ร้อง ปธ.บอร์ด-ผอ.‘สทอภ.’ ใช้รถส่วนกลางเป็นส่วนตัว-ฝ่ายกม.ยันเรื่องปกติ แจง สตง.แล้ว
เจ้าหน้าที่'สทอภ.' ทำหนังสือถึง 'ดร.พิเชฐ-รมว.กระทรวงวิทย์ฯ' สอบ 'ปธ.กก.บริหาร-ผู้อำนวยการ' ปมใช้รถยนต์ส่วนกลาง เสมือนรถประจำตำแหน่ง ให้เลขาฯ ทำหนังสือขอทุกต้นเดือน ด้าน ฝ่าย กม. ยันเป็นเรื่องปกติลูกน้องทำเรื่องแทนเจ้านาย เผยผู้บริหารแจง สตง. แล้ว
เมื่อเร็วๆ นี้ แหล่งข่าวจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ สทอภ. หรือ Gistda เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ในช่วงปลายเดือนม.ค.2559 ได้ทำหนังสือถึง ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อให้ตรวจสอบเรื่องการขัดผลประโยชน์ในการดำรงตำแหน่งหน้าที่ของประธานคณะกรรมการบริหาร และผู้อำนวยการ สทอภ. ในการใช้รถตู้ส่วนกลางพร้อมพนักงานขับรถ เป็นรถประจำตำแหน่งตลอดทุกวัน และมีการอนุมัติวงเงินเติมน้ำมันเป็นจำนวน 20,000 บาทต่อเดือนด้วย
" กรณีการใช้รถยนต์ตู้ส่วนกลางของ ผอ.สทอภ. นั้น ได้มีการนำพนักงานขับรถของ สทอภ. และรถยนต์ส่วนกลาง ทะเบียน ชฐ-5663 ไปใช้เป็นรถประจำตำแหน่งตลอดเวลา โดยให้เลขาฯ ผู้ปฏิบัติงานหน้าห้อง เป็นผู้ขออนุมัติใช้รถตั้งแต่เวลา 07.00-00.00 น. ตั้งแต่วันแรกถึงวันสุดท้ายของเดือน โดยระบุสถานที่แบบครอบคลุม คือ กระทรวงวิทย์ฯ สภาพัฒน์ ทำเนียบฯ และอื่น ๆ อยู่ตลอด ทั้งที่ ตัวเลขาฯ ยังคงปฏิบัติงานอยู่ในสำนักงานฯ มิได้เป็นผู้ใช้รถจริง และในหลายกรณี เลขาฯ คนเดียวกันนี้ได้ขอใช้รถส่วนกลางคันอื่นไปยังสถานที่อื่น ๆ ในเวลาเดียวกันด้วย"
แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า พฤติกรรมดังกล่าวทำให้ สทอภ. ต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ซึ่งอาจขัดต่อการได้รับผลประโยชน์ตอบแทนอื่นตามกม. และอาจเป็นการเบียดบังทรัพย์สินของรัฐเพื่อประโยชน์ส่วนตน
"ทั้งนี้ การสั่งการด้วยวาจาอาจไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ว่าด้วยการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ขณะที่ ระบุได้ยื่นเรื่องดังกล่าวต่อศาลปกครองกลาง และ ป.ป.ช. แล้วเมื่อ 1 มี.ค. 2559 ที่ผ่านมา โดยทั้งสองหน่วยงานได้รับเรื่องดังกล่าวไว้ ระบุคดีหมายเลขดำที่ บ.138/2559 และเลขรับที่ 6983 ตามลำดับ" (ดูเอกสารประกอบ)
สำหรับ สทอภ. (Gistda) ปัจจุบันมี รศ.ดร.สมเจตน์ ทิณพงษ์ เป็นประธานกรรมการบริหาร และมี ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เป็นผู้อำนวยการ สทอภ. (ตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน 2559)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังได้รับแจ้งข้อมูลดังกล่าว ได้ติดต่อไปที่ สทอภ. เพื่อให้บุคคลที่มีอำนาจชี้แจงข้อเท็จจริงข้างต้น
