ของจริงหรือแค่ไอโอ..."โคโค่นัท บอมบ์"
กระแสเตือน “โคโค่นัท บอมบ์” หรือการประกอบระเบิดแสวงเครื่องใส่ลูกมะพร้าวเพื่ออำพรางสายตาเจ้าหน้าที่ ปรากฏเป็นข่าวสารที่แจ้งกันทางโซเชียลมีเดียมา 2 วัน ล่าสุดก็มีวัตถุต้องสงสัยเป็นลูกมะพร้าวขนาดใหญ่ออกมาสร้างความปั่นป่วนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้แล้ว
เช้าตรู่วันอังคารที่ 27 ก.ย.59 เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 24 ได้รับแจ้งจากผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตลาดนัดคลองขุด ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ว่าพบวัตถุต้องสงสัยวางอยู่บริเวณกำแพงด้านหน้าโรงเรียน เจ้าหน้าที่จึงส่งกำลังเข้าตรวจสอบ พบถุงพลาสติกใส่ขยะสีดำวางอยู่ ด้านในเป็นลูกมะพร้าว 1 ลูก กับทราย คาดว่าเป็นฝีมือพวกก่อกวนสร้างสถานการณ์
ย้อนที่มา...โคโค่นัท บอมบ์
ก่อนหน้านี้ มีข่าวสารแจ้งเตือนของฝ่ายความมั่นคงที่ส่งกระจายกันในโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะแอพพลิเคชั่นไลน์ ระบุว่า ผู้ก่อเหตุรุนแรงเตรียมประกอบระเบิดจำนวน 38 ลูก โดยประกอบใส่ลูกมะพร้าว เพื่อมุ่งก่อเหตุในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองปัตตานี ฉะนั้นให้สังเกตสิ่งผิดปกติ ทั้งลูกมะพร้าว กล่องโฟม กล่องใส่อาหารต่างๆ รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง หรือรถโชเล่ย์ รวมทั้งกองขยะข้างทาง และกรวยยางสีส้มที่ใช้อำนวยการจราจร
เมื่อข่าวการแจ้งเตือนถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้หลายคนให้ความสนใจการประกอบระเบิดในลูกมะพร้าวว่าเป็นเทคนิคใหม่ของผู้ก่อความไม่สงบหรือไม่ บ้างก็สงสัยว่าทำได้จริงหรือเปล่า หรือเป็นเพียงการแจ้งเตือนลวงๆ ในลักษณะปฏิบัติการข่าวสาร ที่เรียกว่า "ไอโอ" (Information operation) โดยมีการเรียกขานระเบิดชนิดนี้ว่า “โคโค่นัท บอมบ์”
ซุกระเบิดในมะพร้าว...ไม่ง่าย
แหล่งข่าวระดับสูงในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดจากหน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิด หรืออีโอดี ที่รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวกับ “ทีมข่าวอิศรา” ว่า เรื่องการประกอบระเบิดลูกมะพร้าวนั้น ในแง่ของความเป็นจริงทำได้ค่อนข้างยาก เพราะด้านในลูกมะพร้าวมีช่องว่างเพียงเล็กน้อย หากทำได้ก็จะเป็นเพียงระเบิดขนาดเล็ก ขณะที่สายไฟและวงจรจุดระเบิดอาจโผล่ออกมาภายนอกให้สังเกตเห็นได้ง่าย ฉะนั้นจึงมีความเป็นไปได้ไม่มากนักที่จะประกอบระเบิดใส่ลูกมะพร้าว หากต้องการทำเพื่ออำพรางสายตาเจ้าหน้าที่ ก็สามารถประกอบระเบิดแสวงเครื่องในวัสดุอื่นได้อีกหลายอย่าง ที่ผ่านมาอีโอดียังไม่เคยพบระเบิดในลูกมะพร้าว
“การแจ้งเตือนที่ปรากฏเป็นข่าว หากเป็นข้อมูลจริงคงไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้าให้รู้ละเอียดแบบนี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นการแจ้งเตือนเฝ้าระวังโดยทั่วไปตามสถานการณ์” แหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากหน่วยอีโอดี ระบุ
ข้อมูลอิรัก-ซุกบึ้มในซากสัตว์ยังเคยมี
ด้าน พล.ต.ท.อัมพร จารุจินดา อดีตผู้บัญชาการสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดและอาวุธปืน กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องการแจ้งเตือน แต่ถ้าถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะประกอบระเบิดในลูกมะพร้าว ก็ตอบว่าเป็นไปได้ เพราะที่อิรักเคยมีการวางในซากสุนัข แมว และสัตว์อื่นๆ ที่ตายเน่ามาแล้ว
แจ้งเตือนผ่านไลน์...ข่าวไม่กรอง
