เปิดตัว "อาหามะ เลงฮะ" หนุ่มเกาะสะท้อน ตากใบ โดนหมายจับคดีระเบิดภูเก็ต
เหตุลอบวางระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้นั้น ผ่านมาแล้ว 1 สัปดาห์เศษ มีการเรียกตัวผู้ต้องสงสัยไปซักถามและสอบข้อมูลหลายสิบคน ล่าสุดมีการขอหมายจับจากศาลทหารรวม 17 คน ทว่าไปๆ มาๆ เจ้าหน้าที่กลับให้ข้อมูลว่า คนเหล่านั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด
กลายเป็นการจับซ้อนคนละคดีกันในห้วงที่สังคมให้ความสนใจกับคดีระเบิด 7 จังหวัดจนสร้างความสับสน โดยบุคคลที่ถูกออกหมายจับโดยศาลทหาร 17 คน แต่ภายหลังเหลือ 15 คนนั้น กลายเป็นกลุ่มที่โดนแจ้งข้อหาอั้งยี่ วางแผนเตรียมปฏิบัติการต่อต้านรัฐบาลหลังประชามติร่างรัฐธรรมนูญ
ส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบนจริงๆ และเชื่อมโยงกับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย จนถึงขณะนี้มีเพียง 1 คน และถูกออกหมายจับแล้ว คือ นายอาหามะ เลงฮะ ชาว ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส
ชื่อของ นายอาหามะ ถูกพูดถึงตั้งแต่วันจันทร์ที่ 15 ส.ค.59 โดยตำรวจพบหลักฐานสำคัญ เป็นดีเอ็นเอจากวัตถุระเบิดที่พบใน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต หนึ่งในจังหวัดที่มีการก่อวินาศกรรมในห้วงเวลาใกล้เคียงกัน คือวันที่ 10-12 ส.ค.
ต่อมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เสนอหลักฐานต่อศาลทหารมณฑลทหารบกที่ 41 เพื่อขออนุมัติหมายจับ นายอะหามะ เลงฮะ
ล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 ส.ค.59 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ออกมาตอกย้ำประเด็นนี้ว่า จนถึงขณะนี้ คดีระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน มีผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับแล้วเพียงคนเดียว คือ นายอาหามะ เลงเฮะ
กลายเป็นคำถามว่าคนผู้นี้คือใคร?
รู้จัก "อาหามะ" ผู้ต้องหาโยงบึ่ม 7 จังหวัด
“ทีมข่าวอิศรา” ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า นายอาหามะ เลงฮะ อายุ 35 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 1 ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ ประวัติเคยถูกออกหมาย ฉฉ. หรือ หมายจับที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) เมื่อปี 2551 ในคดีต้องสงสัยมีพฤติการณ์เป็นแนวร่วมก่อความไม่สงบในพื้นที่
แหล่งข่าวซึ่งเป็นนายทหารระดับสูงจาก จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า นายอาหามะ ถูกซัดทอดในคดีความมั่นคง จึงถูกออกหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ตั้งแต่ปี 2551 และเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตัวให้เข้าพบหลายครั้งแล้ว แต่ไม่ยอมเข้าพบเจ้าพนักงาน
ทั้งนี้ นายอาหามะ ทำงานอยู่ในโรงงานปุ๋ยแห่งหนึ่ง ในประเทศมาเลเซีย อยู่ห่างจาก ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ ประมาณ 15 กิโลเมตร การเดินทางต้องลงเรือไป โดยไปทำงานตลอดสัปดาห์ กลับบ้านทุกๆ วันศุกร์
