ยายวัย 89 กับเรื่องเล่าถึง "พระเศวต" ช้างเผือกคู่พระบารมีจากยะลา
หนึ่งใน "ช้างต้น" ซึ่งเป็นช้างเผือกในรัชกาลที่ 9 คือ พระเศวตสุรคชาธารฯ หรือ "พระเศวต" หรือ "คุณพระเศวตเล็ก" ซึ่งถือเป็นช้างเผือกคู่พระบารมี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ถูกพบที่ ต.กาลอ อ.รามัน จ.ยะลา
ผู้ที่พบพระเศวต คือ ครอบครัว "เว็ง" จาก อ.รามัน และได้ทูลเกล้าฯถวายในหลวงรัชกาลที่ 9 ก่อนที่พระองค์จะทรงประกอบพิธีสมโภชขึ้นระวาง ที่ จ.ยะลา เมื่อวันที่ 11 มี.ค.2511 ปัจจุบันสถานที่นั้นคือ "โรงพิธีช้างเผือก" เป็นสวนสาธารณะตั้งอยู่ในตัวเมืองยะลา
ครอบครัว "เว็ง" ยังคงอาศัยอยู่ที่บ้านทำนบ ต.กาลอ อ.รามัน ซึ่งเป็นหมู่บ้านเชิงเขากาลอ และ คุณยายมือเล๊าะ อายุ 89 ปี ภรรยาของ นายเจ๊ะงอ เว็ง ผู้พบพระเศวต ยังมีชีวิตอยู่
คุณยายมือเล๊าะ เล่าว่า เมื่อราวปี 2510-2511 สามีมีอาชีพทำสวน ได้พบลูกช้างพลาย 1 ตัว อายุราว 3-4 เดือน เดินหลงแม่อยู่ในป่าบนเทือกเขากาลอ ท่าทางอิดโรยมาก จึงได้ตาม นายเจ๊ะเต๊ะ เว็ง ผู้เป็นบิดาให้ช่วยกันนำลูกช้างกลับมาเลี้ยงดูที่บ้าน
เมื่ออาการดีขึ้น ลูกช้างดูสมบูรณ์แข็งแรง สังเกตดูผิวพรรณมีลักษณะผิดแผกไปจากลูกช้างทั่วไป คิดว่าคงไม่ธรรมดา จึงได้ปรึกษากำนันแล้วแจ้งทางจังหวัด กระทั่งทราบว่าลูกช้างน้อยเข้าลักษณะเป็นช้างเผือก จึงนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายในหลวง
“ตอนแรกได้นำช้างไปมอบให้ พ.ต.อ.(พิเศษ) ศิริ คชหิรัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาในขณะนั้นรับไปดำเนินการต่อ โดยทางจังหวัดได้นำไปเลี้ยงในโรงเรือนใกล้จวนผู้ว่าฯ เราก็ยังเดินทางไปดูลูกช้างน้อยเป็นระยะๆ พบว่าลูกช้างมีนิสัยขี้เล่น และคุ้นเคยกับชาวบ้านจำนวนมาก”
“วันที่ 11 มีนาคม 2511 เป็นวันที่ในหลวงทรงประกอบพิธีสมโภชและขึ้นระวางช้าง” คุณยายมือเล๊าะ เล่าย้อนความหลัง
ต่อมาได้มีการสร้างสนามบินขึ้นที่ ต.ท่าสาป อ.เมืองยะลา เพื่อเคลื่อนย้ายพระเศวตไปยังพระราชวังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปรากฏว่าในวันเดินทาง พระเศวตรมีท่าทีอิดออด ไม่ยินยอม สุดท้ายต้องให้พระสหายของคุณพระเศวต ซึ่งเป็นเด็กชายตัวเล็กๆ วัย 11 ขวบ พร้อมสุนัขเพศเมียอีกตัวหนึ่งที่เรียกกันว่า “คุณเบี้ยว” ร่วมเดินทางไปด้วย พระเศวตจึงยินยอมเดินทางไปหัวหิน
เด็กชายวัย 11 ขวบคนนั้น คือ ด.ช.ธนิต คุมภะสาโน เป็นลูกของพนักงานขับรถผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา คอยเล่นและดูแลพระเศวต รวมถึงป้อนอาหาร ส่วน “คุณเบี้ยว” เป็นสุนัขเพศเมีย มีอาการป่วยใกล้ตาย แต่เมื่อได้กินน้ำอาบพระเศวต อาการป่วยก็หายไป คงเหลือเพียงปากเบี้ยว และไม่ยอมไปไหน อยู่ใกล้ๆ พระเศวตตลอดเวลา ทั้งคู่จึงถือเป็นพระสหายของพระเศวต
ปัจจุบัน ด.ช.ธนิต เติบโตเป็นหนุ่มใหญ่ รับราชการเป็นหัวหน้าแผนกกิจการสังคมและสิ่งแวดล้อม การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต 3 ยะลา
คุณยายมือเล๊าะ เล่าให้ฟังอีกว่า วันเดินทางไปส่งคุณพระเศวต ได้มีโอกาสติดตามไปด้วย เมื่อไปถึงหัวหิน ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ ที่วังไกลกังวล
“ในหลวงได้ทรงปลดเข็มกลัด ภปร.บนพระภูษาพระราชทานให้ พร้อมกับตลับที่มีสัญลักษณ์ ภปร.เช่นกัน ด้านหลังตลับมีข้อความว่า ‘พระราชทานในงานพระราชพิธีขึ้นระวางสมโภชพระเศวตสุรคชาธาร บรมนฤบาลสวามิภักดิ์ จังหวัดยะลา วันที่ 11 มีนาคม พุทธศักราช 2511’ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้”
สำหรับเข็มกลัดและตลับที่มีพระปรมาภิไธยย่อ ภปร.นั้น คุณยายมือเล๊าะ ยังคงเก็บรักษาไว้อย่างดี และวันนี้คุณยายกับครอบครัว คือ น.ส.ซีตีคอตีเย๊าะ อายุ 53 ปี และนายกอยา อายุ 48 ปี ยังคงรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมมิเสื่อมคลาย
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 คุณยายมือเล๊าะ
2 ในหลวง และ พระเศวต
3 เข็มกลัดและตลับที่มีพระปรมาภิไธยย่อ ภปร.
4 ครอบครัว "เว็ง" ในปัจจุบัน