บูดูหรือคาร์บอมบ์...คุมตัวผู้ต้องสงสัยจากชายแดนใต้ ใครจับแพะชนแกะ?
ตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค.จนถึงวันที่ 17 ต.ค.59 เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งตำรวจ ทหาร เปิดปฏิบัติการตรวจค้นพื้นที่ต้องสงสัยเตรียมการก่อวินาศกรรมในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลหลายจุด หลายครั้งต่อเนื่องกัน
ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นผลจากการแจ้งเตือนของบางหน่วยว่าอาจมีการก่อวินาศกรรมระดับ “คาร์บอมบ์” หรือระเบิดที่บรรทุกในรถยนต์ในพื้นที่เมืองหลวงและใกล้เคียง โดยพุ่งเป้าไปที่ห้างสรรพสินค้า ลานจอดรถ และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ห้วงเวลาที่จะมีการก่อเหตุคือตลอดเดือน ต.ค. โดยเฉพาะวันที่ 25-30 ต.ค. และกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่จะปฏิบัติการอาจมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มบุคคลจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ คล้ายเหตุการณ์ระเบิดและวางเพลิงใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ห้วงวันที่ 10-12 ส.ค.ที่ผ่านมา
แรงจูงใจของการก่อเหตุ มีการวิเคราะห์ของหน่วยงานความมั่นคงว่า อาจต้องการสร้างสถานการณ์ช่วงการประชุมสุดยอดผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชีย หรือ เอซีดี ที่รัฐบาลไทยเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 9-10 ต.ค. และเป็นห้วงครบรอบ 12 ปีเหตุการณ์ตากใบ วันที่ 25 ต.ค. รวมถึงวันสถาปนาต่างๆ ของขบวนการแบ่งแยกดินแดนด้วย
การตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ปูพรมไปในหลายพื้นที่ โดยพุ่งเป้าไปยังบริเวณที่มีกลุ่มคนจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้อาศัยอยู่ ไม่ว่าจะเป็นชุมชนย่านรามคำแหง หัวหมาก มีนบุรี และบางพื้นที่ของ จ.สมุทรปราการ
การตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ที่เป็นข่าวทางเปิด มีเพียงปฏิบัติการในเขตกรุงเทพมหานคร และมีการให้ข่าวทำนองว่าสามารถคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ราว 10 คน แต่ยังไม่พบหลักฐานเชื่อมโยงการก่อวินาศกรรม
อย่างไรก็ดี มีการตรวจค้นอีกอย่างน้อย 2 ครั้งในวันที่ 11 ต.ค. และ 17 ต.ค.ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ จากนั้นมีการเผยแพร่ข่าวอย่างไม่เป็นทางการว่าสามารถจับกุมบุคคลและยึดอุปกรณ์ที่อาจนำไปประกอบวัตถุระเบิดได้
โดยการตรวจค้นเมื่อวันที่ 11 ต.ค. เป็นห้องพักย่าน ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ควบคุมตัว นายปรีชา (สงวนนามสกุล) ภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.รามัน จ.ยะลา พร้อมของกลางเป็นกล่องพัสดุไปรษณีย์และโทรศัพท์มือถือจำนวนมาก โดยเจ้าตัวให้การว่ามีอาชีพเป็นช่างซ่อมโทรศัพท์มือถือ