ช่วงปี 58-59 นายอาหามะ ได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เพื่อขอเข้าโครงการพาคนกลับบ้าน จะได้ปลดหมาย พ.ร.ก. โดยมีนัดกับเจ้าหน้าที่ทหารเมื่อไม่กี่วันมานี้ แต่ปรากฏว่าเจ้าตัวถูกออกหมายจับในคดีระเบิดที่ จ.ภูเก็ต เสียก่อน จึงไม่ได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ทหาร
เปิดหลักฐานเจ้าหน้าที่โยง "อาหามะ"
สำหรับหลักฐานเชื่อมโยงกับระเบิดที่พบที่ จ.ภูเก็ต นั้น นอกจากหลักฐานดีเอ็นเอที่พบบนชิ้นส่วนระเบิดจะตรงกับดีเอ็นเอของนายอาหามะแล้ว ยังมีหลักฐานจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือซีซีทีวี ที่จับภาพผู้ต้องสงสัยลอบวางระเบิดที่ ต.ป่าตอง จ.ภูเก็ต ไว้ได้ด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจเทียบแล้วมีความคล้ายคลึงกับ นายอาหามะ จึงมีการเสนอหลักฐานขออนุมัติต่อศาลออกหมายจับตามที่เป็นข่าว
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้นำข้อมูลหมายจับ นายอาหามะ เข้าสู่ระบบ polis เพื่อป้องกันการเดินทางเข้า-ออกราชอาณาจักรแล้ว และได้ส่งหนังสือไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองทุกด่วน ให้เฝ้าระวังการเดินทางผ่านด่านของนายอาหามะด้วย
แกนนำเหยื่อตากใบชี้ "อาหามะ" คนดี
นางยะนะ สะแลแม แกนนำเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ตากใบ (เหตุการณ์สลายการชุมนุมที่หน้าโรงพักตากใบ เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2547 มีผู้เสียชีวิต 85 คน บาดเจ็บจำนวนมาก) กล่าวว่า รู้จักนายอาหามะ เพราะทำงานภาคประชาสังคมกับบางกลุ่มที่ทำงานในพื้นที่ ส่วนการทำงานหาเลี้ยงชีพนั้น นายอาหามะทำงานที่มาเลเซีย เดินทางไปๆ กลับๆ ระหว่างบ้านที่ตากใบ กับโรงงานที่มาเลเซีย
“มะ (นายอาหามะ) เป็นคนทำงานเพื่อสังคม ลงพื้นที่ช่วยชาวบ้านกับภาคประชาสังคมตลอด เท่าที่รู้จักเขาเป็นคนดี ขยัน ไม่เคยมีประวัติเรื่องแบบนี้ ไม่เคยมีคดี ไม่เคยถูกจับ ไม่เชื่อว่าเขาจะทำ ชาวบ้านแถวนี้ก็ไม่เชื่อ แต่ถ้าพูดถึงเกาะสะท้อน ทุกคนก็จะรู้ว่าที่นั่นมีชาวบ้านที่ร่วมขบวนการเยอะ (หมายถึงขบวนการที่อ้างอุดมการณ์แบ่งแยกดินแดน) เจ้าหน้าที่อาจจะใช้ข้อมูลส่วนนี้ก็ได้ จึงสงสัยมะ” นางแยนะ กล่าว
ครอบครัวตกใจ-เตรียมขอความเป็นธรรม
จากการสอบถามไปยังครอบครัวของนายอาหามะ ปรากฏว่าพ่อของนายอาหามะเพิ่งทราบเรื่อง รวมทั้งภรรยาด้วย โดยเขามีลูก 3 คน พ่อของอาหามะบอกกับคนที่ไปสอบถามหลังทราบข่าวจากสื่อมวลชนเรื่องหมายจับว่า นายอาหามะอยู่มาเลเซีย ยังไม่กลับมา
“ทุกคนไม่เชื่อกับเรื่องที่ถูกกล่าวหา และตกใจมากกับข่าวที่ออกมา” คนใกล้ชิดของนายอาหามะ ระบุ พร้อมเผยว่าทางครอบครัวอาจเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับแม่ทัพภาคที่ 4 หรือเจ้าหน้าที่ระดับสูงในพื้นที่ เพราะเชื่อว่านายอาหามะไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : ข้อมูลของนายอาหามะ จากฐานข้อมูลของศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า