ถึงคิวชำแหละ‘มงคลเศรษฐี’! รับฝากเงินสหกรณ์จุฬาฯ200ล.-โยงอดีต ผช.รมต.?

เขียนวันที่

วันศุกร์ ที่ 12 สิงหาคม 2559 เวลา 15:23 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

รายงาน-สกู๊ป | ข่าวบุคคลดัง | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา

“…หนังสือที่ลงนามโดยนายศุภชัย ขอให้สหกรณ์จุฬาฯ ฝากเงินกับสหกรณ์มงคลเศรษฐีฯ ครั้งแรก 300 ล้านบาท ทำไมถึงมีการแนบนามบัตรของนายจิรเดช ซึ่งเป็นผู้ช่วย รมว.คลัง (ขณะนั้น) มาด้วย ต้องการแสดงให้เห็นถึงอะไร ?ที่สำคัญปัจจุบันนายจิรเดช เป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาคดีฟอกเงินของเครือข่ายสหกรณ์คลองจั่นฯ ร่วมกับนายวัฒน์ชานนท์ นวอิสรารักษ์ ประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนรัฐประชา โดยได้รับเช็คจากนายศุภชัยหลายฉบับ ดีเอสไอสรุปความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 6.8 พันล้านบาทอีกต่างหาก…”

PIC jiradettt 12 8 59 1

นอกเหนือจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่มีปัญหาในการทำธุรกรรมทางการเงินกับสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่งผลให้ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีกว่าพันล้านบาท และถูกสมาชิกบางกลุ่มตั้งข้อสังเกตเรื่องการปล่อยเงินกู้ และการฝากเงิน ส่งผลให้มีการยื่นเรื่องไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินการสอบสวนแล้วนั้น

(อ่านประกอบ : คลี่ปมสหกรณ์จุฬาฯโดน‘คลองจั่น’ เบี้ยวเงินพันล.! ก่อนถูกร้องดีเอสไอสอบ)

สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคลเศรษฐี ก็เป็นสหกรณ์อีกหนึ่งแห่งที่ถูกสมาชิกสหกรณ์จุฬาฯ ยื่นเรื่องให้ดีเอสไอเข้าไปสอบสวนด้วย !

เนื่องจากในขั้นตอนการทำธุรกรรมฝากเงิน+ดอกเบี้ยรวม 215 ล้านบาทนั้น พบประเด็นน่าสงสัยหลายประการ และปัจจุบันก็ยังไม่ได้รับชำระหนี้คืน แต่อยู่ระหว่างขั้นตอนไกล่เกลี่ยเจรจาในชั้นศาล โดยสหกรณ์มงคลเศรษฐีฯ ขอชดใช้เป็นหุ้นในบริษัท สหประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) มูลค่าหุ้น 190 ล้านบาท ส่งผลให้สหกรณ์จุฬาฯ ต้องตั้งค่าเผื่อหนี้จะสูญไว้ประมาณ 25 ล้านบาท

(อ่านประกอบ : สหกรณ์จุฬาฯฟ้อง‘มงคลเศรษฐี’เรียกเงินฝากคืน 215 ล.ส่อสูญ-เอาหุ้นใช้หนี้, สหกรณ์จุฬาฯถือหุ้น'สหประกันชีวิต' ด้วย-ก่อนฟ้อง'มงคลเศรษฐี'เรียกคืน 215 ล.)

ที่น่าสนใจคือ ในการยื่นเรื่องให้ดีเอสไอตรวจสอบกรณีนี้ ปรากฏชื่อของนายจิรเดช วรเพียรกุล อดีตผู้ช่วย รมว.คลัง (สมัยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ?