โดยนายสรทัศน์ หลวงจอก หัวหน้าฝ่ายภาพลักษณ์องค์กร และประชาสัมพันธ์ ชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวนี้มีประเด็นตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งผู้บริหารได้มีการชี้แจงต่อเจ้าหน้าที่แล้ว รวมถึง มีหน่วยงานราชการเข้ามาตรวจสอบแล้ว อย่างไร ระบุเบอร์โทร.ไว้ได้หรือไม่ แล้วจะติดต่อกลับ ก่อนจะติดต่อกลับมานัดชี้แจงในวันที่ 15 ก.ย. 2559
ต่อมา วันที่ 15 ก.ย. 2559 นายจักรกฤษณ์ ดีแท้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย สทอภ. ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงสำนักข่าวอิศราเพิ่มเติม ระบุว่า การใช้รถของเจ้าหน้าที่ สทอภ. จะไม่มีลักษณะเป็นการใช้รถเพื่อไปเป็นรถประจำตำแหน่ง แต่เป็นการที่ทางสำนักงานฯ จัดรถส่วนกลางให้เพื่อไปปฏิบัติตามภารกิจของสำนักงานฯ เช่น กรณีที่ ผอ. มีภารกิจที่จะต้องเดินทางไปปฏิบัติงานของสำนักงานฯ หรือไปร่วมประชุมที่รัฐสภาฯ เป็นต้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีการร้องเรียนว่า ผู้บริหารระดับสูงขอใช้รถดังกล่าวทุกวันติดต่อกันในช่วงเวลา 07.00-00.00 น. เป็นเวลาหลายเดือน โดยมีการให้เลขาฯ ส่วนตัวทำหนังสือขอใช้รถตั้งแต่วันที่ 1 ถึงวันสิ้นเดือนในทุก ๆ เดือน
เจ้าหน้าที่กฎหมายรายนี้ กล่าวว่า “เรื่องที่ขอเป็นรถคันนี้คันไหนไม่ได้มีขนาดนั้น เพราะว่าการขอใช้จะมีการแจ้งขอไปยังฝ่ายพัสดุ ที่ดูแลเรื่องรถส่วนกลาง แล้วฝ่ายพัสดุก็จะดูให้ว่าวันนั้นรถคันไหนว่างอยู่บ้าง และก็จะจัดคนขับให้ด้วย ส่วนเรื่องที่ระบุสถานที่แบบครอบคลุม นั้น เป็นเรื่องของการดำเนินการเท่านั้น เหมือนกับว่าเป็นการขอไว้เพื่อประโยชน์ในการทำงานเท่านั้นเอง เพราะว่า ภารกิจของทาง ผอ. และท่านประธานฯ มีค่อนข้างมาก เพราะฉะนั้น ถ้าจะให้มีภารกิจปุ๊บ แล้วค่อยขอก็จะกลายเป็นเรื่องเร่งด่วน และไม่ทัน ก็คือจะขอเป็นกรอบกว้าง ๆ ไว้เท่านั้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ในเวลากรอบกว้าง ๆ นั้น จะไม่สามารถนำรถคันนี้ไปใช้งานอย่างอื่นได้ สามารถนำรถไปใช้อย่างอื่นได้เสมอ”
"ต้องเข้าใจด้วยว่า หน่วยงานทำงานในด้านที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องภัยพิบัติ และไม่ใช่เหตุการณ์ที่สามารถจะเดาได้ว่าจะเกิดเมื่อไหร่ คือพอเกิดขึ้นมาก็ฉุกเฉินจริง ๆ เพราะฉะนั้น จะมานั่งขอรถขออะไร แล้วถ้าเกิดไม่ขอ ขอไม่ทัน เอารถไปใช้ อันนี้ก็ยิ่งผิดไปอีก สำหรับกรณีที่เลขาฯ เป็นผู้ขอใช้รถให้กับผู้บริหาร ก็เป็นเรื่องปกติที่ลูกน้องจะทำเรื่องขอต่าง ๆ ให้เจ้านาย ส่วนเรื่องที่เลขาฯ ได้ขอใช้รถคันอื่นในเวลาเดียวกัน นั้น ระบุว่า บางครั้งเลขาฯ ก็ต้องออกไปทำงานนอกสถานที่ด้วย เช่น ออกไปส่งเอกสารสำคัญ เป็นต้น"
เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย สทอภ. ยืนยันว่า ทางผู้บริหารของ สทอภ. ได้ชี้แจงเรื่องดังกล่าวต่อหน่วยงานที่เข้ามาตรวจสอบ อาทิ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แล้ว