ข้อมูลอีกด้าน! กรณีน้ำไม่ท่วม จ.สุโขทัย จากนายแพทย์ จ.สุโขทัย
การที่สุโขทัยน้ำไม่ท่วมในครั้งนี้ไม่ใช่เพราะ “ทะเลหลวง” ทะเลหลวงเป็นแหล่งกักเก็บน้ำที่ถูกขุดขึ้นมาโดยนำเสนอว่าเป็นโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ แต่ในความเป็นจริงแล้วโครงการดังกล่าวใช้เฉพาะแนวคิดเรื่องแก้มลิงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯเท่านั้น แต่ผู้กำหนดสถานที่ในการทำโครงการคือข้าราชการและฝ่ายการเมืองในพื้นที่
เมื่อวันที่ 25 ส.ค.2559 นายแพทย์กวิน ก้านแก้ว นายแพทย์ประจำโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.สุโขทัย ส่งจดหมายอิเลคทรอนิกส์ (อี-เมล) ถึงสำนักข่าวอิศรา สืบเนื่องจากกรณี นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจังหวัดสุโขทัย นายแพทย์กวินมีข้อมูลอีกด้าน สำนักข่าวอิศราเรียบเรียงมาเสนอดังนี้
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวเองก่อนครับ ผมชื่อ กวิน ก้านแก้ว เป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.สุโขทัย พื้นเพเป็นคนกรุงเทพฯแต่มาทำงานที่สุโขทัยกว่า 10 ปีจนรู้สึกว่าเป็นคนสุโขทัยไปแล้ว หลายปีก่อนผมและชาวสุโขทัยเคยชินกับน้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานีที่เกิดขึ้นแทบจะทุกปีจากการล้นของน้ำในแม่น้ำยมเข้าสู่ตัวเมือง การแก้ไขปัญหาที่คุ้นเคยคือการเสริมแนวเขื่อนพนังกั้นแม่น้ำยมให้สูงขึ้นด้วยกระสอบทรายและต้องคอยลุ้นว่าสุดท้ายน้ำจะท่วมหรือไม่ ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักจบลงด้วยน้ำท่วมแทบทุกปีไม่มากก็น้อย จนกระทั่งเมื่อ 3 ปีก่อนชาวสุโขทัยได้พบกับความเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยเห็นมาก่อนคือเมื่อถึงฤดูน้ำหลาก จากที่เคยเห็นสภาพแม่น้ำยมเอ่อสูงแตะระดับพนังกั้นแม่น้ำยมที่เสริมด้วยกระสอบทรายจำนวนมากกลับกลายเป็นว่าระดับน้ำในแม่น้ำยมอยู่ต่ำกว่าระดับพื้นถนนและเป็นครั้งแรกที่ไม่มีการเสริมกระสอบทรายที่พนังกั้นน้ำ ยุคนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยคือ นางสุมิตรา ศรีสมบัติ ผมได้มีโอกาสคุยกับท่านเพื่อสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมปีนี้ทางภาคเหนือฝนก็ตกมากแต่ระดับน้ำในแม่น้ำยมกลับไม่เพิ่มสูงเหมือนทุกปีที่ผ่านมา ท่านตอบว่า
ก็ไม่เห็นจะยากอะไรเลย แม่น้ำยมมีคลองสาขาจำนวนมาก ก็แค่เปิดประตูระบายน้ำให้น้ำไหลไปตามคลองสาขาเท่านี้น้ำก็จะเข้าสู่ตัวเมืองน้อยลงแค่นั้นเอง
หลังจากผลงานชิ้นโบว์แดงที่ท่านทำให้สุโขทัยน้ำไม่ท่วม สิ่งที่ท่านได้รับคือท่านถูกสั่งย้ายเข้ากรุไปเป็นผู้ตรวจราชการท่ามกลางความคลางแคลงใจของชาวสุโขทัยว่าเกิดอะไรขึ้น
พร้อมกับข่าวลือว่าที่โดนเด้งเพราะมีคนไม่พอใจที่ท่านทำให้น้ำไม่ท่วมสุโขทัยจึงไม่มีงบน้ำท่วมมาเหมือนทุกปี และข่าวลือที่ว่าทุกปีที่น้ำท่วมเพราะประตูระบายน้ำถูกปิดเพื่อไม่ให้น้ำถูกระบายออกไปตามคลองสาขาด้วยความตั้งใจของใครบางคน หลังจากที่ท่านได้ย้ายไปแล้ว สุโขทัยก็กลับสู่วังวนเดิมอีกคือต้องลุ้นน้ำท่วมกันเช่นเดิม จนกระทั่งเข้าสู่ยุคของ คสช. พลตรีผดุง ยิ่งไพบูลย์สุข ได้เข้ามาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของสุโขทัยอีกครั้ง ท่านได้รับมอบหมายจากกองทัพให้มาดูแลเรื่องการบริหารจัดการน้ำของจังหวัดสุโขทัย และช่างโชคดีเหลือเกินที่ชาวสุโขทัยได้ท่านมาดูแล เพราะท่านเป็นคนที่มีความตั้งใจจริงและลงมือทำงานด้วยตนเอง ทั้งการเดินสำรวจพื้นที่ พูดคุยกับข้าราชการที่เกี่ยวข้องและประชาชนในพื้นที่จนกล่าวได้ว่าท่านเป็นผู้ที่รู้ลึกรู้จริงในเรื่องน้ำของสุโขทัยมากที่สุด