โอนเงินเข้าบัญชี‘น้อง’ซื้อหุ้นแม็คโคร! ผลสอบ ก.ล.ต.กรณี ‘พิทยา เจียรวิสิฐกุล’
“…พฤติกรรมการซื้อขายหุ้นแม็คโครในบัญชีของนายสมศักดิ์ และการโอนเงินจากบัญชีเงินฝากของนายพิทยาไปยังบัญชีของนายสมศักดิ์ เพื่อชำระค่าซื้อหุ้นในช่วงเกิดเหตุนั้น มีความสอดคล้องและชัดเจนเพียงพอให้เชื่อว่า แท้ที่จริงแล้วการซื้อหุ้นแม็คโครรายการดังกล่าวในบัญชีของนายสมศักดิ์ เป็นการซื้อของนายพิทยา โดยอาศัยข้อมูลภายใน บุคคลต้องสงสัย 2 รายนี้ เพียงแต่หาข้อโต้แย้งยกขึ้นมาอ้างลอย ๆ ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ด้วยวาจา โดยไม่มีพยานหลักฐานอื่นมาแสดงให้มีน้ำหนักเพียงพอต่อการรับฟัง…”
กรณี ‘บิ๊กซีพี’ ถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปรียบเทียบปรับรวมวงเงินกว่า 33 ล้านบาท เนื่องจากพบว่าใช้ข้อมูลวงใน (อินไซเดอร์) ซื้อหุ้นแม็คโครนั้น
หลายคนอาจทราบรายงานการสอบสวนของ ก.ล.ต. ในส่วนของนายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าเจ้าหน้าที่บริหารเครือซีพีออลล์ และนายอธึก อัศวานันท์ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายกฎหมายกลุ่มบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด และ น.ส.อารียา อัศวานันท์ บุตรสาวของนายอธึก กันไปแล้ว
(อ่านประกอบ : โอนเช็คให้‘ลูก’ซื้อหุ้นแม็คโคร! ผลสอบ ก.ล.ต.กรณี ‘อธึก อัศวานันท์’,เปิดผลสอบ ก.ล.ต.ปม‘ก่อศักดิ์’ อินไซเดอร์-เทขายหุ้นอื่น 50 ล.ซื้อหุ้นแม็คโครก่อนเจรจา1วัน)
มาดูกรณีนายพิทยา เจียรวิสิฐกุล กรรมการ และรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครือซีพีออลล์ และนายสมศักดิ์ เจียรวิสิฐกุล น้องชายนายพิทยา กันบ้าง
รายงานการตรวจสอบของ ก.ล.ต. ที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ใช้สิทธิตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 ยื่นขอกับสำนักงาน ก.ล.ต. พบการกระทำของนายพิทยา และนายสมศักดิ์ สรุปได้ ดังนี้
ในช่วงเกิดเหตุนายพิทยา ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการ และรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครือซีพีออลล์ จึงพิจารณาได้ว่าเป็นบุคคลวงใน
โดยระหว่างวันที่ 17-19 เม.ย. 2556 นายพิทยาได้รับแจ้งจากบุคคลรายหนึ่ง (ก.ล.ต. ปกปิดชื่อ) เกี่ยวกับกำหนดการประชุมคณะกรรมการบริษัทซีพีออลล์ ที่จะจัดขึ้นในช่วงเย็นของวันที่ 22 เม.ย. 2556 และจากการสอบถ้อยคำนายพิทยาให้การว่า ได้ล่วงรู้ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมนี้จากหนังสือเชิญประชุมคณะกรรมการซีพีออลล์ ฉบับลงวันที่ 18 เม.ย. 2556 ซึ่งถูกส่งให้นายพิทยา ในวันที่ 18 หรือ 19 เม.ย. 2556 ที่ระบุแจ้งวาระการประชุมเกี่ยวกับการพิจารณาการได้มาซึ่งสินทรัพย์และหุ้นของแม็คโคร
