เปิดขั้นตอน ป.ป.ช.ไฉนไม่สอบ ‘เมียปรีชา’เงินฝากพุ่ง 58 ล.แต่ไร้ธุรกิจ-รายได้
เปิดขั้นตอนการแสวงหาข้อเท็จจริง ป.ป.ช. ปมสอบบัญชีทรัพย์สินเชิงลึก ‘พล.อ.ปรีชา’ ก่อนมติเอกฉันท์ตีตก จนท.ใช้เวลา 2 วันตรวจสอบความมีอยู่จริงของทรัพย์สิน เจอเงินฝาก ‘ผ่องพรรณ’ เพิ่มขึ้น 12 ล้าน รวม 58 ล้าน เงินไหลเวียนเข้าออกหลายสิบล้าน ทั้งที่ไม่ได้แจ้งประกอบธุรกิจ-มีรายได้ แต่กลับไม่ยอมสอบร่ำรวยผิดปกติ
ภายหลังใช้เวลานานกว่า 8 เดือน กว่าที่กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะยอมเปิดเผยผลการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินเชิงลึก พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเอกฉันท์ว่า พล.อ.ปรีชา ไม่จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ
โดยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ใช้สิทธิ์ตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 ให้เปิดเผยตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2559 กระทั่งอีก 2 เดือนต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช. ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล จนต้องอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยข้อมูลข่าวสารฯ ของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ท้ายสุดเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2559 คณะกรรมการวินิจฉัยข้อมูลข่าวสารฯ ได้วินิจฉัยให้สำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยผลการไต่สวนข้อเท็จจริงดังกล่าวให้แก่สำนักข่าวอิศรา
(อ่านประกอบ : เพื่อความโปร่งใส! กก.ข้อมูลข่าวสารฯสั่ง ป.ป.ช.เปิดข้อมูลตีตกคดีทรัพย์สิน ‘ปรีชา’)
จากการตรวจสอบผลการไต่สวนข้อเท็จจริงเบื้องต้น พบว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเอกฉันท์ว่า พล.อ.ปรีชา ไม่จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ จากกรณีการกรอกข้อมูลเงินฝากของนางผ่องพรรณ จันทร์โอชา ภรรยา ไม่ครบ และมีการใส่บัญชีเงินฝากของกองทัพภาคที่ 3 แจ้งในบัญชีทรัพย์สินตัวเองด้วยนั้น
เนื่องจาก พล.อ.ปรีชา อ้างว่า ในการกรอกข้อมูลเงินฝากของภรรยาอาจหลงลืมการกรอกข้อความในส่วนของบัญชีเงินฝาก ซึ่งในส่วนนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่า อาจเป็นไปได้ที่หลงลืม และการแสดงบัญชีเงินฝากของกองทัพภาคที่ 3 เพราะเป็นบัญชีที่ขณะนั้นมีอำนาจสั่งจ่ายเพื่อใช้เป็นกิจการของราชการ แต่ไม่ใช่บัญชีเงินฝากตัวเอง จึงถือว่าได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินถูกต้องแล้ว
(อ่านประกอบ : อ้างลืมกรอกเงินฝาก‘ภรรยา’! เปิดผลสอบ ป.ป.ช.ก่อนตีตกปมทรัพย์สิน‘พล.อ.ปรีชา’)
แม้ว่าข้อเท็จจริงเรื่องนี้จะจบลงไปแล้ว แต่ยังมีอีกอย่างน้อย 1 ประเด็นสำคัญที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่ยอมดำเนินการตรวจสอบต่อเนื่องนั่นคือ การที่นางผ่องพรรณ แจ้งในบัญชีทรัพย์สินเมื่อปี 2557 และแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเมื่อปี 2556 ระบุว่า ไม่มีรายได้ และไม่ได้ประกอบธุรกิจแต่อย่างใด
แต่จากการตรวจสอบในบัญชีทรัพย์สิน พบว่า ในบัญชีเงินฝากสหกรณ์ออมทรัพย์กองทัพภาคที่ 3 ของนางผ่องพรรณ จำนวน 5 บัญชี รวมวงเงิน 46,995,296 บาท
โดยในช่วงปี 2557 พบว่า มีเงินไหลเวียนเข้าออกใน 5 บัญชีดังกล่าว จำนวนหลายสิบล้านบาท
(อ่านประกอบ : เงินไหลเวียนบัญชี'เมียปรีชา'ปมที่ยังไม่เคลียร์?หลังป.ป.ช.ยันยื่นทรัพย์สินถูกต้อง)
แต่ในการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินเชิงลึก พล.อ.ปรีชา ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. กลับไม่ดำเนินการตรวจสอบประเด็นนี้แต่อย่างใด ?