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org สรุปข้อเท็จจริงการทำธุรกรรมระหว่างสหกรณ์จุฬาฯ ฝากเงินสหกรณ์มงคลเศรษฐีฯ 215 ล้านบาท (รวมดอกเบี้ย) พบข้อเท็จจริง ดังนี้

เมื่อปลายปี 2555 นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานสหกรณ์มงคลเศรษฐี (ขณะนั้น ควบตำแหน่งประธานสหกรณ์คลองจั่นฯด้วย) ทำหนังสือถึงคณะกรรมการสหกรณ์จุฬาฯ ชุดที่ 52 (รศ.ดร.สวัสดิ์ แสงบางปลา เป็นประธาน และ รศ.ดร.บัญชา ชลาภิรมย์ เป็นที่ปรึกษา ขณะนั้น) ขอรับฝากเงินครั้งแรกจำนวน 300 ล้านบาท ระยะเวลา 12 เดือน ดอกเบี้ย 6% ต่อปี

อย่างไรก็ดี ผศ.พงษ์ศักดิ์ กรรณล้วน เลขานุการสหกรณ์จุฬาฯ (ขณะนั้น) ไม่เสนอเรื่องเข้าสู่กระบวนการ เนื่องจากพบว่า ไม่มีหลักทรัพย์ใดมาค้ำประกัน ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการฯ เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2555 ที่ระบุว่า สหกรณ์ประเภทอื่นที่ไม่ใช่ออมทรัพย์ ต้องมีหลักทรัพย์จำนองเป็นประกันเงินฝาก ทำให้คณะกรรมการสหกรณ์จุฬาฯ ไม่ได้พิจารณาเรื่องนี้

นอกจากนี้ในการยื่นหนังสือขอรับฝากเงินดังกล่าว ยังมีการแนบนามบัตรของนายจิรเดช วรเพียรกุล ผู้ช่วย รมว.คลัง (ขณะนั้น) มาด้วย

ต่อมาเมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2556 นายศุภชัย ได้ทำหนังสือเสนอมาอีกครั้ง ขอรับฝากเงิน 300 ล้านบาท ระยะเวลา 12 เดือน อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 6% ต่อปี

ถัดจากนั้น 2 วัน เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2556 คณะกรรมการสหกรณ์จุฬาฯ ชุดที่ 53 เข้ารับตำแหน่ง มี รศ.ดร.บัญชา เป็นประธานฯ และ รศ.ดร.สวัสดิ์ เป็นที่ปรึกษา

ต่อมาเมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2556 คณะกรรมการสหกรณ์จุฬาฯ ชุดที่ 53 มีมติให้ยกเลิกมติคณะกรรมการฯ เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2555 ที่ให้สหกรณ์ประเภทอื่นที่ไม่ใช่ออมทรัพย์ต้องมีหลักทรัพย์จำนองประกันเงินฝาก พร้อมกับอนุมัติฝากเงินแก่สหกรณ์มงคลเศรษฐีฯ 200 ล้านบาท ระยะเวลา 12 เดือน ดอกเบี้ย 6% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน โดยให้โอนเข้าบัญชีสหกรณ์จุฬาฯ ที่ธนาคารกรุงไทย

หลังจากนั้นเมื่อเดือน ต.ค. 2556 สหกรณ์มงคลเศรษฐีฯ ขอเปลี่ยนแปลงการจ่ายดอกเบี้ยทุกหเดือน จากเดิมโอนเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย เป็นนำฝากเข้าบัญชีที่สหกรณ์จุฬาฯ ฝากเงินไว้กับสหกรณ์มงคลเศรษฐีฯแทน เป็นการแก้ปัญหาที่ไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยให้สหกรณ์จุฬาฯได้ตามสัญญา

ต่อมาเมื่อเดือน ธ.ค. 2556 ในช่วงที่สหกรณ์คลองจั่นฯ ผิดนัดชำระหนี้แก่สหกรณ์จุฬาฯ 4 งวดแรก สหกรณ์มงคลเศรษฐีฯ ได้เสนอขอกู้เงินจำนวน 100 ล้านบาท โดยเสนอหลักทรัพย์ค้ำประกัน และมีการสำรวจประเมินราคา ทว่าไม่เข้าเกณฑ์ที่จะรับจำนอง สหกรณ์จุฬาฯ จึงมีมติชะลอการให้กู้เงิน 100 ล้านบาทดังกล่าว