พฤติกรรมการซื้อขาย เนื่องจากไม่พบว่านายพิทยาซื้อขายหุ้นแม็คโครในบัญชีของตนเอง แต่พบข้อพิรุธการลงทุนในบัญชีซื้อขายหุ้นของนายสมศักดิ์ ซึ่งเป็นน้องชายนายพิทยา โดยบัญชีซื้อขายดังกล่าวเมื่อย้อนหลังไปประมาณ 10 เดือนก่อนช่วงเกิดเหตุ บัญชีนายสมศักดิ์ไม่เคยมีการซื้อขายหุ้นใด ๆ มาก่อน กระทั่งในช่วงบ่ายของวันที่ 19 เม.ย. 2556 ปรากฏว่า บัญชีของนายสมศักดิ์มีการซื้อหุ้นแม็คโคร จำนวน 7,500 หุ้น เป็นเงิน 5,075,000 บาท
ทางเงิน พบว่า ณ วันที่นายสมศักดิ์สั่งซื้อหุ้นแม็คโคร บัญชีเงินฝากธนาคาร (บัญชี ATS) ของนายสมศักดิ์ มีเงินเหลือเพียง 32,185.04 บาท ซึ่งไม่เพียงพอที่จะชำระค่าซื้อหุ้นแม็คโครจำนวน 5,075,000 บาท ที่ต้องชำระในวันที่ 24 เม.ย. 2556 แต่ปรากฏพยานหลักฐานว่า ในวันที่นายสมศักดิ์ซื้อหุ้นดังกล่าว นายพิทยาได้เริ่มทยอยโอนเงินเข้าบัญชี ATS ของนายสมศักดิ์หลายครั้ง โดยระหว่างวันที่ 19-24 เม.ย. 2556 รับโอนเป็นเงินรวม 5.1 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเพียงพอที่จะใช้ชำระค่าซื้อหุ้นแม็คโคร
ทั้งนี้นายพิทยา ชี้แจงว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเจรจาซื้อขายหุ้นแม็คโครจากบริษัท เอสเอชวี เนเธอร์แลนด์ บี.วี. (SHV) ผู้ถือหุ้นใหญ่แม็คโคร (ขณะนั้น) และไม่ได้มีส่วนหรือความรับผิดชอบในการทำกิจกรรมใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเข้าซื้อหุ้นแม็คโครก่อนวันประชุมกรรมการในวันที่ 22 เม.ย. 2556 และไม่ได้ล่วงรู้หรือทราบข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญเกี่ยวกับธุรกรรมที่เครือซีพีออลล์จะเข้าซื้อหุ้นแม็คโคร ก่อนที่นายสมศักดิ์ จะซื้อหุ้นแม็คโครในวันที่ 19 เม.ย. 2556 และไม่มีเหตุจูงใจใด ๆ ที่จะซื้อหุ้นแม็คโครผ่านบัญชีนายสมศักดิ์ หรือให้ข้อมูลแก่นายสมศักดิ์เพื่อนำไปซื้อหุ้นแม็คโคร
ฝ่ายตรวจสอบตลาดทุน พิจารณาแล้วเห็นว่า นายพิทยามีหน้าที่รับผิดชอบทางด้านการเงินของซีพีออลล์ ย่อมอยู่ในวิสัยที่จะได้รับทราบข้อมูลเรื่องที่ซีพีออลล์จะซื้อกิจการของแม็คโคร ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 188,880 ล้านบาท ประเด็นที่นายพิทยาอ้างว่า ยังมิได้ล่วงรู้ข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญจึงไม่อาจรับฟังได้
