จนท.ได้หลักฐาน "วงจรปิด" รู้ตัวคนร้ายยิงครูสตรี กศน.ดับ 1 เจ็บ 1
เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ได้หลักฐานจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่บันทึกภาพคนร้ายใช้อาวุธปืนประกบยิงครู กศน.เสียชีวิต 1 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย ในพื้นที่ อ.มายอ จ.ปัตตานี เมื่อช่วงสายวันศุกร์ที่ 28 ต.ค.59
พฤติการณ์ของคนร้ายที่ก่อเหตุยิงครู กศน. หรือครูสังกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ประจำ อ.มายอ จ.ปัตตานี เมื่อเวลาประมาณ 10.40 น.วันศุกร์ที่ 28 ต.ค.นั้น ตรวจสอบจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดพบว่า คนร้ายมีด้วยกัน 2 คน มีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟไอ 125 สีดำเป็นพาหนะ คนขับสวมเสื้อลายสก๊อตสีน้ำตาล-ดำ คนซ้อนท้ายสวมเสื้อลายสก๊อตสีขาว-ดำ เมื่อ ครูสุณิสา บุญเย็น และ ครูชฎพร ศรีเส้ง ขับรถออกจากสำนักงาน กศน.มายอ คนร้ายได้เร่งเครื่องรถจักรยานยนต์ตามประกบ และใช้อาวุธปืนจ่อยิงหลายนัด จนครูสุณิสา เสียชีวิต และครูชฎพร ได้รับบาดเจ็บสาหัส
เจ้าหน้าที่วิเคราะห์ภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด สันนิษฐานว่า คนร้ายที่ขี่รถจักรยานยนต์ คือ นายซอบือรี เจ๊ะหะ เป็นแนวร่วมก่อความไม่สงบ มีหมายจับในคดีความมั่นคง 5 หมาย ภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ ต.ลุโบะยิไร อ.มายอ จ.ปัตตานี
ส่วนอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ เป็นปืนพกสั้นขนาด .45 ขณะที่รถจักรยานยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะ หมายเลขทะเบียน 1กฆ 3759 ปัตตานี เป็นรถที่โจรกรรมมาจากชาวบ้านในอำเภอเมืองปัตตานี เมื่อวันที่ 23 ก.ค.59 โดยหลังก่อเหตุคนร้ายได้ทิ้งใบปลิวไว้ 1 ใบ เขียนข้อความเป็นภาษาไทยทำนองว่าแก้แค้นให้คนมลายูที่ถูกฆ่า
ครูถูกยิงขณะไปช่วยชาวบ้านย้อมผ้าสีดำ
สำหรับ ครูสุณิสา ที่เสียชีวิต อายุ 49 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.คอกกระบือ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เป็นครูอัตราจ้างของ กศน.มายอ ส่วน นางชฎพร ศรีเส้ง อายุ 52 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.ดอน อ.ปะนาเระ สถานะเป็นลูกจ้างของ กศน.มายอ แต่ทำหน้าที่ครูเช่นกัน โดยหลังเกิดเหตุ ครูสุณิสา ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลมายอ ขณะที่ ครูชฎพร อาการสาหัส ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี
มีรายงานว่า ครูสุณิสา และครูชฎพร เดินทางออกจากสำนักงาน กศน.มายอ เพื่อไปร่วมกิจกรรมย้อมผ้าสีดำให้กับประชาชนในพื้นที่ เพื่อร่วมถวายอาลัยแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช แต่ถูกยิงเสียชีวิตระหว่างเดินทาง
กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าประณามผู้ก่อเหตุ
พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า ทุกครั้งที่เกิดเหตุรุนแรงในพื้นที่ ภาครัฐได้ออกมาประณาม ทำให้ประชาชนจำนวนมากออกมารวมพลังกันต่อต้านความรุนแรง แต่กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุกลับไม่สนใจ นอกจากนั้นยังมีกลุ่มเอ็นจีโอบางกลุ่มออกมาเคลื่อนไหวเข้าข้างคนร้าย ขอให้ปล่อยตัวบ้าง อ้างว่าเจ้าหน้าที่ซ้อมทรมานบ้าง จับแพะบ้าง จึงขอให้กลุ่มคนเหล่านี้หยุดการกระทำดังกล่าวด้วย
"อักษรา" เผยขอ "ผู้เห็นต่างฯ" งดก่อเหตุ 1 ปี
ตลอดสัปดาห์นี้ คณะทำงานเทคนิคร่วมฯ ในคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้พบปะพูดคุยกับผู้เห็นต่างจากรัฐ ภายใต้ชื่อกลุ่ม มารา ปาตานี ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เพื่อตกลงเรื่องการกำหนดพื้นที่ปลอดภัย หรือ เซฟตี้ โซน แต่ผลการพูดคุยยังไม่สามารถสรุปได้
เป็นที่น่าสังเกตว่าตั้งแต่ต้นสัปดาห์มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นในพื้นที่หลายเหตุการณ์ ที่สำคัญคือ การลอบวางระเบิดในตลาดโต้รุ่งกลางเมืองปัตตานี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บกว่า 20 คน ในจำนวนนั้น 6 คนเป็นเด็กนักเรียน และบางคนต้องถูกตัดขา
กระทั่งล่าสุดวันศุกร์ปลายสัปดาห์ก็ยังมีเหตุยิงครู กศน.เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บอีกด้วย
พล.อ.อักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขฯ กล่าวเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน โดยยอมรับว่าได้ไปพบปะพูดคุยกับกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ ที่ประเทศมาเลเซียมาจริง และได้หารือในประเด็นพื้นที่ปลอดภัย โดยได้บอกกลุ่มผู้เห็นต่างฯว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต พสกนิกรชาวไทยเศร้าโศกกันทั้งประเทศ และพระองค์ก็ทรงปกครองด้วยทศพิธราชธรรม ดูแลทุกศาสนาเหมือนกัน ทรงอยากให้ทุกคนรักกัน จึงได้บอกให้ผู้เห็นต่างฯต้องนิ่งๆ โดยมุ่งหวังไม่ให้ปีนี้มีเหตุการณ์รุนแรง ซึ่งทางกลุ่มผู้เห็นต่างฯก็แสดงความอาลัย และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
พล.อ.อักษรา ยืนยันด้วยว่า กระบวนการพูดคุยมีความคืบหน้า ไม่ได้เสียท่าใคร ขณะนี้คุยจบแล้วเรื่องพื้นที่ปลอดภัย ต่อไปจะเป็นการลงไปกำหนดพื้นที่ โดยดูว่าจะเป็นระดับหมู่บ้าน เมือง หรืออำเภอ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 ภาพคนร้ายก่อเหตุยิงครูที่กล้องโทรทัศน์วงจรปิดบันทึกไว้ได้
2 ครูสุณิสา บุญเย็น ขณะร่วมกิจกรรมย้อมผ้าสีดำก่อนหน้านี้
ขอบคุณ : ภาพจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่