ขณะที่การตรวจค้นเมื่อวันที่ 17 ต.ค. เป็นห้องพักในชุมชนเคหะบางพลีเมืองใหม่ ย่านบางเสาธง จ.สมุทรปราการ สามารถควบคุมผู้ต้องสงสัยได้ 1 คน และกล่องขนาดใหญ่ 4 กล่อง ตามรายงานของเจ้าหน้าที่อ้างว่าภายในเป็นสารประกอบระเบิด
แฉยอดถูกคุมตัว 40 คนปล่อยแล้ว 25
การปิดล้อมตรวจค้นในหลายพื้นที่และควบคุมตัวบุคคลที่มีภูมิลำเนาจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปจำนวนหนึ่ง แต่ไม่มีความชัดเจนจากทางการว่าจับกุมไปจำนวนเท่าใด และคุมตัวไว้ที่ไหน ทำให้เกิดการตั้ง “ศูนย์ประสานงานผู้ได้รับผลกระทบกรณีปิดล้อมรามคำแหง” ขึ้น เพื่อตรวจสอบการปิดล้อม ตรวจค้น จับกุม ควบคุมตัวและกักขังนักศึกษาและประชาชนปาตานี (สามจังหวัดชายแดนภาคใต้) ย่านรามคำแหง
จากการตรวจสอบของศูนย์ประสานงานฯ มีการระบุข้อมูล ณ วันที่ 15 ต.ค.ว่าเจ้าหน้าที่จับกุมบุคคลที่มีภูมิลำเนาจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปทั้งสิ้น 40 คน ปล่อยตัวแล้ว 25 คน คงเหลือควบคุมตัวอยู่ 15 คน
รายชื่อผู้ที่ยังไม่ได้รับการปล่อยตัว ตามรายงานของศูนย์ประสานงานฯ ประกอบด้วย 1.นายอัมรี หะ อายุ 18 ปี 2.นายตางมีซี โต๊ะตาหยง หรือ ตาลมีซี โตะตาหยง อายุ 31 ปี 3.นายนุรมัน อาบู อายุ 20 ปี 4.นายอุสมาน กาเด็งหะยี อายุ 22 ปี (เบื้องต้นทราบว่าถูกคุมตัวที่ มณฑลทหารบกที่ 11) 5.นายมูฟตาดีน สาและ อายุ 18 ปี
6.นายอารี อาลี อายุ 27 ปี 7.นายอาดือนันต์ มิงสาแล อายุ 24 ปี (ถูกนำตัวไปฝากขังที่เรือนจำคลองเปรม) 8.นายชัยเดช เจ๊ะโก๊ะ (ถูกนำตัวไปฝากขังที่เรือนจำคลองเปรม) 9.นายรอสลัง วาหนิ 10.นางสาวการีหม๊ะ วาหนิ
11.นายฮา ซอล๊ะ 12.นายอาวาดี เล๊าะ 13.นายซุกิฟลี สาและ 14.นายริดวัน อาแว 15.นายอับดุลซูโกร ตาปู (ถูกนำตัวไปฝากขังที่เรือนจำคลองเปรม)
สำหรับรายชื่อผู้ที่ถูกควบคุมตัวและได้รับการปล่อยตัวแล้วอีก 25 คน ศูนย์ข่าวอิศราขอสงวนรายชื่อ ไม่เปิดเผย เพราะไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิดหรือเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด
เป็นที่น่าสังเกตว่า รายชื่อผู้ถูกควบคุมตัวที่รวบรวมโดยศูนย์ประสานงานฯ ไม่ครอบคลุมถึงปฏิบัติการตรวจค้นในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ซึ่งมีการจับกุมผู้ต้องสงสัยไปหลายคนเหมือนกัน และหนึ่งในนั้นคือ นายปรีชา (สงวนนามสกุล) ภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.รามัน จ.ยะลา โดยมีข่าวว่านายปรีชา ถูกคุมตัวไปสอบปากคำที่มณฑลทหารบกที่ 11
ฝ่ายมั่นคงแจงคุมตัวแค่ 5 – โยงข้อมูลสำคัญ
ด้านการชี้แจงจากฝ่ายรัฐ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวกับ “ทีมข่าวอิศรา” ว่า การดำเนินคดีกับผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวก่อนหน้านี้ เฉพาะในพื้นที่นครบาล (กรุงเทพฯ จากการตรวจค้นย่านหัวหมาก รามคำแหง มีนบุรี) ตำรวจได้ปล่อยตัวคนที่ไม่เกี่ยวข้องไปแล้ว ตอนนี้เหลือไม่ถึง 10 คน เนื่องจากคนที่ยังเหลือได้ถูกดำเนินคดีในข้อหาครอบครองหรือเสพยาเสพติด ซึ่งก็คือพืชกระท่อม