หลังจากนั้นเมื่อ ก.พ. 2557 สหกรณ์มงคลเศรษฐีฯ มีหนังสือขอให้สหกรณ์จุฬาฯ ฝากเงินต่อ 200 ล้านบาท ทั้งที่ยังไม่ครบกำหนด 12 เดือน ถัดจากนั้นเดือนเดียว มี.ค. 2557 คณะกรรมการสหกรณ์จุฬาฯ ชุดที่ 53 อนุมัติให้ฝากเงินต่อ โดยเปลี่ยนแปลงให้จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน (เดิมจ่ายทุกเดือน)

ต่อมาเมื่อ ม.ค. 2558 รศ.ดร.บัญชา ที่ปรึกษาคณะกรรมการสหกรณ์จุฬาฯ และ รศ.ดร.สวัสดิ์ ผู้จัดการ และหัวหน้าฝ่ายสินเชื่อฯ เดินทางไปที่สหกรณ์มงคลเศรษฐีฯ เพื่อขอให้นำหลักทรัพย์มาค้ำประกันเงินฝาก เพราะเกรงว่าจะมีปัญหาจากการที่ได้ยกเลิกมติคณะกรรมการฯ เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2555 ที่เกี่ยวกับหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินฝาก แต่ตกลงกันไม่ได้

ต้นเดือน ก.พ. 2558 สหกรณ์มงคลเศรษฐีฯ ขอให้สหกรณ์จุฬาฯ ฝากเงินต่อ 200 ล้านบาท อีก 12 เดือน ต่อมาต้นเดือน ก.พ. 2558 คณะกรรมการสหกรณ์จุฬาฯ ชุดที่ 54 (รศ.ดร.บัญชา ประธาน รศ.ดร.สวัสดิ์ ที่ปรึกษา) ไม่อนุมัติ และให้ถอนคืนทั้งหมด 215 ล้านบาท (รวมดอกเบี้ย 15 ล้านบาท)

หลังจากนั้นปลายเดือน ก.พ. 2558 สหกรณ์จุฬาฯ ได้ฟ้องสหกรณ์มงคลเศรษฐีฯ และคณะกรรมการฯ เพื่อบังคับคดีให้ชำระหนี้ เป็นจำนวนเงิน 215,478,224 บาท ก่อนที่ศาลจะนัดไกล่เกลี่ย โดยมีผลสรุปได้ทำนองว่า

สหกรณ์มงคลเศรษฐีฯ มีเงื่อนไขให้ถอนฟ้อง และยกเลิกการค้ำประกันส่วนบุคคลของกรรมการสหกรณ์มงคลเศรษฐีฯ โดยอ้างว่า เป็นลายเซ็นปลอม ขณะที่สหกรณ์จุฬาฯ ขอให้โอนหุ้นบริษัท สหประกันชีวิตฯ ที่สหกรณ์มงคลเศรษฐีฯ ถืออยู่ 190 ล้านบาท มาชดใช้ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างศาลจังหวัดธัญบุรีพิจารณานัดแรก ในวันที่ 14 ก.ย. 2559

สำหรับเงื่อนปมในการทำธุรกรรมฝากเงินครั้งนี้ มีข้อสังเกตอยู่ 4 ประการ

หนึ่ง หนังสือที่ลงนามโดยนายศุภชัย ขอให้สหกรณ์จุฬาฯ ฝากเงินกับสหกรณ์มงคลเศรษฐีฯ ครั้งแรก 300 ล้านบาท ทำไมถึงมีการแนบนามบัตรของนายจิรเดช ซึ่งเป็นผู้ช่วย รมว.คลัง (ขณะนั้น) มาด้วย ต้องการแสดงให้เห็นถึงอะไร ?

ที่สำคัญปัจจุบันนายจิรเดช เป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาคดีฟอกเงินของเครือข่ายสหกรณ์คลองจั่นฯ ร่วมกับนายวัฒน์ชานนท์ นวอิสรารักษ์ ประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนรัฐประชา โดยได้รับเช็คจากนายศุภชัยหลายฉบับ ดีเอสไอสรุปความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 6.8 พันล้านบาทอีกต่างหาก

(อ่านประกอบ : โชว์หนังสืออัยการชงสอบเพิ่ม! เบื้องหลัง‘ศุภชัย-วัฒน์ชานนท์-อดีตผช.รมต.’ โดนคดีฟอกเงิน, ‘วัฒน์ชานนท์-อดีต ผช.รมต.คลัง’โดนแล้ว! ดีเอสไอสอบคดีฟอกเงิน6.8พันล.)