ส่วนกรณีเงินจำนวน 5 ล้านบาทที่มอบให้นายสมศักดิ์นั้น นายพิทยาชี้แจงว่า เพื่อใช้เป็นเงินทุนสำรองค่าใช้จ่ายในการรักษาบุคคลรายหนึ่ง (ก.ล.ต. ปกปิดชื่อ) และเป็นการให้โดยเสน่หาตามหน้าที่ธรรมจรรยาระหว่างพี่น้องบุพการีตามที่ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ มิใช่เป็นการสนับสนุนทางการเงินเพื่อซื้อหุ้นแม็คโคร
ฝ่ายตรวจสอบตลาดทุน พิจารณาแล้วเห็นว่า คณะกรรมการด้านตรวจสอบและคดีได้พิจารณากรณีนี้แล้ว จากการสอบถ้อยคำนายพิทยา และนายสมศักดิ์ รับว่า บุคคลรายหนึ่งเคยป่วย และรักษาจนหายแล้วในช่วงปี 2554 แม้จะมีความเป็นไปได้ที่บุคคลรายนี้อาจเกิดการเจ็บป่วยได้อีก การกันเงินกองทุนไว้เพื่อการรักษาพยาบาลจึงเป็นการสมควร
แต่เนื่องจากปัจจุบันบุคคลรายนี้ไม่ได้มีอาการเจ็บป่วยใด ๆ จึงไม่พบเหตุจำเป็นที่นายพิทยาจะต้องรีบโอนเงินให้นายสมศักดิ์จำนวน 5 ล้านบาทเศษ ภายหลังจากที่นายสมศักดิ์ซื้อหุ้นแม็คโครในเวลา 4 วันทำการ เพื่อให้เพียงพอต่อการชำระค่าซื้อหุ้นดังกล่าว
นอกจากนี้หากนายพิทยาโอนเงินให้นายสมศักดิ์เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับการรักษาพยาบาลบุคคลรายนี้ในอนาคตจริง การที่นายสมศักดิ์นำเงินทั้งจำนวนไปซื้อหุ้นย่อมเป็นพฤติกรรมที่ผิดปกติอย่างมากในการนำเงินที่ตั้งใจสำรองเพื่อการใช้จ่ายของบุคคลรายนี้ไปลงทุนในทรัพย์สินที่มีความเสี่ยง เว้นเสียแต่ว่าผู้ลงทุนมีความมั่นใจสูงว่าจะได้ผลกำไรจากการลงทุนนั้นอย่างแน่นอน
ซึ่งความมั่นใจดังกล่าวสำหรับข้อเท็จจริงในกรณีนี้ น่าเชื่อว่าคือการที่ได้ล่วงรู้ข้อมูลภายในที่ซีพีออลล์จะเข้าครอบงำกิจการแม็คโคร ด้วยการซื้อหุ้นแม็คโครจากผู้ถือหุ้นใหญ่ (SHV) ซึ่งแม้ผลกำไรที่ได้ธุรกรรมดังกล่าว ตลอดจนเงินจำนวน 5 ล้านบาทเศษ จะให้กับนายสมศักดิ์ ก็พิจารณาได้ว่า นายพิทยา ได้ประโยชน์เนื่องจากเงินที่ตนเองให้มีจำนวนมากขึ้นจากผลกำไรดังกล่าว ดังนั้นประเด็นที่นายพิทยาอ้างว่าโอนเงินจำนวน 5 ล้านบาทเศษเพื่อเป็นทุนสำรองในการรักษาบุคคลรายหนึ่งจึงไม่อาจรับฟังได้
ขณะที่นายสมศักดิ์ ชี้แจงว่า นายพิทยาโอนเงินส่วนหนึ่งตั้งใจให้ตนเพื่อชดเชยการที่ลาออกจากงานประจำเพื่อมาดูแลบุคคลรายหนึ่ง ฝ่ายตรวจสอบตลาดทุน พิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงจากการสอบถ้อยคำนายพิทยา และนายสมศักดิ์ สอดคล้องกันว่า นายสมศักดิ์ได้ออกจากงานประจำมาดูแลบุคคลรายนี้ ตั้งแต่ประมาณปี 2542 และนายสมศักดิ์ยังมีรายได้จากการช่วยดูแลกิจการร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวมาโดยตลอด ดังนั้นการที่นายพิทยาเพิ่งให้เงินแก่นายสมศักดิ์จำนวน 1 ล้านบาทในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. 2556 จึงขาดน้ำหนักรับฟัง
