ผู้นำมุสลิมเคลียร์ปมห่มจีวรรับอิสลาม – ชาวบ้านแฉเจาะกรุขโมยพระหลวงปู่ทวด
กรุพระเครื่องเก่าล้ำค่าของวัดตันติการาม หรือวัดน้ำตอหลัง ต.ตันยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ถูกตรวจสอบอย่างละเอียดโดยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ พบว่าพระเครื่องเก่าแก่ โดยเฉพาะหลวงปูทวดเนื้อผง รุ่น พ.ศ.2497 สูญหายไป คาดว่าเชื่อมโยงกับอดีตเจ้าอาวาสที่ไปเข้าปฏิญาณตนรับอิสลามทั้งๆ ที่ยังครองจีวร จนกลายเป็นข่าวโด่งดัง
เมื่อวันพุธที่ 5 ต.ค.39 เจ้าหน้าชุดพิสูจน์หลักฐาน 10 นราธิวาส พร้อมฝ่ายปกครอง ได้เข้าตรวจสอบฐานองค์พระประธานพระพุทธชินราชเนื้อทองเหลือง ปางสมาธิ ซึ่งประดิษฐานอยู่ในโรงธรรมสามประมุขที่ระลึกครบรอบร้อยปีของวัดน้ำตอหลัง ภายหลังชาวบ้านและกรรมการวัดพบว่ามีร่องรอยถูกเจาะ
ผลการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า บริเวณฐานพระมีการเจาะโดยใช้เครื่องมือหินเจียจนเป็นช่องสี่เหลี่ยม กว้างยาวประมาณ 7 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดใหญ่พอที่มือคนจะล้วงเข้าไปหยิบพระเครื่องกับวัตถุมงคลล้ำค้าออกมาได้
สำหรับพระเครื่องและวัตถุมงคลที่สูญหายไปนั้น ประกอบด้วย เหรียญสามประมุข ปลุกเสกที่วัดตันติการาม เมื่อปี 2529 และหลวงปู่ทวด เนื้อผง รุ่น พ.ศ.2497 ซึ่งประเมินค่ามิได้ นอกจากนั้นยังพบการนำเหรียญวัตถุมงคลอื่นใส่เข้าไปแทนด้วย
การตรวจสอบครั้งนี้สืบเนื่องจาก นายหัสนิล ศิริสุวรรณ อายุ 60 ปี หรืออดีตพระครูปัญญาธนากร อดีตเจ้าอาวาสวัดตันติการาม ได้ไปปฏิญาณตนเข้ารับอิสลามต่อกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาสทั้งๆ ที่ยังครองจีวร จนกลายเป็นกระแสวิจารณ์ไปทั่ว โดยเจ้าตัวอ้างว่าเกิดนิมิตรขณะนอนตอนกลางคืนว่าตนเองต้องเข้ารับอิสลาม แต่ต่อมามีข่าวอีกด้านหนึ่งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า อดีตพระรูปนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับกรณีพระเครื่องใต้ฐานพระพุทธรูปสูญหายไปนับพันองค์ จนมีการไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ระแงะ
นายลอย ยอดแก้ว ที่ปรึกษาคณะกรรมการวัดน้ำตอหลัง กล่าวว่า เคยเห็นสิ่งผิดปกติที่องค์พระประธาน จึงได้ซักถามอดีตเจ้าอาวาสที่สึกไปเข้ารับอิสลาม ปรากฏว่าอดีตเจ้าอาวาสยอมรับว่าเป็นคนทำเอง และทำการคนเดียว ไม่มีใครช่วยเหลือ หลังจากคณะกรรมการวัดทราบเรื่อง ก็ได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้าน นายวิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์ นายอำเภอระแงะ ได้เดินทางเข้าไปที่วัด พร้อมด้วยพระผู้ปกครอง ทั้งเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล และตัวแทนจากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนราธิวาส เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจกับชาวบ้าน โดยอธิบายว่าเหตุการณ์ที่อดีตเจ้าอาวาสวัดน้ำตอหลังเข้ารับอิสลามทั้งๆ ที่ยังครองจีวรนั้น เป็นเรื่องตัวบุคคล ไม่เกี่ยวกับศาสนา การเปลี่ยนศาสนาเป็นเรื่องปกติ ใครจะนับถือศาสนาอะไรก็ได้ และกรณีที่อดีตเจ้าอาวาสอาจพัวพันกับพระเครื่องที่สูญหายไป ก็เป็นเรื่องส่วนตัวเช่นกัน เป็นการกระทำของบุคคลที่ไม่ดี
วันเดียวกัน มีการประชุมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำศาสนาในอำเภอระแงะ โดยมีนายอำเภอระแงะเป็นประธาน ภายหลังการประชุม นายอำเภอเปิดเผยว่า กรรมการอิสลามที่ทำพิธีให้กับนายหัสนิล ได้ยอมรับความผิดพลาดที่ไม่ได้บอกให้ถอดจีวรก่อน และไม่ได้ศึกษาหรือตรวจสอบประวัติของนายหัสนิลให้ดีก่อน ย้ำว่าไม่มีเจตนาไม่ดีต่อศาสนาอื่น
ขณะที่ นายหัสนิล อดีตเจ้าอาวาส ซึ่งขณะนี้เป็นมุสลิมไปแล้ว โดยใช้ชื่อใหม่ว่า “เปาะซู” ไม่มีใครรู้ว่าไปพำนักที่ไหน โดยมีข่าวว่าเขาเดินทางไปเข้าศึกษาศาสนาที่ปอเนาะแห่งหนึ่งใน อ.จะแนะ จ.นราธิวาส
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 ที่ปรึกษากรรมการวัดพาทีมข่าวอิศราดูร่องรอยการเจาะฐานพระพุทธรูป
2 ช่องสี่เหลี่ยมที่เกิดจากการเจาะ
3 พระพุทธชินราช พระประธานในโรงธรรมสามประมุข ซึ่งบริเวณฐานพระถูกเจาะเป็นช่องเพื่อเอาวัตถุมงคลล้ำค่าออกมา
4-5 ชาวบ้านไปรวมตัวกันที่วัด ขณะที่ฝ่ายปกครองเข้าชี้แจงทำความเข้าใจ