สอง ในช่วงก่อนหน้านี้ เลขานุการสหกรณ์จุฬาฯ ไม่ได้ยื่นเรื่องการฝากเงินให้กับคณะกรรมการสหกรณ์จุฬาฯ พิจารณา เพราะเห็นว่า ขัดกับมติคณะกรรมการฯชุดเก่า เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2555 เนื่องจากการฝากเงินกับสหกรณ์อื่นที่ไม่ใช่ประเภทออมทรัพย์ จะต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันด้วย
ทว่าเมื่อคณะกรรมการสหกรณ์จุฬาฯ ชุดที่ 52 (รศ.ดร.บัญชา ประธาน รศ.ดร.สวัสดิ์ ที่ปรึกษา) กลับมีมติยกเลิกมติคณะกรรมการฯชุดเก่า เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2555 ทิ้งเสีย และมีมติฝากเงินแก่สหกรณ์มงคลเศรษฐีฯ 200 ล้านบาท

ตรงนี้มีเหตุผลอะไรในการยกเลิกมติคณะกรรมการฯชุดเก่าฯ ที่อาจเรียกได้ว่า เป็นมติที่รัดกุม และอาจป้องกันการสูญเสียเงินได้อยู่แล้ว ?

สาม ในการไกล่เกลี่ยขอให้ถอนฟ้องนั้น สหกรณ์มงคลเศรษฐีฯ อ้างว่า มีลายเซ็นของกรรมการสหกรณ์ฯบางราย เป็นลายเซ็นปลอม ตรงนี้ได้จัดการแก้ไขปัญหาอย่างไร มีการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้าไปตรวจสอบด้วยหรือไม่

สี่ ประเด็นการชดใช้เป็นหุ้นบริษัท สหประกันชีวิตฯ ทั้งที่ปัจจุบันบริษัท สหประกันชีวิตฯ ก็เป็นหนึ่งในเอกชนที่ถูกกล่าวหาพร้อมกับเอกชนและหน่วยงานรัฐรวม 19 แห่ง ในคดีฟอกเงินร่วมกับนายศุภชัย ซึ่งดีเอสไอประเมินมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 2.2 พันล้านบาทด้วย

แล้วไฉน รศ.ดร.สวัสดิ์ ซึ่งเป็นประธานฯในปัจจุบัน ถึงไม่คัดค้าน แต่กลับแสดงท่าทีมั่นใจในการคืนเป็นหุ้นของบริษัทดังกล่าว ตามที่เคยให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศราก่อนหน้านี้

(อ่านประกอบ : INFO: 13 คดียักยอก-ฟอกเงินสหกรณ์คลองจั่นฯในมือดีเอสไอ-เบ็ดเสร็จ 2 หมื่นล., มั่นใจได้คืนแน่! ปธ.สหกรณ์จุฬาฯไม่หวั่นคืนเป็นหุ้นเอกชนถูกดีเอสไอสอบฟอกเงิน)

ทั้งหมดคือเบื้องลึก-เบื้องหลัง เกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงินของสหกรณ์จุฬาฯ ถึงสหกรณ์มงคลเศรษฐีฯ ที่พบว่ามี ‘ตัวละคร’ คล้ายคลึงกันกับกรณีสหกรณ์จุฬาฯปล่อยกู้-ฝากเงินรวมกว่า 1.4 พันล้านบาทให้กับสหกรณ์คลองจั่นฯ

ท้ายสุดข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร ต้องรอการพิจารณาของศาล และการสอบสวนของดีเอสไอต่อไป !

อ่านประกอบ :

ขีดเส้น 7 วันแจงปมปล่อยกู้คลองจั่น! ประชุมสหกรณ์จุฬาฯเดือดวอล์คเอ้าท์เพียบ

ปธ.สหกรณ์จุฬาฯแถลงพิเศษแจงสารพัดข้อสงสัยปล่อยกู้-ฝากเงิน‘คลองจั่น-พวก’