ทั้งนี้ปรากฏข้อเท็จจริงว่า เงินค่าขายหุ้นแม็คโครจากบัญชีนายสมศักดิ์ ได้ถูกนำไปฝากในบัญชีเงินฝากประจำในชื่อบุคคลรายหนึ่ง (ก.ล.ต. ปกปิดชื่อ) หรือนายสมศักดิ์ เจียรวิสิฐกุล น่าเชื่อว่าเป็นความต้องการที่เกิดขึ้นภายหลัง หลังจากนายพิทยาได้กำไรจากการขายหุ้นแม็คโครแล้ว จึงจัดสรรเงินจำนวน 5 ล้านบาทเศษเป็นกองทุนในการรักษาพยาบาล และเงินค่าขายส่วนที่เหลือมอบให้เป็นการตอบแทนนายสมศักดิ์
พิจารณาแล้วเห็นว่า ทั้งพฤติกรรมการซื้อขายหุ้นแม็คโครในบัญชีของนายสมศักดิ์ และการโอนเงินจากบัญชีเงินฝากของนายพิทยาไปยังบัญชีของนายสมศักดิ์ เพื่อชำระค่าซื้อหุ้นในช่วงเกิดเหตุนั้น มีความสอดคล้องและชัดเจนเพียงพอให้เชื่อว่า แท้ที่จริงแล้วการซื้อหุ้นแม็คโครรายการดังกล่าวในบัญชีของนายสมศักดิ์ เป็นการซื้อของนายพิทยา โดยอาศัยข้อมูลภายใน บุคคลต้องสงสัย 2 รายนี้ เพียงแต่หาข้อโต้แย้งยกขึ้นมาอ้างลอย ๆ ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ด้วยวาจา โดยไม่มีพยานหลักฐานอื่นมาแสดงให้มีน้ำหนักเพียงพอต่อการรับฟัง
จากการพิจารณาข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้นประกอบกัน น่าเชื่อว่านายพิทยาใช้ข้อมูลภายในซื้อหุ้นแม็คโคร โดยทราบข้อมูลจากหนังสือเชิญประชุมที่ระบุวาระการได้มาซึ่งสินทรัพย์และหุ้นของแม็คโคร และซื้อหุ้นผ่านบัญชีนายสมศักดิ์ แม้จะไม่ได้สั่งซื้อขายหุ้นเอง แต่ก็พบข้อพิรุธเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างการล่วงรู้ข้อมูลกับการซื้อหุ้นในบัญชีซื้อขายหุ้นของนายสมศักดิ์ในช่วงเวลาดังกล่าว รวมทั้งมีการทยอยโอนเงินเข้าบัญชี ATS ของนายสมศักดิ์จนเพียงพอต่อการชำระค่าหุ้น
อ่านประกอบ :
กก.ข้อมูลข่าวสารฯสั่ง ก.ล.ต.ให้ข้อมูล ‘อิศรา’ปมปรับ‘บิ๊กซีพี’อินไซเดอร์หุ้น
เปิดกระบวนการ ก.ล.ต.ใช้เวลาสอบ 2 ปีเศษก่อนเชือด‘บิ๊กซีพี’อินไซเดอร์หุ้น
ก.ล.ต.ปรับปธ.ซีพีออลล์-รอง ปธ.ทรูฯ-พวก 4 ราย 33 ล.ใช้ข้อมูลวงในซื้อหุ้นแม็คโคร
ไขปริศนาผลสอบ"บิ๊กซีพี"อินไซเดอร์ช้านาน2ปึ-ใครสั่งทวนหลายตลบ?
กก.ข้อมูลข่าวสารฯสั่ง ก.ล.ต.ให้ข้อมูล ‘อิศรา’ปมปรับ‘บิ๊กซีพี’อินไซเดอร์หุ้น
เผยพฤติการณ์ผู้บริหารซีพี! ก.ล.ต.สั่งปรับ 33 ล.อินไซเดอร์ซื้อหุ้นแม็คโคร
อ้างข้อมูลลับ! ก.ล.ต.ไม่ให้ผลสอบผู้บริหารซีพีอินไซเดอร์ซื้อหุ้นแม็คโคร
หมายเหตุ : ภาพประกอบซีพีออลล์ กับแม็คโครจาก www.bangkoksync.com