สคบ. ชี้แจงกรณีชาวนาขายข้าวออนไลน์
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
สำนักนายกรัฐมนตรี
ข่าวที่ 58/2559
วันที่ 31 ตุลาคม 2559
สคบ. ชี้แจงกรณีชาวนาขายข้าวออนไลน์
จากกรณีที่มีผู้โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว เตือนชาวนาขายข้าวออนไลน์ผิด พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมแนะนำให้ชาวนาไปเสียเงินจดทะเบียนกับ สคบ. แต่ละจังหวัด จะได้ถูกต้องตามกฎหมาย นั้น
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ขอชี้แจงว่า คำนิยามตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 บัญญัติว่า การทำตลาดขายสินค้าหรือบริการในลักษณะของการสื่อสารข้อมูลเพื่อเสนอขายสินค้าหรือบริการโดยตรงต่อผู้บริโภค ซึ่งอยู่ห่างโดยระยะทางและมุ่งหวังให้ผู้บริโภคแต่ละรายตอบกลับเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงนั้น
ความจริงการขายในลักษณะนี้ หรือที่เรียกสั้นๆ ว่าการขายแบบออนไลน์ ผู้ขายต้องให้ข้อมูลผู้บริโภคหรือคนที่เห็นสื่อนั้นๆ สามารถตัดสินใจสั่งซื้อได้เลย โดยที่ไม่ต้องไปหาข้อมูลอื่นๆ อีก เพื่อประกอบการตัดสินใจในการที่จะซื้อหรือไม่ซื้อ ถ้าหากผู้ขายให้ข้อมูลผู้บริโภคไม่ครบถ้วนและทำให้ไม่สามารถตัดสินใจซื้อได้ หรือทั้งสองฝ่ายยังคงต้องไปตกลงกันเกี่ยวกับเงื่อนไขการซื้อขาย ถือว่าสัญญายังไม่เกิดบนสื่อ สัญญาไปเกิดขึ้นภายหลัง แบบนี้ไม่ถือว่าเป็นการขายที่เข้าข่ายตลาดแบบตรงตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรงและการที่ชาวนาโพสต์ขายข้าว เห็นว่าไม่มีลักษณะและเจตนาที่จะประกอบธุรกิจอย่างจริงจัง เป็นเพียงแค่การหาช่องทางระบายข้าวแบบเป็นครั้งคราว
สำหรับการโพสต์ข้อความให้ชาวนาไปเสียเงินจดทะเบียนตลาดแบบตรงกับ สคบ. ในแต่ละจังหวัดนั้น ขอชี้แจงว่า ถ้าเป็นกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจที่ต้องการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงที่เข้าข่ายตามคำจำกัดความของพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 แล้ว การยื่นขอจดทะเบียนประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง จะต้องไปยื่นคำขอจดทะเบียน ณ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค อาคารรัฐประศาสนภักดี ชั้น 5 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ ถนนแจ้งวัฒนะ หลักสี่ กรุงเทพฯ เท่านั้น เพราะกฎหมายยังไม่ให้อำนาจส่วนอื่นใดรับจดทะเบียนการประกอบธุรกิจขายตรงหรือการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง และที่สำคัญการยื่นขอจดทะเบียนประกอบธุรกิจขายตรงหรือการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น