ท่านได้เข้ามาบริหารจัดการเรื่องนี้ด้วยการใช้กำลังพลของทหารร่วมกับข้าราชการและประชาชนในพื้นที่โดยไม่ได้ของบประมาณจำนวนมากเพื่อทำโครงการใหญ่โตแต่ประการใด แต่ใช้วิธีการปรับปรุงซ่อมแซมเครื่องมือบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่เดิมแต่ขาดการเหลียวแล สิ่งที่เกิดขึ้นคือท่านสามารถควบคุมระดับน้ำในแม่น้ำยมในช่วงฤดูน้ำหลากได้เป็นอย่างดี ทำให้น้ำไม่ท่วมในเขตเมืองขณะที่พื้นที่ทางการเกษตรก็ได้รับผลกระทบไม่มากนัก และเหตุการณ์ลักษณะเดิมก็เกิดขึ้นอีกครั้งคือท่านถูกสั่งย้ายให้ไปประจำการที่จังหวัดตากท่ามกลางข่าวลือว่าเป็นใบสั่งเช่นเดิมแต่ครั้งนี้ชาวสุโขทัยยังโชคดีเพราะนายทหารที่ได้รับมอบหมายให้มาทำหน้าที่แทนคือ พลตรีทรงวุฒิ จิตตานนท์ ท่านเป็นคนที่มีความตั้งใจจริงและสามารถสานต่องานที่ท่านพลตรีผดุงได้ทำไว้ได้เป็นอย่างดี และเมื่อถึงวิกฤตน้ำหลากที่ผ่านมาท่านพลตรีทรงวุฒิได้ใช้กำลังพลของท่านร่วมกับเจ้าหน้าที่ชลประทาน “ระดับปฏิบัติการ” และประชาชนในพื้นที่เข้ามาบริหารจัดการโดยการสนับสนุนช่วยเหลือของท่านพลตรีผดุงทำให้สุโขทัยรอดพ้นจากน้ำท่วมไปได้ทั้งที่มีปริมาณน้ำหลากมาจากจังหวัดแพร่จำนวนมาก
ข้อเท็จจริงที่คลาดเคลื่อนไปจากที่สาธารณชนส่วนใหญ่รับทราบมี 2 ประการคือ
ประการแรก การที่สุโขทัยน้ำไม่ท่วมในครั้งนี้ไม่ใช่เพราะ “ทะเลหลวง” ทะเลหลวงเป็นแหล่งกักเก็บน้ำที่ถูกขุดขึ้นมาโดยนำเสนอว่าเป็นโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ แต่ในความเป็นจริงแล้วโครงการดังกล่าวใช้เฉพาะแนวคิดเรื่องแก้มลิงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯเท่านั้น แต่ผู้กำหนดสถานที่ในการทำโครงการคือข้าราชการและฝ่ายการเมืองในพื้นที่
(รายละเอียดตามลิงก์นี้ https://www.facebook.com/kawinkan/posts/1295651300445827 และ https://www.facebook.com/kawinkan/posts/1297870420223915?pnref=story )
และเช่นเดียวกันคือบิ๊กแบ็กก็ไม่ใช่พระเอกในครั้งนี้ด้วยแต่บิ๊กแบ็กคือสิ่งที่สะท้อนถึงการไม่วางแผนแก้ไขปัญหาอย่างรอบคอบ
ประการที่ 2 คือ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยที่ได้รับคำชื่นชมว่าเป็นฮีโร่ในการแก้ไขปัญหาครั้งนี้แท้จริงแล้ว ผมได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ชลประทานระดับปฏิบัติการและทหารที่เกี่ยวข้องได้รับข้อมูลที่ตรงกันว่า ถ้าทีมของท่านพลตรีทรงวุฒิและพลตรีผดุงไม่แข็งขืนยืนหยัดที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง ป่านนี้น้ำคงท่วมสุโขทัยมิดเมืองไปเรียบร้อยแล้ว เพราะมีคำสั่งด้วยวาจาจากผู้ใหญ่ในจังหวัดให้ทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับที่ควรจะเป็น ซึ่งทำให้ทหารต้องจัดกำลังพลเฝ้าประตูระบายน้ำในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง จะด้วยเหตุผลประการใดก็มิอาจทราบได้
การที่สุโขทัยรอดพ้นวิกฤตน้ำท่วมในครั้งนี้จริงๆแล้วเป็นเพราะทหารครับ ทหารผู้ปิดทองหลังพระจนประชาชนธรรมดาอย่างผมรู้สึกทนไม่ไหวที่จะให้ความดีของท่านเหล่านั้นถูกมองข้ามไปเป็นของคนอื่น จึงต้องลุกขึ้นมาช่วยเป็นกระบอกเสียงให้ทางโซเชียลมีเดีย ถึงแม้จะเป็นแค่เสียงเล็กๆที่ไม่ค่อยจะมีใครได้ยินหรือสนใจ แต่ก็รู้สึกดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่ผลงานการทำความดีของข้าราชการที่ดีซึ่งได้ทำเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมอย่างแท้จริงโดยไม่ได้หวังผลประโยชน์ใดตอบแทนให้กับตนเองเลย