เพื่อขยายความให้ชัดขึ้น สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เปิดเผยขั้นตอนการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีนี้ มาเปิดเผยให้เห็นกันดังนี้
เมื่อวันที่ 7 และวันที่ 9 ต.ค. 2557 มีสื่ออย่างน้อย 2 สำนัก รายงานข่าวกรณี พล.อ.ปรีชา ยื่นบัญชีทรัพย์สินในช่วงดำรงตำแหน่งสมาชิก สนช. (เข้ารับตำแหน่งวันที่ 28 ส.ค. 2557) ระบุว่า ในการยื่นบัญชีเงินฝากของนางผ่องพรรณ ได้กรอกข้อมูลไม่ครบถ้วน โดยมีการแจ้งยอดเงินฝากทั้งหมด 42,051,468 บาท (เฉพาะของ พล.อ.ปรีชา) แต่มีการแจ้งเอกสารประกอบเป็นบัญชีเงินฝากรวม 10 บัญชี (มีของนางผ่องพรรณด้วยประมาณ 46 ล้านบาท) นอกจากนี้ยังแจ้งบัญชีเงินฝากของกองทัพซึ่ง พล.อ.ปรีชา เป็นผู้มีอำนาจลงนามร่วมมาด้วย
เบื้องต้นในชั้นแสวงหาข้อเท็จจริง เจ้าพนักงานตรวจสอบทรัพย์สินชำนาญการ สำนักตรวจสอบทรัพย์สินภาคการเมือง ใช้เวลาตรวจสอบความมีอยู่จริงของทรัพย์สินและหนี้สินตามที่ พล.อ.ปรีชา แสดงในบัญชีทรัพย์สิน ประมาณ 960 นาที (31 ชั่วโมง หรือประมาณ 2 วัน) พบว่า พล.อ.ปรีชา คำนวณตัวเลขในบัญชีเงินฝากตัวเองคลาดเคลื่อน เดิมระบุไว้ 42,051,468 แต่ที่จริงคือ 42,423,578 บาท ส่วนนางผ่องพรรณคำนวณตัวเลขในบัญชีเงินฝากตัวเองคลาดเคลื่อน เดิมระบุไว้ประมาณ 46 ล้านบาท แต่ที่จริงคือ 58,295,297 บาท นอกจากนี้ยังแจ้งพระเครื่องไม่ตรง เดิมระบุไว้ 5 องค์ เป็นเงิน 5 ล้านบาท แต่ที่จริงคือมี 6 องค์
เท่ากับว่า พล.อ.ปรีชา จะมีเงินฝากเพิ่มขึ้นประมาณ 4 แสนบาท มีพระเครื่องเพิ่มมา 1 องค์ ส่วนนางผ่องพรรณมีเงินฝากเพิ่มขึ้นประมาณ 12 ล้านบาท รวมทั้งสองรายมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 139,559,012 บาท
ทั้งนี้คณะทำงานฯ ได้สรุปผลการตรวจสอบแล้ว พบว่า เอกสารถูกต้องครบถ้วน เห็นควรให้เก็บข้อมูลไว้พิจารณาต่อไป ไม่จำเป็นต้องให้ผู้ยื่นบัญชีทรัพย์สินมาชี้แจง (ดูเอกสารประกอบ)
กระทั่งส่งเรื่องดังกล่าวส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ขณะเดียวกัน พล.อ.ปรีชา ได้มีหนังสือเมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2557 ชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าวประกอบด้วย โดยอ้างว่า หลงลืมกรอกตัวเลขไม่ครบ ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีความเห็นไปในทำนองเดียวกันว่า อาจจะหลงลืม จึงไม่จงใจปกปิดบัญชีทรัพย์สิน กระทั่งได้ลงมติเอกฉันท์ว่า พล.อ.ปรีชา ไม่จงใจปกปิดบัญชีทรัพย์สินดังกล่าว
แต่เงื่อนปมที่น่าสนใจคือ ในขั้นตอนแสวงหาข้อเท็จจริง จนถึงในชั้นการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. กลับไม่เอะใจหรือสงสัยในประเด็นที่นางผ่องพรรณ ที่แจ้งไม่เคยประกอบธุรกิจ และไม่มีรายได้ กลับมีเงินหมุนเวียนในบัญชี 5 บัญชี ซึ่งวงเงินล่าสุดที่ถูกค้นพบคือประมาณ 58 ล้านบาท มีที่มาของเงินจากแหล่งใด และเงินเหล่านั้นได้มาอย่างไร ในเมื่อนางผ่องพรรณไม่ได้ประกอบธุรกิจ และแจ้งไม่มีรายได้
โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ระดับสูงใน ป.ป.ช. ที่ดูแลการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน เคยยืนยันสำนักข่าวอิศราถึงกรณีนี้ว่า ในขั้นตอนการแสวงหาข้อเท็จจริงนั้น เมื่อตรวจสอบความมีอยู่จริงของทรัพย์สินที่กรอกข้อมูลไว้ เทียบกับเอกสารประกอบแล้ว หากพบว่าทรัพย์สินดังกล่าวมีอยู่จริง ก็ไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลอื่น ๆ ต่อ นอกเหนือจากมีประเด็นเพิ่มเติมที่มีการร้องเรียนเข้ามา เช่น หลักฐานถึงการปกปิดทรัพย์สิน หรือการร่ำรวยผิดปกติ
ขณะเดียวกัน นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวสั้น ๆ กรณีปรากฏข้อเท็จจริงว่าเงินฝากของนางผ่องพรรณ มีเงินหมุนเวียนหลายสิบล้านบาท ทั้งที่ไม่ได้ประกอบธุรกิจ หรือมีรายได้ใด ๆ ป.ป.ช. จะเข้าไปตรวจสอบพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติหรือไม่ ว่า “เรื่องนี้จบไปแล้ว ป.ป.ช. ตรวจสอบแล้วไม่พบอะไรผิดปกติ และตอนนี้ก็ยังไม่มีใครตั้งข้อสงสัยใด ๆ เพิ่มเติม”
(อ่านประกอบ : ป.ป.ช.ตั้งอนุฯสอบ'เก่ง-การุณ'ปมซุกทรัพย์สิน-ไร้ข้อสงสัยเงินฝาก'ปรีชา')
นี่จึงเป็นอีกหนึ่งข้อสงสัยที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ได้ขุดคุ้ยหาข้อมูลมาตอบต่อสาธารณชนให้กระจ่างชัด เพราะการทำงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในด้านการตรวจสอบทรัพย์สินที่ผ่านมา ก็มีการชี้มูลความผิดข้าราชการ-นักการเมืองในฐานความผิดร่ำรวยผิดปกติไปแล้วจำนวนหลายราย !
อ่านประกอบ :
วัดความโปร่งใส? เปิดแฟ้ม'อิศรา' ขอข้อมูล ป.ป.ช.แต่ถูกปฏิเสธ ก่อนกรณี 'ปรีชา'
เงินไหลเวียนบัญชี'เมียปรีชา'ปมที่ยังไม่เคลียร์?หลังป.ป.ช.ยันยื่นทรัพย์สินถูกต้อง
ป.ป.ช.ยัน“ปรีชา”ยื่นทรัพย์สินถูกต้อง! ปมใส่เงินฝาก“เมีย-กองทัพภาค 3
“ปรีชา”ปัดตอบปมเงินฝาก“ภริยา” ถามพ่อให้มรดกผิดหรือ-นายกฯรวยกว่าอีก
ดูชัดๆ 2 ปมปริศนา"เงินฝาก-สถานะบัญชี" ปรีชา-เมีย ยิ่งขุดยิ่งพิลึก?
ดูชัด ๆ ยอดเงินไหลเข้า-ออกบัญชี “ปรีชา-เมีย” ถอนสูงสุด 8.5 ล.
โชว์เอกสารเงินฝากเพิ่มปริศนา 46 ล.“ปรีชา” ของ“เมีย”จริง -รวยพุ่ง 126 ล.
ป.ป.ช.ยังไม่สอบเชิงลึก“ปรีชา”ปมยื่นทรัพย์สินฯ-สั่งทบทวนชงถอด 39 ส.ว.
พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา: จะเอาอะไรกับผมนักหนา
“ปรีชา”แจงปมเงิน 47 ล.ของ“เมีย”-พ่อขายที่ดินแบ่งให้ 80 ล. "ประยุทธ์"ได้ด้วย
เจาะบัญชีปริศนา"ปรีชา จันทร์โอชา"เงินส่วนต่าง 47ล้าน ยังไม่เคลียร์!
ดูชัดๆข้อมูลเงินฝาก "พล.อ.ปรีชา" กรอกตัวเลข42 ล.แต่แจ้งยอดบัญชี 89 ล.?
“ปรีชา”แจงที่มา"พระเบญจภาคี-ที่ดิน"มรดกพ่อ - สะสมรถยนต์ตั้งแต่ยศ พ.ต.
"น้องประยุทธ์-เมีย"ทรัพย์สินเพิ่มหลังรปห.13 ล.รวมพระเครื่องเบญจภาคี 5 ล.
หมายเหตุ : ภาพประกอบ พล.อ.ปรีชา จาก thaipost, ภาพนางผ่องพรรณจาก thaipbs