ส่วนประเด็นที่มีหนังสือแจ้งเตือนเกี่ยวกับการก่อความไม่สงบในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลช่วงนี้ เป็นเพียงการออกหนังสือเตือนให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและเข้มงวดในการปฏิบัติเท่านั้น เบื้องต้นยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับกลุ่มคนที่จะก่อเหตุการณ์รุนแรงแต่อย่างใด
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ชี้แจงถึงการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยว่า ช่วงแรกเชิญตัวมาจำนวน 14 คน ซึ่งส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่ได้ให้กลับบ้านไปหมดแล้ว ปัจจุบันเหลือเพียง 5 คน คือ นายตาลมีซี โตะตาหยง นายมูฟตาดีน สาและ นายอัมรี หะ นายนุรมัน อาบู และ นายอุสมาน กาเด็งหะยี โดยทั้ง 5 คนนี้เบื้องต้นไม่พบว่ามีสถานะเป็นนักศึกษา ประกอบกับเจ้าหน้าที่พบข้อพิสูจน์ที่น่าเชื่อว่า น่าจะมีข้อมูลสำคัญที่จะเป็นประโยชน์ต่องานความมั่นคงทั้งในส่วนของพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และในส่วนกลาง หลังจากนี้จะมีกระบวนการซักถามเพิ่มเติมโดยใช้อำนาจตามกฎหมายที่ประกาศในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป โดยเน้นการขอความร่วมมือเกี่ยวกับข้อมูลด้านความมั่นคงเป็นหลัก และอาจยังไม่มีลักษณะในการปฏิบัติว่าบุคคลนั้นได้กระทำความผิดในชั้นนี้
ส่วนพฤติกรรมอื่นๆ ของบางบุคคลที่อาจเข้าข่ายกระทำผิดในขณะที่เชิญตัวไปนั้น อาจขอแยกไว้เป็นเรื่องรองก่อน ขอให้มั่นใจเจ้าหน้าที่ว่าได้ปฏิบัติทุกขั้นตอนด้วยความระมัดระวัง
เปิด 3 กลุ่มผู้ต้องสงสัย – ไม่รวมเคสปากน้ำ
จากการตรวจสอบเพิ่มเติมของ “ทีมข่าวอิศรา” พบว่า ผู้ถูกควบคุมตัวแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ
1.กลุ่มที่ตรวจสอบแล้วไม่พบความเชื่อมโยงกับข้อมูลการข่าวด้านความมั่นคง และไม่ได้กระทำความผิดอื่น กลุ่มนี้ได้รับการปล่อยตัวแล้ว
2.กลุ่มที่ไม่พบความเชื่อมโยงกับข้อมูลการข่าวด้านความมั่นคง แต่พบกระทำความผิดอื่น เช่น ครอบครองยาเสพติด กลุ่มนี้ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และขออำนาจศาลฝากขังครั้งที่ 1
3.กลุ่มที่พบความเชื่อมโยงกับข้อมูลการข่าวด้านความมั่นคง กลุ่มนี้ถูกควบคุมตัวอยู่
ทั้งนี้ ในกลุ่มที่ 3 ตามรายชื่อที่ พ.อ.วินธัย ชี้แจง ยังไม่รวมกรณีการตรวจค้นในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 11 ต.ค. คือ นายปรีชา (สงวนนามสกุล) ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าได้รับการปล่อยตัวแล้ว หรือถูกแจ้งข้อหา กับอีกจำนวนหนึ่งที่ถูกคุมตัวภายหลังการตรวจค้นห้องพักย่านบางเสาธง เมื่อวันที่ 17 ต.ค.
