ผ่ารูปแบบระเบิดเขย่าภาคใต้
เหตุรุนแรงป่วนภาคใต้ครั้งนี้เกิดขึ้นทั้งหมด 7 จังหวัด คือ ตรัง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ พังงา ภูเก็ต และประจวบคีรีขันธ์
สัญญาณร้ายปรากฏตั้งแต่เมื่อเย็นวันพุธที่ 10 ส.ค.59 เมื่อพบระเบิดแสวงเครื่องที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต แต่ไม่เป็นข่าว เพราะต่อวงจรไม่สมบูรณ์ กระทั่งเกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงกลางเมืองตรัง เมื่อบ่ายวันพฤหัสบดีที่ 11 ส.ค. มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีกนับสิบ และตามมาอีกหลายจุดในหลายจังหวัด โดยเฉพาะหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
ความโกลาหลปั่นป่วนล่วงเลยมาจนถึงวันศุกร์ที่ 12 ส.ค. มีระเบิดเกิดขึ้นทั้งสิ้น 13 จุด เพลิงไหม้ตลาด แผงค้า และซุปเปอร์มาร์เก็ตอีก 5 จุด ทำให้ผู้คนในสังคมตื่นตระหนกกันถ้วนหน้า
เหตุรุนแรงที่พบแยกเป็น 2 รูปแบบ คือ “ระเบิด” กับ “เพลิงไหม้”
ข้อมูลที่ “ทีมข่าวอิศรา” ได้รับมาพบว่า เหตุเพลิงไหม้ทั้งหมดก็น่าจะมาจากการวางระเบิดในรูปแบบของ “ระเบิดเพลิง” ที่ก่อให้เกิดประกายไฟและเพลิงลุกไหม้ตามมา
ระเบิดกลุ่มนี้เกือบทั้งหมดเป็นแบบตั้งเวลาด้วยนาฬิกาดิจิตอล ประกอบอย่างง่ายไว้ในภาชนะที่กลมกลืนกับสถานที่ที่นำไปวาง หลักฐานที่พบก็เช่น กระป๋องมันฝรั่ง ที่ห้างโลตัส นครศรีธรรมราช, กระป๋องยาฉีดฆ่าแมลง พบที่ จ.ภูเก็ต
ในภาชนะอาจบรรจุน้ำมันเชื้อเพลิงหรือแอลกอฮอล์ที่ติดไฟง่าย เมื่อจุดชนวนจะเกิดประกายไฟ และเกิดเพลิงไหม้ โดยไม่ได้มุ่งให้เกิดเสียงดัง
ระเบิดอีกกลุ่มหนึ่ง คือระเบิดที่ทำให้เกิดเสียง ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นระเบิดสังหารที่มีสะเก็ดระเบิดทำให้คนบาดเจ็บล้มตาย ระเบิดกลุ่มนี้เจ้าหน้าที่พบว่า เป็นระเบิดแสวงเครื่องที่ใช้โทรศัพท์มือถือจุดระเบิดเกือบทั้งหมด ซึ่งการจุดระเบิดสามารถทำได้ทั้งการโทรเข้าไป หรือตั้งเวลาจากนาฬิกาในโทรศัพท์ เช่น ระเบิดที่ตลาดกลางเมืองตรัง, ระเบิดที่ย่านธุรกิจในหัวหิน
สะเก็ดระเบิดที่ใช้ เกือบทั้งหมดเป็น “บอล แบริ่ง” หรือลูกเหล็กทรงกลม ซึ่งการประกอบระเบิดรูปแบบนี้ ใช้สะเก็ดระเบิดชนิดเดียวกับเหตุระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ เมื่อ 17 ส.ค.ปีที่แล้ว และคล้ายคลึงกับระเบิดการเมืองในช่วงชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553
ในกลุ่มระเบิดที่ทำให้เกิดเสียงดัง มีบางจุดใช้นาฬิกาตั้งเวลาเหมือนกัน เพราะไม่ได้หวังผลทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตาย แต่ทำให้เกิดระเบิดเพื่อดึงเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ เปิดพื้นที่ว่างตรงจุดที่ต้องการให้เกิดระเบิดแบบหวังผลจริงๆ ระเบิดแบบนี้พบบางจุด เช่น ที่หน้ากองกำกับการตำรวจน้ำ อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี
สิ่งที่เจ้าหน้าที่หน่วยพิสูจน์หลักฐาน รวมทั้งชุดอีโอดีรออยู่ในขณะนี้ คือผลตรวจดินระเบิดที่คนร้ายใช้ว่าเป็นชนิดใดกันแน่ เพราะจะทำให้พอระบุกลุ่มผู้ก่อการได้ว่าเป็นกลุ่มใด โดยพิจารณาจากลักษณะของดินระเบิดที่ใช้
จากระเบิดบางส่วนที่ยึดได้ที่ภูเก็ต พบการต่อสายไฟเชื่อมกับปลั๊กไฟเรียบร้อย เพียงแต่ยังไม่มีแผงวงจรและตัวจุดระเบิดมาต่อให้ครบเท่านั้น ทำให้เชื่อได้ว่าผู้ที่จัดหาภาชนะประกอบระเบิดอาจเป็นคนในท้องถิ่น แต่วงจรและตัวจุดระเบิดถูกส่งมาจากที่อื่น แต่เป็นแหล่งเดียวกันหมด แล้วกระจายของไปตามพื้นที่ต่างๆ
ฉะนั้นเสียงระเบิดที่เงียบลงชั่วคราวในขณะนี้ อาจไม่ใช่การเงียบสงบอย่างถาวร!
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : ระเบิดที่ประกอบใส่กระป๋องยาฉีดฆ่าแมลง เจ้าหน้าที่ชี้ว่าเป็นระเบิดเพลิง