คสช.ประกาศใช้ม.44 . เยียวยานักลงทุน ขยายเวลายื่นแบบภาษีนิติบุคคล
นายกฯ อาศัยอำนาจ มาตรา 44 ให้ขยายเวลาการยื่นชำระภาษี และไม่ต้องเสียเบี้ยปรับหรือเงินเพิ่ม เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุน

วันที่ 31 กรกฎาคม 2559 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คําสั่ง ที่ 45/2559 เรื่อง การขยายกําหนดเวลาการยื่นรายการชําระภาษีเงินได้นิติบุคคลตามประมวลรัษฎากร เพื่อความเป็นธรรมแก่นักลงทุน
สืบเนื่องจากเกิดกรณีข้อพิพาทการยื่นชำระภาษีนิติบุคคลที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)ที่มีความเข้าใจว่า หากกิจการที่ได้รับการส่งเสริมบีโอไอเกิดการขาดทุนสุทธิไม่ต้องยื่นแบบการชำระภาษีแต่อย่างใด
แต่วิธีการคำนวณตามประกาศกรมสรรพากรนั้นกิจการต้องยื่นชำระภาษีทั้งที่มีผลกำไรสุทธิและขาดทุนสุทธิ กระทั่งมีคำพิพากษาศาลฎีกาเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2559 วินิจัยให้การคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนต้องอยู่ภายใต้บังคับของประมวลรัษฎากรที่กรมสรรพากรประเมินภาษีอากรคำนวณไว้ จึงเป็นเหตุให้นิติบุคคลเหล่านี้นต้องชำระเงินเพิ่มหรือเบี้ยปรับอีกส่วน
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2559 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
จึงมีคําสั่ง ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ในคําสั่งนี้
“ประกาศกระทรวงการคลัง” หมายความว่า ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ขยายกําหนดเวลาการยื่นรายการชําระภาษีเงินได้นิติบุคคลตามประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2559
ข้อ 2 ให้ขยายกําหนดเวลาการยื่นรายการชําระภาษีเงินได้นิติบุคคลตามนัยแห่งประกาศ
กระทรวงการคลัง ออกไปจนถึงวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2559 อันมีผลทําให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นไม่ต้องเสียเบี้ยปรับหรือเงินเพิ่ม และให้ขยายกําหนดเวลาการยื่นคําร้องขอคืนเบี้ยปรับหรือเงินเพิ่มออกไปเป็นภายในวันที่ 15 สิงหาคม 2559 ด้วยเช่นกัน
การขยายกําหนดเวลาตามวรรคหนึ่งเป็นการใช้อํานาจแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังตามข้อ 2 ของประกาศกระทรวงการคลัง ซึ่งอาศัยอํานาจตามความในมาตรา 3 อัฏฐ วรรคสองแห่งประมวลรัษฎากรโดยอนุโลม และให้ใช้กับนิติบุคคลที่ยื่นแบบแสดงรายการและชําระภาษีเงินได้นิติบุคคลไว้ไม่ถูกต้องอันเนื่องมาจากการปฏิบัติตามแนววินิจฉัยของหน่วยงานราชการอื่นโดยมิได้มีเจตนาที่จะหลีกเลี่ยงการเสียภาษีตามเงื่อนไขในข้อ 3 ของประกาศกระทรวงการคลัง และให้รวมถึงนิติบุคคลที่ได้ยื่นแบบแสดงรายการและชําระภาษีเงินได้นิติบุคคลไว้ไม่ถูกต้องแต่ได้มีคําพิพากษาถึงที่สุดให้ต้องชําระภาษีให้ถูกต้องก่อนวันที่มีประกาศกระทรวงการคลังแล้วด้วย
ข้อ 3 ให้กระทรวงการคลังและสํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องและอยู่ในอํานาจหน้าที่ของแต่ละฝ่ายให้เกิดความชัดเจนแล้วอธิบายหรือชี้แจงให้นักลงทุนทราบโดยเร็ว เพื่อส่งเสริมและสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน
ความในวรรคหนึ่งให้ใช้กับบรรดาหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนด้วย เพื่อให้เกิดความสะดวกในการทําธุรกิจและการลงทุน ความเป็นธรรม และการสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน
ข้อ 4 คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