"บูดู" หรือ "คาร์บอมบ์"...ใครจับแพะชนแกะ
O ชายแดนใต้วิจารณ์ "บูดูบอมบ์"
เป็นที่น่าสังเกตว่า ปฏิบัติการตรวจค้นในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ซึ่งมีข่าวออกมาอย่างไม่เป็นทางการ 2 ครั้ง คือ เมื่อวันที่ 11 ต.ค. และวันที่ 17 ต.ค. มีการเผยแพร่ภาพถ่ายของกลางผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยพยายามสร้างกระแสว่าเป็นอุปกรณ์ประกอบระเบิด
ขณะเดียวกันก็มีการแชร์ภาพเอกสารทางราชการแจ้งเตือนการก่อวินาศกรรมระดับคาร์บอมบ์ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ออกมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค.เป็นต้นมา ในท่วงทำนองของการยืนยันว่าปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่เป็นไปตามข้อมูลการข่าวของฝ่ายความมั่นคงจริง
อย่างไรก็ดี ภาพถ่ายของกลางที่ตรวจพบจากการค้นห้องพักย่านบางเสาธง จ.สมุทรปราการ ซึ่งอยู่ในกล่องกระดาษนั้น บางส่วนเป็นน้ำบูดู (เครื่องปรุงรสอาหาร นิยมรับประทานในภาคใต้) ผลมะนาว และเครื่องสำอาง ขณะที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ออกมาให้สัมภาษณ์สั้นๆ ยอมรับว่าการตรวจค้นห้องพักย่านบางเสาธง ไม่พบสารประกอบระเบิดตามที่เป็นข่าว
จากภาพและคำสัมภาษณ์ของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ทำให้มีกระแสวิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ทำนองว่า “จับแพะชนแกะ” น้ำบูดูจะเป็นอุปกรณ์ประกอบระเบิดได้อย่างไร โดยกระแสวิจารณ์นี้มีการทำภาพล้อเลียนอย่างกว้างขวางในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
O ฝ่ายมั่นคงชี้ "ทีมศรีสาคร" โยงบอมบ์
กระนั้นก็ตาม เมื่อตรวจสอบรายชื่อผู้ต้องสงสัย 5 รายที่ พ.อ.วินธัย ระบุว่ายังถูกควบคุมตัวอยู่ และมีความเชื่อมโยงกับข้อมูลทางความมั่นคง พบว่าทั้ง 5 คนมีรายชื่อตรงกับที่ศูนย์ประสานงานฯ รายงานก่อนหน้านี้ว่าถูกจับกุมและยังไม่ได้รับการปล่อยตัวด้วย แต่เป็นการถูกจับกุมจากห้องพักย่านรามคำแหง ไม่ใช่ห้องพักย่านบางเสาธง
โดยทั้ง 5 รายประกอบด้วย นายตาลมีซี โตะตาหยง นายมูฟตาดีน สาและ นายอัมรี หะ นายนุรมัน อาบู และ นายอุสมาน กาเด็งหะยี
กระทั่งช่วงค่ำของวันที่ 17 ต.ค. มีการเผยแพร่ข้อมูล คาดว่าเป็นการเผยแพร่จากฝั่งเจ้าหน้าที่ เป็นเอกสารรายงานผลการซักถามผู้ต้องสงสัยทั้ง 5 คน ระบุว่า หนึ่งในผู้ต้องสงสัยให้การรับสารภาพแล้วว่าร่วมกับพวกที่พักอยู่ย่านบางเสาธง (ห้องพักที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น) เตรียมก่อเหตุระเบิดตามห้างสรรพสินค้าในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลจริง
กลุ่มที่ก่อเหตุมีภูมิลำเนาจาก อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส บางส่วนเพิ่งเดินทางเข้ากรุงเทพฯได้ราวๆ 7 วัน โดยมีกลุ่มคนจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ทำงานในกรุงเทพฯอยู่แล้วเป็นผู้จัดหาที่พักให้ และมีการส่งโทรศัพท์มือถือขึ้นมาจาก จ.นราธิวาส ปลายทางอยู่ที่ห้องพักของกลุ่มผู้ต้องสงสัย คาดว่าเตรียมนำมาก่อเหตุ
เอกสารรายงานคำให้การของผู้ต้องสงสัย 5 คน ยังระบุด้วยว่า อุปกรณ์ประกอบระเบิดจำนวนหนึ่งถูกเก็บไว้ที่ห้องพักย่านบางเสาธง เจ้าหน้าที่คาดว่าเมื่อผู้ต้องสงสัย 5 คนนี้ถูกจับกุมย่านรามคำแหง ทำให้เครือข่ายที่เหลือไหวตัวทัน และเคลื่อยย้ายอุปกรณ์ทั้งหมดออกจากห้องพักย่านบางเสาธง ทำให้เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น จึงพบเพียงกล่องใส่น้ำบูดูและเครื่องสำอาง