ทั้ง พล.ต.ท.อัมพร และแหล่งข่าวระดับสูงจากหน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิด ยังตั้งข้อสังเกตตรงกันว่า ข่าวสารการแจ้งเตือนที่ปรากฏในโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะไลน์กรุ๊ปต่างๆ ที่ผ่านมาไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือเท่าที่ควร โดยมากข้อมูลมักไม่ถูกต้อง ไม่มีที่มาที่ไปชัดเจน แชร์กันไปเรื่อยโดยไม่มีการตรวจสอบ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดบ่อยครั้ง จึงขอให้ผู้ที่ได้รับข่าวสาร ตรวจสอบข่าวสารที่ได้รับในไลน์ก่อนแชร์หรือส่งต่อด้วยทุกครั้ง
“สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาเวลาได้รับข้อมูลการแจ้งเตือน คือเป็นการเตือนใคร และหน่วยไหนเป็นคนเตือน” พล.ต.ท.อัมพร ระบุ
อย่างไรก็ดี ในประเด็นการแจ้งเตือนนั้น ได้รับการยืนยันจาก พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ว่า มีการแจ้งเตือนเรื่องโคโค่นัท บอมบ์ จริง
“เป็นข้อมูลพื้นฐานทั่วไป เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง อาสาสมัคร และประชาชนช่วยกันเฝ้าระวังด้วยความไม่ประมาท เนื่องจากพฤติกรรมผู้ก่อเหตุพยายามเปลี่ยนรูปแบบตลอดเวลา” พ.อ.วินธัย ระบุ
บุกยึดมอเตอร์ไซค์-ระเบิดจ่อทำ จยย.บอมบ์
ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนใต้ยังค่อนข้างอ่อนไหว โดยในช่วงเช้าวันอังคารที่ 27 ก.ย. เจ้าหน้าที่ชุดอีโอดีนราธิวาส เข้าตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซึ่งเจ้าหน้าที่กรมทหารพรานที่ 45 พบจอดซุกซ่อนอยู่ในป่า ในพื้นที่หมู่ 2 บ้านกลูโฆ ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ปรากฏว่าพบรถจักรยานยนต์ตามที่รับแจ้ง และยังพบระเบิดแสวงเครื่องแบบกล่อง และวงจรระเบิดพร้อมใช้งาน รวมทั้งปืนลูกซอง 5 นัด จำนวน 1 กระบอก ซองกระสุนปืนอาก้า และลูกระเบิดแบบขว้าง 1 ลูก จึงยึดไปตรวจสอบหาที่มา
สำหรับรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยที่พบ เป็นของ นางสุวรรณา พรหมกา ที่ถูกคนร้ายลอบยิงเสียชีวิตในพื้นที่ อ.ระแงะ เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา และคนร้ายชิงรถจักรยานยนต์หลบหนีไปด้วย โดยรถจักรยานยนต์ที่พบ ถูกดัดแปงเปลี่ยนไฟเบอร์และสีสติ๊กเกอร์ติดรถเรียบร้อยหมดแล้ว
กราดยิงร้านส้มตำโคกโพธิ์ทหารเจ็บ 1
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันเสาร์ที่ 24 ก.ย. เวลา 12.50 น. คนร้าย 4 คนมีรถจักรยานยนต์ 2 คันเป็นพาหนะ ใช้อาวุธสงครามกราดยิงร้านส้มตำชื่อ “ช่อมาลี” ในพื้นที่บ้านหัวควน หมู่ 6 ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ทำให้ ส.ท.พีระพงษ์ จากผา อายุ 25 ปี ทหารสังกัดกองพลทหารราบที่ 15 ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดขณะ ส.ท.พีระพงษ์ และเพื่อนกำลังนั่งรับประทานส้มตำกันอยู่
สำหรับคนร้ายกลุ่มเดียวกันนี้ หลังกราดยิงร้านส้มตำแล้ว ได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป และได้ไปก่อเหตุซ้ำ กราดยิงใส่บ้านชาวบ้านอีก 1 หลัง แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ พร้อมทิ้งใบปลิวข่มขู่ชาวไทยพุทธ อ้างว่าเพื่อตอบโต้ทางการที่จับกุมคนบริสุทธิ์
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1-2 วัตถุต้องสงสัยเป็นลูกมะพร้าว พบที่หน้าโรงเรียนใน อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ท่ามกลางกระแสแจ้งเตือนโคโค่นัท บอมบ์
3 อุปกรณ์ประกอบระเบิดที่พบเตรียมทำมอเตอร์ไซค์บอมบ์ ที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส
ขอบคุณ : ภาพจากเจ้าหน้าที่ชุดตรวจที่เกิดเหตุ และหน่วยกู้ชีพกู้ภัย