กทม.ดีเดย์ 3 ก.ย.นี้ ย้ายชุมชนป้อมมหากาฬแน่
รองผู้ว่าฯ กทม. เผยที่ประชุมคณะทำงานพัฒนาพื้นที่ป้องมหากาฬ มีมติเริ่มรื้อย้ายบ้านเรือนประชาชนที่สมัครใจก่อน 12 ราย ดีเดย์ 15 ส.ค.ติดตั้งป้ายประกาศแจ้ง จากนั้น3 ก.ย.จะดำเนินการรื้อย้ายชุมชนตามกฎหมายต่อไป
วันที่ 9 ส.ค. เวลา 14.30 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะทำงานพัฒนาพื้นที่บริเวณป้อมมหากาฬ ครั้งที่ 4/2559 เพื่อติดตามผลการดำเนินงานและพิจารณากำหนดแนวทางการดำเนินโครงการฯ โดยมี ดร.วัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ มีเพียร ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร และผู้แทนหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน สำนักงาน ป.ป.ช. การเคหะแห่งชาติ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน และสมาคมผู้สื่อข่าวแห่งประเทศไทย ร่วมประชุม ณ ห้องสุทัศน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร
พล.ต.อ.อัศวิน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 ส.ค.59 เครือข่ายภาคประชาสังคมและนักวิชาการเพื่อการอนุรักษ์ฟื้นฟูเมืองได้ทำจดหมายเปิดผนึกเสนอนายกรัฐมนตรี ขอให้นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้กทม.หยุดการเข้าครอบครองที่ดินพื้นที่ชุมชนป้อมมหากาฬไว้ก่อนและพิจารณาข้อเสนอของภาคีเครือข่ายฯ และเมื่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้เชิญกทม.ประชุมร่วมกับผู้แทนชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผลการประชุมสรุปว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ขอให้ กทม.ยุติการรื้อย้ายชุมขนในพื้นที่บริเวณป้อมมหากาฬก่อน และคณะกรรมการสิทธิฯ จะเสนอแก้ข้อกฎหมายเพื่อให้ชุมชนสามารถอยู่ในพื้นที่ต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมคณะทำงานพัฒนาพื้นที่บริเวณป้อมมหากาฬ มีมติว่า กทม. จะต้องดำเนินการตามคำสั่งศาล และตามกฎหมายที่สั่งการตลอดจนความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่กำหนดให้ กทม.ต้องปรับปรุงภูมิทัศน์ป้อมมหากาฬให้เป็นพื้นที่สาธารณะ โดยกทม. จะเดินหน้ารื้อย้ายตามหน้าที่ความผิดชอบไปก่อนจนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
ทั้งนี้ ที่ประชุมมีความเห็นว่า จะเริ่มดำเนินการรื้อย้ายบ้านเรือนของประชาชนที่สมัครใจก่อน ซึ่งเบื้องต้นมีจำนวน 12 ราย โดยประชาชนดังกล่าวได้มาขอเข้าพบ เมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อขอความอนุเคราะห์ให้กทม. ช่วยรื้อถอนและขนย้ายสิ่งปลูกสร้าง ซึ่ง กทม.ยินดีให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า ขั้นตอนการรื้อย้ายจะดำเนินการควบคู่ไปกับการประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มเป้าหมาย 3 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มชุมชนภายในป้อมมหากาฬ 2. กลุ่มนักวิชาการ นักอนุรักษ์ที่สนับสนุนชุมชน และ 3.กลุ่มประชาชนย่านใกล้เคียงที่ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาพื้นที่ป้อมมหากาฬ และประชาชนทั่วไปที่จะได้ใช้พื้นที่ป้อมมหากาฬร่วมกัน โดยการประชาสัมพันธ์จะแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือระยะก่อนการรื้อย้าย ระหว่างการรื้อยาย และภายหลังการรื้อย้าย เพื่อสร้างความเข้าใจถึงความจำเป็นและประโยชน์ที่คนไทยจะได้รับจากการพัฒนาพื้นที่ประวัติศาสตร์บริเวณป้อมมหากาฬ
"วันที่ 15 ส.ค.59 จะมีการติดตั้งป้ายประกาศกรุงเทพมหานคร เพื่อแจ้งให้ชาวชุมชนป้อมมหากาฬทราบ พร้อมทั้งมีจดหมายแจ้งไปยังทุกครัวเรือน จากนั้นวันที่ 3 ก.ย.59 กทม.จะดำเนินการรื้อย้ายชุมชนตามกฎหมายต่อไป"