6.5 พันล!เจาะรายได้ รอยัลเจมส์ฯ-4 บ.เครือข่าย โดนคดีทัวร์ศูนย์เหรียญใหญ่สุดในไทย
"...หากนับรวมเฉพาะรายได้ ในปี 2558 ของ บริษัท รอยัล เจมส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัทในเครือข่ายอีก 4 แห่ง ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรมสรรพากร ปปง.และเจ้าหน้าที่ทหาร สนธิกำลังนำหมายค้นเข้าตรวจสอบ เมื่อวันที่ 24 ส.ค.59 ที่ผ่านมา จะอยู่ที่ตัวเลข 6,585,827,757.34 บาท.."
ชื่อ บริษัท รอยัล เจมส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัทในเครืออีก 4 แห่ง ประกอบไปด้วย บริษัท บางกอก แฮนดิคราฟท์ เซ็นเตอร์ จำกัด บริษัทโอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด บริษัท รอยัล ไทย เฮิร์บ จำกัด บริษัทรอยัล พาราไดซ์ จำกัด กำลังถูกตรวจสอบอย่างหนัก ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรมสรรพากร ปปง.และเจ้าหน้าที่ทหาร สนธิกำลังนำหมายค้นเข้าตรวจสอบบริษัทฯ เมื่อวันที่ 24 ส.ค.59 ที่ผ่านมา
โดย พลตำรวจตรีสุรเชษฐ หักพาล ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว ระบุว่าบริษัททั้ง 5 แห่งนี้ถือว่าเป็นบริษัททำทัวร์ศูนย์เหรียญ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศโดยมีเครือข่ายซึ่งเป็นร้านค้ากระจายตัว อยู่ในแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ ซึ่งเบื้องต้นพบว่า 1 ใน 5 บริษัทให้บริการรถเช่า มากกว่า 7,000 คัน ทั้งนี้ทางดีเอสไอ สรรพากร กรมการท่องเที่ยว กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และปปง.ได้ตรวจยึดและอายัดเอกสาร ที่เกี่ยวข้องในบริษัท เพื่อนำไปสอบสวนขยายผลหลายรายการ โดยเบื้องต้นเชื่อว่า ทั้ง 5 บริษัทมีเงินหมุนเวียนและทรัพย์สินนับ 10,000 ล้านบาท
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท รอยัล เจมส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด พบว่า จดทะเบียนเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2536 ตั้งอยู่เลขที่ 880/8 ถนนหลวงแพ่ง แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
แจ้งประกอบธุรกิจจำหน่ายอัญมณี เพชร เงิน ทอง เครื่องหนัง ของที่ระลึก ค่านายหน้า ดอกเบี้ยรับ
ปรากฎชื่อ นางนิสา โรจน์รุ่งรังสี เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ
รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ 30 เมษายน 2558 นาย ธงชัย โรจน์รุ่งรังสี และ นาง นิสา โรจน์รุ่งรังสี ถือหุ้นใหญ่ 6 แสนหุ้น (20%) หุ้นที่เหลือกระจายอยู่ในชื่อ นาย ชาติชัย โรจน์รุ่งรังสี นาย วสุรัตน์ โรจน์รุ่งรังสี นางสาว สายทิพย์ โรจน์รุ่งรังสี นาย โอฬาร โรจน์รุ่งรังสี คนละ 4.5 แสนหุ้น
ล่าสุดนำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ณ 31 ธันวาคม 2558 แจ้งว่า มีรายได้รวม 4,120,477,103.88 บาท รวมรายจ่าย 3,803,908,952.80 บาท กำไรสุทธิ 214,325,852.30 บาท
จากการตรวจสอบพบว่า เดิมที่บริษัทแห่งนี้ มีชื่อเดิมว่า บริษัท เจมส์คอลเลคชั่นอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ก่อนจะแจ้งเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น บริษัท รอยัลเจมส์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2550