เอกสารรายงานคำให้การฯ ยังระบุว่า ได้ข้อมูลจากคำให้การของผู้ดูแลห้องพักย่านบางเสาธงว่า มีผู้ต้องสงสัยอีก 2 คนเข้าไปเก็บข้าวของจากภายในห้องพักเมื่อวันที่ 12 ต.ค. ภายหลังการจับกุมกลุ่มผู้ต้องสงสัยย่านรามคำแหง เจ้าหน้าที่ได้ชื่อทั้ง 2 คนแล้ว เป็นชาว อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส กลุ่มเดียวกับผู้ต้องสงสัย 5 คนได้ให้การพาดพิงถึงเครือข่ายในพื้นที่ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ล่าสุดเช้าวันที่ 18 ต.ค.มีรายงานว่าทั้ง 2 คนถูกควบคุมตัวแล้วโดยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 ทราบชื่อคือ นายอับดุลบาซิร สือกะจิ กับ นายมูบารีห์ กะนา
มีรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่จากส่วนกลางได้ส่งตัวผู้ต้องสงสัย 5 คนไปเข้ากระบวนการซักถามต่อยังหน่วยที่รับผิดชอบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และได้ส่งตัวทั้งหมดไปยังหน่วยข่าวกรองทางทหารส่วนหน้า จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
องค์กรสิทธิ์โวยเลือกปฏิบัติ-ห้ามเยี่ยม
การควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยจำนวนมากตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้มีการตั้งคำถามว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงใช้อำนาจตามกฎหมายใดในการจับกุม คุมขัง และยังห้ามญาติเยี่ยมผู้ต้องสงสัยทั้งหมดด้วย
แหล่งข่าวจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กล่าวว่า ได้พยายามประสานกับฝ่ายความมั่นคงตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว เพื่อขอให้ทางครอบครัวได้เข้าเยี่ยมผู้ต้องสงสัย และพยายามชี้แจงทำความเข้าใจให้กลุ่มญาติผู้ต้องสงสัยทราบ ล่าสุดทราบว่าเจ้าหน้าที่อนุญาตให้เข้าเยี่ยมแล้ว เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 17 ต.ค.
ขณะที่ฝ่ายทหาร โดยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 ซึ่งนำกำลังเข้าเชิญตัวผู้ต้องสงสัย 2 รายล่าสุดไปเข้ากระบวนการซักถาม ยืนยันว่าได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับญาติของทั้งสองคนแล้ว ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี
น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ประธานแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) กล่าวว่า การจับแบบเหวี่ยงแหถือว่าไม่เหมาะสม การข่าวน่าจะแม่นมากกว่านี้ ไม่ใช่สร้างกระแสให้เกิดความหวาดกลัว จับแล้วก็ปล่อยจำนวนมาก อาจเข้าข่ายเป็นการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติที่เฝ้าระวังแต่เพียงกลุ่มชาติพันธุ์เดียวว่าจะก่อเหตุรุนแรง และยังอ้างห้วงเวลาของเดือน ต.ค.ที่มีวันครบรอบเหตุการณ์ตากใบ ซึ่งเป็นวันที่ประชาชนมีสิทธิ์จัดงานรำลึกได้อย่างสงบ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม
“การกระทำของเจ้าหน้าที่ถือเป็นกระทำการโดยพลการ ไม่มีเหตุผลทางกฎหมายเพียงพอที่จะควบคุมตัวบุคคล เป็นเพียงคำอธิบายที่ไพเราะเพราะพริ้ง ควบคุมตัวเพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานภายใต้องค์ประกอบที่สมบูรณ์ แปลว่าอะไร ละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานหรือไม่ เพราะจนถึงขณะนี้ยังไม่แน่ใจว่าเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวโดยอาศั้ยอำนาจตามกฎหมายอะไร” น.ส.พรเพ็ญ ระบุ
ขณะที่แหล่งข่าวจากหน่วยงานความมั่นคง ชี้แจงว่า เป็นการปฏิบัติเพื่อรักษาความปลอดภัยในภาพรวม อาจดำเนินการรวดเร็วไปบ้าง แต่ก็เพื่อประโยชน์ของสาธารณะ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 ของกลางที่ตำรวจยึดได้จากการตรวจค้นห้องพักย่านบางเสาธง จ.สมุทรปราการ
2 เจ้าหน้าที่อีโอดี (ชุดเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด) เข้าตรวจหาสารประกอบระเบิด
3 ของกลางที่พบมีเพียงน้ำบูดู กับมะนาว ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์อย่างกว้างขวาง
4-5 ภาพล้อเลียนที่เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ว่าบูดูจะเป็นระเบิดได้อย่างไร
6 ผู้ต้องสงสัย 2 รายล่าสุดที่ถูกขยายผลจับกุม