กทม.ปล่อยขบวนรถดับเพลิงเล็ก ซ่อมแล้วเสร็จ35คัน
กทม.ปล่อยขบวนรถดับเพลิงขนาดเล็ก หลังซ่อมแล้วเสร็จ 35 คัน ลั่น 3 ต.ค.ยื่นศาลปกครอง ฟ้องบริษัท “นามยงค์” หลังเจรจาปมที่จอดรถเหลว
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าฯกทม. เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนรถดับเพลิง ชนิด 4x4 พร้อมเครื่องสูบน้ำชนิดหาบหาม ยี่ห้อ Mitsubishi รุ่น L200 จำนวน35คัน เพื่อเข้าประจำการสถ่นีดับเพลิงหลัก 35 สถานีในกรุงเทพฯ ภายหลังจากกองโรงงานช่างกล สำนักการคลัง กทม.ดำเนินการซ่อมบำรุงแล้วเสร็จ โดยรถทั้งหมด เป็นรถล็อตที่นำออกมาจากบริษัทเทพยนต์ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี 176 คัน ซึ่งก่อนปล่อยขบวน เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ได้ทดสอบประสิทธิภาพการฉีดน้ำของรถดับเพลิงชนิดนี้ ที่มีเครื่องปั๊มน้ำบรรจุน้ำอยู่ 200 ลิตร และสายฉีดยาว 20 เมตร
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า จากการที่คสช.ออกคำสั่งตามมาตรา 44 ให้ยกเว้นภาษีอาการ รถและเรือดับเพลิง ทำให้กทม.ประหยัดเงินในการจ่ายภาษีไป 1,900 ล้านบาท และสามารถนำรถออกมาใช้งานได้ โดยมอบหมายให้กองโรงงานช่างกลซ่อมแซมรถ 35 คันเพื่อนำออกมาใช้งานให้ได้ก่อน ส่วนอีก 37 คัน เป็นรถชนิด 4x4 พร้อมเครื่องสูบน้ำชนิดหาบหาม จะสามารถนำออกมาใช้ได้ภายใน 31 ต.ค.นี้
ส่วนอีก 105 คัน เป็นรถดับเพลิงขนาดใหญ่ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะทำการประกวดราคาจัดจ้างซ่อมตามระเบียบ โดนเชื่อว่าจะได้คู่สัญญาเริ่มซ่อม 1 พ.ย.นี้ และจะทยอยซ่อมออกมาใช้เดือนละ 10-20 คัน เพราะรถดับเพลิงชุดเดิมของกทม.มีอายุเกินกว่า 20 ปีแล้ว จึงจะมีการจำหน่ายออกไป ทำให้ต้องนำรถทั้งหมดนี้มาทดแทนรถเก่า
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวต่อว่า ส่วนความคืบหน้าการเจรจาค่าที่จอดรถ ดับเพลิงบริเวณท่าเรือแหลมฉบังจำนวน 139 คัน กับบริษัทนามยงค์ เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน) ศาลแพ่ง ได้นัดไกล่เกลี่ยครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา บริษัทนามยงค์ ได้ยืนยันค่าเช่าที่จอดรถอยู่ที่ 427 ล้านบาท จาก 926 ล้านบาท แต่กทม.สามารถให้ได้แค่ 200 บาทเท่านั้น เนื่องจากกทม.คิดค่าเช่านับจากวันที่อนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ตัดสินคดีจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงมูลค่า 6,687 ล้านบาท เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2557 จนถึงปัจจุบัน เมื่อตกลงราคาค่าเช่าไม่ได้ จึงต้องให้ศาลแพ่งช่วยตัดสินค่าเช่าที่จอดในอัตราค่าเช่าที่มีความเหมาะสมและเป็นที่ยอมรับทั้งสองฝ่าย
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ กทม.ยังได้ทำหนังสือถึงบริษัทนามยงค์ฯ เพื่อขอนำรถดับเพลิงและรถกู้ภัยออกมาซ่อมบำรุง ภายหลังจากนายกรัฐมนตรี ได้ใช้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 51/2559 เรื่องการดำเนินการกับของ ที่เก็บในเขตปลอดอากรและเขตประกอบการเสรี และของที่ใช้เป็นยุทธภัณฑ์เพื่อบรรเทาสาธารณภัย เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่บริษัทนามยงค์ฯ ไม่ให้นำรถออกมา เนื่องจากยังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องค่าเช่าที่ ดังนั้นในวันที่ 3 ต.ค.นี้ กทม.จะฟ้องศาลปกครอง เพื่อให้ศาลคุ้มครองในการขอนำรถดับเพลิงและอุปกรณ์ ซึ่งจอดอยู่ท่าเรือแหลมฉบัง แยกเป็นรถดับเพลิง 67 คัน รถดับเพลิงบรรทุกน้ำขนาด 1 หมื่นลิตร 72 คัน รวม 139 คัน ราคาซ่อมแซมประมาณ 178 ล้าน ออกมาซ่อมบำรุงก่อนนำมาใช้งานกระจายที่สถานีดับเพลิงต่อไป
“ส่วนการเจรจาขอยกเว้นภาษีในส่วนของอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยที่จัดเก็บที่ท่าเรือกรุงเทพ คลองเตย ซึ่งประกอบด้วย ชุดดับเพลิงออกปฏิบัติการ ชุดดับเพลิงเคมี เครื่องช่วยหายใจจำนวน 350 ชุด เครื่องอัดอากาศเครื่องช่วยหายใจจำนวน 5 ชุด และอะไหล่อุปกรณ์อื่นๆ จำนวน 2 ตู้คอนเทนเนอร์ และที่คลังเก็บสินค้าของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นสถานที่เก็บอะไหล่และอุปกรณ์ต่างๆ 3 หีบห่อนั้น กทม.ได้ทำหนังสือขอยกเว้นกับกรมศุลกากรแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณา”รองผู้ว่าฯกทม. กล่าว
ขอบคุณข่าวจาก