ศาลปกครองสั่งชดใช้ 8.2 แสน ครอบครัว "ฟรุกอน มามะ" ถูกจนท.วิสามัญฯมิชอบ
ศาลปกครองสงขลา สั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จ่ายชดเชยแก่ครอบครัวของ นายฟรุกอน มามะ เยาวชนอายุเพียง 17 ปีที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรม หลังไม่พบหลักฐานการยิงปะทะ และไม่มีข้อมูลยืนยันว่าผู้ตายเป็นแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบ
คดีนี้ ศาลปกครองสงขลาได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาเมื่อ เมื่อวันพุธที่ 31 ส.ค.59 ในคดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่รัฐอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย ในคดีหมายเลขดำที่ 54/2556 ระหว่าง นายมะวาเห็ง มามะ ผู้ฟ้องคดีที่ 1 นางรูฆาย๊ะ มามะ ผู้ฟ้องคดีที่ 2 ซึ่งเป็นบิดากับมารดาของ นายฟรุกอน ผู้ตาย กับกองทัพบก ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 สำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3
คดีนี้สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ ต.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 7 มี.ค.55 และได้วิสามัญฆาตกรรม นายฟรุกอน มามะ เยาวชนอายุ 17 ปี ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ
โดยหลังการวิสามัญฆาตกรรม เจ้าหน้าที่อ้างว่าเป็นการยิงปะทะ เพราะพบปืนอาก้า 1 กระบอก พร้อมซองกระสุนตกอยู่ข้างๆ ศพ และมีลูกระเบิดชนิดขว้าง แบบเอ็ม 26 อยู่ในกระเป๋ากางเกงจำนวน 1 ลูก
แต่ต่อมาเมื่อมีการชันสูตรพลิกศพโดยศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่า ไม่พบสารพันธุกรรม หรือดีเอ็นเอ ของนายฟรุกอนที่ลูกกระสุนปืน ด้ามปืน และไกปืนที่พบอยู่ใกล้ศพ ส่วนลูกระเบิดของกลางอยู่ในสภาพเสื่อม ใช้การไม่ได้ ถึงแม้จะดึงสลักพร้อมห่วงนิรภัยออกจากตัวลูกระเบิดแล้วขว้างออกไป ก็ไม่สามารถทำการระเบิดได้
เมื่อได้ประมวลถ้อยคำพยานบุคคลประกอบกับพยานเอกสารหลักฐานทางราชการ รับฟังได้ว่านายฟรุกอนผู้ตาย ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการก่อการร้าย หรือกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ อีกทั้งในสำนวนคดีก็ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงใดๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์หรือความเกี่ยวข้องระหว่างนายฟุรกอนกับบุคคลตามหมายจับตามที่เจ้าหน้าที่อ้าง อีกทั้งขณะถูกยิง นายฟรุกอนยังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ด้วย ขณะที่บาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืน ก็เป็นบาดแผลจากการยิงเข้าที่กลางหลัง จึงยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะรับฟังได้ว่านายฟุรกนอนยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่
ศาลปกครองสงขลาจึงพิพากษาให้สำนักนายกรัฐมนตรี ชดใช้เยียวยาค่าเสียหายให้แก่ผู้ฟ้องคดีทั้งสอง เป็นค่าปลงศพ และค่าใช้จ่ายจำเป็นอย่างอื่นในการปลงศพ เป็นเงิน 105,500 บาท และค่าขาดไร้อุปการะตามกฎหมาย เป็นเงิน 720,000 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 825,500 บาท พร้อมให้ยกฟ้องผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3
นางรูฆาย๊ะ มามะ มารดาของนายฟรุกอน กล่าวว่า ยังจำชุดที่ลูกชายสวมใส่ก่อนออกจากบ้านและสภาพศพของลูกชายที่ถูกยิงกลางหลังติดตาอยู่จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเสียใจอย่างยิ่งที่ต้องสูญเสียลูกชายไป แต่ก็พอทำให้เกิดความรู้สึกดีขึ้นมาได้บ้างเมื่อศาลมีคำพิพากษาว่าลูกชายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบ และพ้นข้อกล่าวหาในเรื่องอาวุธปืนและระเบิด
มีรายงานว่า ก่อนฟ้องคดีปกครอง ครอบครัวของนายฟรุกอน ได้รับเงินเยียวยาจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. จำนวน 500,000 บาท