ผบ.ทบ.ล่องใต้ครั้งแรก ค้างแรมปลุกขวัญกำลังพล ใต้ระอุ! บึ้ม-ยิง-เด็กโดนอีก
พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท เดินทางลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นครั้งแรกตั้งแต่รับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) แถมสร้างเซอร์ไพรส์นอนค้างแรมในพื้นที่ และออกเยี่ยมด่านตรวจในเวลากลางคืน หวังสร้างขวัญกำลังใจ ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่เริ่มป่วน ทั้งระเบิด กราดยิง
พล.อ.เฉลิมชัย ลงพื้นที่ชายแดนใต้เมื่อวันศุกร์ที่ 21 ต.ค.59 โดยไปที่ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เพื่อรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ภาพรวมและแนวโน้มสถานการณ์จากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ตลอดจนหน่วยปฏิบัติอื่นๆ ในพื้นที่
ขณะเดียวกัน ผบ.ทบ.ได้มอบนโยบายและแนวทางปฏิบัติงาน พร้อมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการบูรณาการของกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ที่สำนักข่าวกรอง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า
ภายหลังการประชุม พล.อ.เฉลิมชัย แถลงว่า สิ่งที่ต้องปรับเปลี่ยนคือเรื่องการถอนกำลังพลจากกองทัพภาคที่ 1, 2 และ 3 ออกจากพื้นที่ เพราะปัจจุบันใช้กำลังพลของกองทัพภาคที่ 4 อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) และกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ทดแทน จึงอยากให้มีการเร่งรัดจัดทำโครงการพัฒนาขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่เหล่านี้ เพื่อทดแทนกองกำลังที่ถอนออกไป
อีก 2 เรื่องที่สำคัญ คือ การบูรณาการด้านการข่าว และด้านกิจการพลเรือนที่จะสร้างความเข้าใจต่อพี่น้องประชาชน โดยบทบาทของกองทัพบกจะทำงานควบคู่กับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมกันนี้จะมีคณะขับเคลื่อนนโยบายการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ส่วนหน้า หรือ คปต.ส่วนหน้า ที่จะช่วยประสานงานและกำกับดูแลเพื่อสรุปรายงานการแก้ไขปัญหาให้คณะรัฐมนตรีได้รับทราบโดยเร็ว พร้อมให้คำแนะนำเรื่องต่างๆ เนื่องจากส่วนใหญ่ผู้ที่ดำรงตำแหน่งใน คปต.ส่วนหน้า (หมายถึง ครม.ส่วนหน้า หรือ คณะผู้แทนพิเศษของรัฐบาล) เป็นอดีตแม่ทัพและผู้บังคับบัญชาของกองทัพบก โดยมีการแบ่งกลุ่มงานในการปฏิบัติหน้าที่อย่างชัดเจน ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นผลดีต่อประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ฮือฮาค้างแรมในพื้นที่-ออกตรวจเยี่ยมกำลังพล
การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของ พล.อ.เฉลิมชัย ตั้งแต่รับตำแหน่ง ผบ.ทบ. และยังได้ทำเซอร์ไพรส์นอนค้างแรมในพื้นที่โดยไม่แจ้งล่วงหน้า โดยมีทหารติดตามเพียง 5 นาย อีกทั้งในตอนกลางคืนยังออกตรวจเยี่ยมด่านตรวจถาวรหลายแห่งในพื้นที่ จ.ปัตตานี โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้าเช่นกัน ซึ่งเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับกำลังพล
มีเสียงชื่นชมจากประชาชนในพื้นที่ที่ทราบข่าวการค้างแรมของ ผบ.ทบ. โดยบอกว่า พล.อ.เฉลิมชัย น่าจะเป็น ผบ.ทบ.คนแรก หรืออย่างน้อยก็เป็นคนแรกๆ ในรอบหลายปีที่ค้างแรมในพื้นที่ และออกตรวจเยี่ยมกำลังพลในเวลากลางคืน
สำหรับ พล.อ.เฉลิมชัย ถือเป็น ผบ.ทบ.ที่ได้รับการยอมรับเรื่องความรู้ความสามารถ ท่าที และการวางตัว รวมถึงการให้สัมภาษณ์ โดยเมื่อครั้งยังไม่ได้รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ พล.อ.เฉลิมชัย ซึ่งเป็นนายทหารที่เติบโตมาจากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (รบพิเศษ) ได้เคยเคยตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาว่า
“ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ในปัจจุบันหากดูตามสถิติถือว่าสถานการณ์ดีขึ้น แต่ก็ยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่นิยมใช้ความรุนแรง ซึ่งผมเห็นใจผู้ปฏิบัติงาน แต่ก็ต้องพยายามต่อไปเพื่อให้เหตุการณ์ยุติให้ได้ แม้ว่าผมจะเป็นทหารรบพิเศษ แต่ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าความเป็นทหารรบพิเศษจะทำให้สถานการณ์ในพื้นที่ดีขึ้น แต่ผมมีความตั้งใจที่จะทุ่มเททำงานให้กองทัพบกในช่วงระยะเวลาสุดท้ายของการรับราชการให้ดีที่สุด และอยากให้สื่อมวลชนเป็นกำลังใจให้ด้วย”
ยิงพรานล่ากระรอกดับ – เด็กโดนกระสุนเจ็บ
สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนใต้ช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน ต.ค.มีเหตุรุนแรงเกิดถี่ขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา โดยเมื่อวันเสาร์ที่ 22 ต.ค. คนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นายชาน ธันวา อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/1 หมู่ 1 ต.ตาแกะ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี จนเสียชีวิต และกระสุนยังไปถูก ด.ช.นัฐวัตน์ ธันวา วัยเพียง 6 ขวบ ซึ่งเป็นหลานชายได้รับบาดเจ็บด้วย เหตุเกิดบนถนนในหมู่บ้าน ต.สะดาวา อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ขณะที่ นายชาน กำลังขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างกลับจากยิงกระรอกในป่า
บุกปล้นปืนจากบ้านผู้ใหญ่บ้านในยะหา
วันศุกร์ที่ 21 ต.ค. คนร้าย 5 คน แต่งกายด้วยชุดสีดำคล้ายทหารพรานพร้อมอาวุธครบมือ บุกเข้าไปที่บ้านเลขที่ 49/1 บ้านตาเปาะ หมู่ 2 ต.ละแอ อ.ยะหา จ.ยะลา ซึ่งเป็นบ้านของ นายสอเฮาะ มะหะ อายุ 54 ปี ผู้ใหญ่บ้านตาเปาะ แล้วอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ทหารพราน ก่อนจะใช่ปืนจี้บังคับลูกสาวของนายสอเฮาะ ให้หยิบปืนอาก้าของทางราชการส่งให้ แล้วหลบหนีไป โดยขณะเกิดเหตุ นายสอเฮาะ กำลังประกอบพิธีละหมาดอยู่ในมัสยิด ไม่ได้อยู่ในบ้าน เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่ากลุ่มคนร้ายไม่ผู้ก่อความไม่สงบ แต่อ้างว่าเป็นทหารพราน
กราดยิงบ้านชาวบ้าน-ป้าวัย 63 หวิดดับ
ค่ำวันเดียวกัน คนร้าย 4 คนมีรถจักยานยนต์ 2 คันเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงใส่บ้านเรือนประชาชนในหมู่ 6 บ้านห้วยปลิง ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา ทำให้ นางเลื่อนห้อง ทองเจริญ อายุ 63 ปี ถูกกระสุนปืนบริเวณข้อเท้าซ้าย ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดขณะชาวบ้าน 4 คนกำลังล้อมวงรับประทานอาหารและพูดคุยกันอยู่ที่หน้าขนำไม่มีเลขที่ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บกล่าว โดยหลังก่อเหตุคนร้ายได้ทิ้งใบปลิวอ้างว่าเป็นการตอบโต้เหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคง 4 คนในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ก่อเหตุกราดยิงเชื่อว่าทั้ง 4 คนที่ถูกวิสามัญฆาตกรรม เป็นผู้บริสุทธิ์
ดักบึ้มทหารพรานที่ศรีสาคร-เจ็บเล็กน้อย
วันพฤหัสบดีที่ 20 ต.ค. คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดชุดปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 4916 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 ขณะขับรถกระบะกลับจากตลาดศรีสาคร จ.นราธิวาส เพื่อไปซื้อน้ำดื่ม กำลังมุ่งหน้ากลับฐานปฏิบัติการ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.ศรีสาคร โดยมีกำลังพลอยู่บนรถ 3 นาย ระหว่างทางในพื้นที่บ้านกิแย หมู่ 4 ต.ซากอ คนร้ายใช้จุดชนวนระเบิดที่ประกอบใส่ถังแก๊ส จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่น รถกระบะของทหารได้รับความเสียหาย แต่เคราะห์ดีที่กำลังพลได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย นอกจากนั้นยังมีสมาชิกอาสาสมัครรักษาหมู่บ้าน หรือ อรบ. ซึ่งเป็นผู้หญิง ได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : ผบ.ทบ.ขณะเดินทางลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้