ศาลแพ่งชี้โอนหุ้น “เสี่ยชูวงษ์” มีพิรุธ สั่งอายัดพร้อมเงินในบัญชีพริตตี้สาว “แก๊งบรรยิน”
ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ มีคำสั่งให้คุ้มครองชั่วคราว คดีภรรยา และบุตรชาย เสี่ยชูวงษ์ แซ่ตั๊ง ขอให้อายัดหุ้น เงินในบัญชีของ กัญฐณา ศิวาธนากุล “พริตตี้สาว” จนกว่าคดีจะสิ้นสุด ชี้ การโอนหุ้นมีพิรุธหลายอย่าง
วานนี้ (28 ต.ค.) ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง 63 ศาลนัดฟังคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ในคดีหมายเลขดำ พ.1280/2559 ระหว่าง น.ส.ศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง ภรรยา นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง และ นายกันต์ แซ่ตั๊ง อายุ 23 ปี บุตรชายของ นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง โจทก์ที่ 1 - 2 ในฐานะผู้จัดการมรดก นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ที่เสียชีวิต กับ น.ส.กัญฐณา ศิวาธนากุล หรือศิวาธนพล จำเลยที่ 1 กับพวก รวม 5 คน
คดีสืบเนื่องจาก นางศิริรัตน์ และ นายกันต์ ในฐานะผู้จัดการมรดกของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊งได้ยื่นฟัอง น.ส.กัญฐณา ศิวาธนากุล , พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ , บริษัทหลักทรัพย์และพนักงานบริษัทอีก 2 คน เป็นจำเลยที่ 1-5 ต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เรื่องขอเรียกคืนทรัพย์สินที่เป็นหุ้นของนายชูวงษ์ จำนวน 9.5 ล้านหุ้น มูลค่า 228 ล้านบาท ซึ่งถูกโอนโดยมิชอบ พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี คืนกับโจทก์ทั้งสอง ที่เป็นภรรยาและบุตรชายของนายชูวงษ์ในฐานะผู้จัดการมรดกโดยได้มีการยื่นฟ้องคดีเมื่อหลายเดือนก่อน ซึ่งต่อมาโจทก์ทั้งสองก็ได้ยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวต่อศาลด้วยเพื่อขอให้อายัดทรัพย์สิน 4 รายการ ประกอบด้วย หุ้นที่เหลือจำนวน 5.7 ล้านหุ้น , เงินในบัญชี , หุ้น WN ที่น.ส.กัญฐณา นำเงินจากการขายหุ้นของนายชูวงษ์ไปซื้อมา และบ้านพร้อมที่ดิน ย่านนนทบุรี ที่มาจากเงินหุ้นดังกล่าว โดยในวันนี้ได้มีการนัดฟังคำสั่ง ทนายโจทก์ทั้งสองมาศาล เช่นเดียวกับทนายจำเลยที่ 4 ส่วนจำเลยที่ 1 - 3 และจำเลยที่ 5 ทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มา
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า หลังจากที่ นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง ถึงแก่กรรมแล้ว โจทก์ที่ 2 และ ครอบครัว ได้ตรวจสอบทรัพย์สินของนายชูวงษ์ พบว่า ก่อน นายชูวงษ์ จะถึงแก่กรรม มีการโอนหุ้นในพอร์ตบัญชีที่เปิดไว้กับจำเลยที่ 3 และออกให้กับจำเลยที่ 1 โดยมีข้อพิรุธหลายอย่าง หลังจากที่จำเลยที่ 1 รับโอนมาแล้ว มีการโอนขายหุ้นหลักทรัพย์ EA อีกหลายครั้ง หลังทรัพย์บางส่วนมีการขายไปแล้วเป็นจำนวน 3,741,000 หุ้น คงเหลือหลักทรัพย์ EA ในบัญชีของจำเลยที่ 1 ณ วันที่ 31 ส.ค. 2558 จำนวน 5,759,000 หุ้น และ จำเลยที่ 1 ยังนำเงินที่ได้จากการขายหุ้นจำนวนดังกล่าวไปซื้อหุ้นหลักทรัพย์ WN จำนวน 10,000,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 1 บาท เป็นเงิน 10,000,000 บาท คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีคำสั่งอายึดและอายัดทรัพย์สินทั้ง 4 รายการดังกล่าว ซึ่งอยู่ในพอร์ตหลักทรัพย์บัญชีของจำเลยที่ 1
นอกจากนี้ ยังได้ความว่า จำเลยที่ 1 ได้นำเงินบางส่วนที่ได้จากการขายหลักทรัพย์ไปซื้อที่ดินพร้อมบ้าน ที่ ต.ขุนกลอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ในราคา 10,000,000 บาท ด้วย กรณีฟ้องโจทก์มีมูลและมีเหตุเพียงพอที่จะนำวิธีคุ้มครองชั่วคราวมาใช้ก่อนคำพิพากษา
จึงมีคำสั่งให้อายัดหุ้นหลักทรัพย์ EA จำนวน 5,759,000 หุ้น ที่อยู่ในบัญชีหลักทรัพย์ของจำเลยที่ 1, หุ้นหลักทรัพย์ WN จำนวน 10,000,000 หุ้น ซึ่งอยู่ในพอร์ตบัญชีหลักทรัพย์ของจำนวนที่ 1 พร้อมทั้งอายัดเงินในบัญชีหลักทรัพย์ เลขที่ 909-0-45386-2 ของจำเลยที่ 1 จำนวน 55,980,275.87 บาท พร้อมดอกเบี้ยทั้งหมดที่อยู่ในความครอบครองของจำเลยที่ 1 และ อายัดบัญชีกระแสรายวันธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า 2 บัญชี เลขที่ 909-0-45386-2 ของจำเลยที่ 1 โดยมีหนังสือถึงธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า 2. ห้ามจำเลยที่ 1 ทำพินัยกรรมจำหน่าย จ่ายโอนหรือ สร้างภาระผูกพันใด ๆ ในที่ดินโฉนด ที่ ต.ขุนกลอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี พร้อมสิ่งปลูกสร้างด้วย
ด้านนายเอนก คำชุ่ม ทนายความของครอบครัวชูวงษ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้อายัดหุ้นของนายชูวงษ์ ที่อยู่ในบัญชี ของ น.ส.กัญฐณา ศิวาธนากุล รวมทั้งเงินในบัญชีของ น.ส.กัญฐณา กับห้ามโอนย้ายบ้านและที่ดิน ย่านนนทบุรี ของน.ส.กัญฐณา ที่นำเงินจากการขายหุ้นไปซื้อมา โดยคำสั่งของศาลดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.นี้เป็นต้นไป จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ทั้งนี้ตามกฎหมายฝ่ายจำเลย ยังใช้สิทธิ์อุทธรณ์คำสั่งได้ อย่างไรก็ตามคดีที่ฟ้องนี้เป็นส่วนคดีแพ่งที่เราใช้สิทธิ์ตามกฎหมายเรียกคืนทรัพย์สินที่มีการโอนไปโดยมิชอบ ส่วนคดีปลอมเอกสารสิทธิ์การโอนหุ้นที่เป็นคดีอาญา ยังต้องรอ ผบ.ตร.สรุปความเห็นส่งให้อัยการสูงสุด หลังจากที่อัยการกรุงเทพใต้มีคำสั่งไม่ฟ้องคดีโอนหุ้นในชั้นแรก
ขอบคุณข่าวจาก