ส่วนทุนจดทะเบียน ช่วงจัดตั้งบริษัท เมื่อ22 มีนาคม 2536 มีทุน 1 ล้านบาท ก่อนปรับเพิ่มเป็น 10 ล้านบาท เมื่อ 24 กันยายน 2536 และเพิ่มเป็น 30 ล้านบาท เมื่อ 9 ตุลาคม 2544 และเพิ่มเป็น 100 ล้านบาท เมื่อ 28 ตุลาคม 2548 และล่าสุดเพิ่มเป็น 300 ล้านบาท เมื่อ 24 มีนาคม 2558
จากการตรวจสอบพบว่า บริษัท รอยัล เจมส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มีบริษัทในเครืออีกจำนวน กว่า 20 แห่ง
บริษัทที่ยังดำเนินกิจการอยู่ ได้แก่ บริษัท ตลาดน้ำคุ้มเกล้า จำกัด (ทุน 2 ล้าน) , บริษัท บางกอก แฮนดิคราฟท์ เซ็นเตอร์ จำกัด (ทุน 100 ล้าน), บริษัท รอยัล โกลเด้น ดรากอน จำกัด(ทุน 30 ล้าน) , บริษัท รอยัล จอมเทียน บีช จำกัด (ทุน 10 ล้าน), บริษัท รอยัล ดรากอน อิมพอร์ท แอนด์ เอ็กซ์พอร์ท จำกัด (ทุน 250 ล้าน) , บริษัท รอยัล ไทย เฮิร์บ จำกัด (ทุน 150 ล้าน) , บริษัท รอยัล ไทย เฮิร์บ เชียงใหม่ จำกัด (ทุน 1 ล้าน) , บริษัท รอยัล พาร์ค พัทยา จำกัด (ทุน 50 ล้าน) , บริษัท รอยัล พารากอน เชียงใหม่ จำกัด (ทุน 1 ล้าน), บริษัท รอยัล พารากอน รีสอร์ท จำกัด (ทุน 50 ล้าน) , บริษัท รอยัล พารากอน วอทช์ จำกัด (ทุน 75 ล้าน) , บริษัท รอยัล พาราไดซ์ จำกัด (ทุน 60 ล้าน), บริษัท รอยัล ริเวอร์ พาราไดซ์ จำกัด(ทุน 100 ล้าน) , บริษัท โอ.เอ.เอ็กซ์เพรส จำกัด (ทุน 5 ล้าน)
ส่วนบริษัทที่เลิกกิจการไปแล้ว ได้แก่ บริษัท โกลเด้น ทรานสปอร์ต แอนด์ ทัวร์ จำกัด (ทุน 1 ล้าน), บริษัท อานา เอ็กซ์เพรส จำกัด, บริษัท เอเซียวิชั่น ดิวตี้ฟรี ช้อป จำกัด (ไม่เสร็จการชำระบัญชี), บริษัท เอี๋ยวเซอร์วิส จำกัด , บริษัท โอฬาร แลนด์ ดิเวล็อพเม้นท์ จำกัด
หากนับรวมทุนจดทะเบียน บริษัท รอยัล เจมส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัทในเครือข่ายที่ยังทำธุรกิจอยู่ คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,184 ล้านบาท
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท 4 แห่ง ที่ถูกออกหมายค้นครั้งนี้ด้วยนั้น มีดังนี้
บริษัท บางกอก แฮนดิคราฟท์ เซ็นเตอร์ จำกัด
จดทะเบียนจัดตั้ง 5 สิงหาคม 2534 ทุนจุดทะเบียน 100 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 165/1-2 ถนนหลวงแพ่ง แขวงขุมทอง เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
แจ้งประกอบธุรกิจการขายส่งเครื่องหนังและเครื่องใช้สำหรับการเดินทาง
ปรากฎชื่อ นาง นิสา โรจน์รุ่งรังสี เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ นาย ธงชัย โรจน์รุ่งรังสี และนาง นิสา โรจน์รุ่งรังสี ร่วมกันถือหุ้นใหญ่
นำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ณ 31 ธันวาคม 2558 แจ้งว่ามีรายได้รวม 1,109,031,603.10 บาท รวมรายจ่าย 1,010,483,387.07 บาท กำไรสุทธิ 71,629,840.21 บาท
บริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด จดทะเบียนจัดตั้ง 23 มีนาคม 2536 ทุน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 880/1 ถนนหลวงแพ่ง แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
แจ้งประกอบธุรกิจการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า
