) พลตรี สุจินดา คราประยูร พลตรี วิโรจน์ แสงสนิท พันเอก สำเภา ชูศรี และนาย สันติ วิริยะรังสฤษฎ รวมเป็นกรรมการ
รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ 23 เมษายน 2558 แพทย์หญิง ปิยรัตน์ นิวาตวงศ์ ถือหุ้นใหญ่สุด 370,653 หุ้น มูลค่า 37,065,300 บาท นายแพทย์ อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถืออยู่ 66,850 หุ้น มูลค่า 6,685,000 บาท นายแพทย์ เพรา นิวาตวงศ์ ถืออยู่ 30,400 หุ้น มูลค่า 3,040,000 บาท บริษัท ยอดกิจธุรกิจ จำกัด ถืออยู่ 26,250 หุ้น มูลค่า 2,625,000 บาท บริษัท ปากน้ำธุรกิจ จำกัด ถืออยู่ 20,000 หุ้น มูลค่า 2,000,000 บาท นาย สราวุธ วัชรพล ถืออยู่ 15,000 หุ้น มูลค่า 1,500,000 บาท คุณหญิง ปรียา เกษมสันต์ ถืออยู่ 10,500 หุ้น มูลค่า 1,050,000 บาท นาง สนอง ศรีสมบูรณ์ ถืออยู่ 10,500 หุ้น มูลค่า 1,050,000 บาท นาย บรรหาร ศิลปอาชา (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) ถืออยู่ 10,000 หุ้น มูลค่า 1,000,000 บาท บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด (ช่อง7) ถืออยู่ 10,000 หุ้น มูลค่า 1,000,000 บาท
บริษัท เค กรุ๊ป จำกัด ถืออยู่ 10,000 หุ้น มูลค่า 1,000,000 บาท บริษัท ไทยยานยนตร์ โฮลดิ้ง จำกัด ถืออยู่ 10,000 หุ้น มูลค่า 1,000,000 บาท บริษัท ลีนุตพงษ์โฮลดิ้ง จำกัด ถืออยู่ 10,000 หุ้น มูลค่า 1,000,000 บาท พล.ต.ต. วีระพงษ์ สุนทรางกูร ถืออยู่ 10,000 หุ้น มูลค่า 1,000,000 บาท นาย ศิริชัย บูลกุล ถืออยู่ 10,000 หุ้น มูลค่า 1,000,000 บาท นาย ขรรค์ชัย บุนปาน ถืออยู่ 9,400 หุ้น มูลค่า 940,000 บาท นาง ใจฟ้า วงศ์เทียมชัย ถืออยู่ 8,250 หุ้น มูลค่า 825,000 บาท
นาย เนาวรัตน์ พัฒโนดม ถืออยู่ 8,000 หุ้น มูลค่า 800,000 บาท พล.อ. สำเภา ชูศรี ถืออยู่ 7,000 หุ้น มูลค่า 700,000 บาท บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด ถืออยู่ 6,000 หุ้น มูลค่า 600,000 บาท นาง มณฑารัตน์ หล่อสกุลสินธิ์ ถืออยู่ 6,000 หุ้น มูลค่า 600,000 บาท นายแพทย์ บุญรัตน์ เอื้อสุดกิจ ถืออยู่ 5,000 หุ้น มูลค่า 500,000 บาท บริษัท เบอร์โก จำกัด ถืออยู่ 4,500 หุ้น มูลค่า 450,000 บาท นาง ปทุม พิศลยบุตร ถืออยู่ 4,500 หุ้น มูลค่า 450,000 บาท บริษัท โอสถสภา จำกัด ถืออยู่ 4,000 หุ้น มูลค่า 400,000 บาท
ล่าสุดนำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ณ 31 ธันวาคม 2558 แจ้งว่า มีรายได้จากการเช่าอาคารและอุปกรณ์ 31,400,000 บาท รายได้อื่น 751,549.48 บาท รวมรายได้ 32,151,549.48 บาท มีรายจ่ายรวม 21,819,421.42 บาท กำไรสุทธิ 8,204,605.65 บาท
ส่วนสินทรัพย์ แจ้งว่า มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 28,031,333.92 บาท เงินลงทุนชั่วคราว 11,219,981.81 บาท ลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่น 4,768,629.32 บาท รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 44,019,945.05 บาท
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน มีที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ - สุทธิ 161,789,772.36 บาท รวมสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น จะอยู่ที่ 205,833,717.41 บาท
ส่วนหนี้สินแจ้งว่ามีหนี้สินรวม 4,874,433.79 บาท
ขณะที่ครุภัณฑ์ ของโรงพยาบาลบ้านแพ้ว ที่ทางโรงพยาบาลพร้อมมิตร ไม่ยอมให้ย้ายออกไปด้วย มีหลายรายการ อาทิ กระติกน้ำร้อน เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น และเครื่องมือตรวจสอบอาการผู้ป่วยอีกบางรายการ วงเงินรวมก็เป็นหลักล้านบาท
ส่วนค่าเช่าที่ โรงพยาบาลบ้านแพ้ว จ่ายให้กับ โรงพยาบาลพร้อมมิตร มีการระบุข้อมูลว่า อยู่ที่ตัวเลข 2.7 ล้านบาท/เดือน