ปรากฎชื่อ นาย วสุรัตน์ โรจน์รุ่งรังสี เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ นาย ธงชัย โรจน์รุ่งรังสี และนาง นิสา โรจน์รุ่งรังสี ร่วมกันถือหุ้นใหญ่
นำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ณ 31 ธันวาคม 2558 แจ้งว่ามีรายได้รวม 88,636,843.68 บาท รวมรายจ่าย 83,801,397.69 บาท กำไรสุทธิ 3,701,939.13 บาท
บริษัท รอยัล ไทย เฮิร์บ จำกัด
จดทะเบียนจัดตั้ง 16 มิถุนายน 2546 ทุน 150 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 681/8 ถนนหลวงแพ่ง แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
แจ้งประกอบธุรกิจ จำหน่ายอาหารเสริมบำรุงร่างกาย ของชำร่วย ของฝาก ของที่ระลึก ทุกชนิด
ปรากฎชื่อ นาง นิสา โรจน์รุ่งรังสี เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ นาย ธงชัย โรจน์รุ่งรังสี และนาง นิสา โรจน์รุ่งรังสี ร่วมกันถือหุ้นใหญ่
นำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ณ 31 ธันวาคม 2558 แจ้งว่ามีรายได้รวม 1,113,177,151.25 บาท รวมรายจ่าย 1,040,529,903.23 บาท กำไรสุทธิ 47,084,396.91 บาท
บริษัท รอยัล พาราไดซ์ จำกัด
จดทะเบียนจัดตั้ง 11 มีนาคม 2556 ทุน 60 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 165/3 ถนนหลวงแพ่ง แขวงขุมทอง เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจประเภทภัตตาคาร
ปรากฎชื่อ นาง นิสา โรจน์รุ่งรังสี เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ นาย ธงชัย โรจน์รุ่งรังสี และนาง นิสา โรจน์รุ่งรังสี ร่วมกันถือหุ้นใหญ่
นำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ณ 31 ธันวาคม 2558 แจ้งว่า มีรายได้รวม 154,565,055.43 บาท รวมรายจ่าย 142,426,476.10 บาท กำไรสุทธิ 9,040,002.11 บาท
ทั้งนี้ หากนับรวมเฉพาะรายได้ ในปี 2558 ของ บริษัท รอยัล เจมส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัทในเครือข่ายอีก 4 แห่ง ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรมสรรพากร ปปง.และเจ้าหน้าที่ทหาร สนธิกำลังนำหมายค้นเข้าตรวจสอบ เมื่อวันที่ 24 ส.ค.59 ที่ผ่านมา จะอยู่ที่ตัวเลข 6,585,827,757.34 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการตรวจค้นดังกล่าว ทีมข่าวช่อง 7 ระบุว่า เกิดขึ้นหลังจากตำรวจท่องเที่ยว สืบทราบว่าทั้ง 5 บริษัทมีความเกี่ยวพันกับ บริษัทฝูอัน ทราเวล และ บริษัทชิงหยวน ซึ่งเป็น 2 บริษัทนำเที่ยว ที่ถูกบุกจับเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ในข้อหาสวมบัตรประชาชนคนไทย มาประกอบธุรกิจนำเที่ยว
ทั้งนี้ จากการสอบสวนขยายผล ยังพบว่าทั้ง 2 บริษัท ได้ใช้บริการรถนำเที่ยวของบริษัทโอเอ และบริการของบริษัทอีก 4 แห่งในการนำนักท่องเที่ยวจากจีนเข้ามาในประเทศ เพื่อซื้อสินค้าและบริการจากบริษัทในเครือ โดยทางบริษัท จะไม่คิดค่ารถเช่า เพื่อนำเที่ยว แต่จะหักจากรายได้ที่บริษัทต้นทางเรียกเก็บจากนักท่องเที่ยว 30% เป็นค่าใช้จ่ายแทน
ส่วนข้อมูลของ บริษัทฝูอัน ทราเวล และ บริษัทชิงหยวน ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นคดีนี้ มีรายละเอียดเป็นอย่างไรนั้น สำนักข่าวอิศรา จะตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกมานำเสนอในตอนต่อไป