เบื้องหลัง!ฮั้วแตก? ชนวนเหตุWIFI กศน. หมื่นจุดล่าช้า-ก.ไอซีที จ่อเลิกสัญญาทีโอที
"..เนื่องจากกระบวนการคัดเลือกเอกชน มีปัญหาความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นแบบนี้ จึงทำให้ในปัจจุบันแม้ว่าทีโอทีจะลงนามในสัญญากับบริษัท R ไปแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ได้เซ็นตรวจรับงานแต่อย่างใด เนื่องจากกลัวว่าหากถูกตรวจสอบพบ มีความผิดเกิดขึ้น จะต้องร่วมรับผิดชอบด้วย.."

"การดำเนินงานโครงการในส่วน กศน. จำนวน 10,000 จุด เป็นโครงการที่กระทรวงไอซีทีซื้อบริการจากบริษัททีโอที จำกัด (มหาชน) ที่ไปหาตัวผู้บริการมาดำเนินการให้ มีปัญหาส่งมอบงานล่าช้าเกิดขึ้นจริง แต่เกิดจากทีโอที ไม่ได้เกิดจากกระทรวงไอซีที"
"ล่าสุดทางกระทรวงไอซีที ได้มีหนังสือเร่งรัดการดำเนินการแล้ว แต่ถ้าภายใน 2-3 เดือนนี้ ยังไม่มีความคืบหน้าอะไร ทางกระทรวงไอซีที อาจจะทำหนังสือบอกเลิกสัญญา และเรียกเงินที่เบิกจ่ายไปแล้วคืนมา ส่วนการหาเอกชนรายใหม่ เข้ามารับงาน หากวงเงินว่าจ้างสูงเกินกว่าเดิมมีความเสียหาย ทางทีโอที จะต้องออกเงินส่วนเกินเพื่อชดใช้ความเสียหายให้ด้วย"
คือ คำยืนยันของ นางทรงพร โกมลสุรเดช ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ในระหว่างการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีมีผู้ร้องเรียนว่า โครงการติดตั้งอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ของ กระทรวงไอซีที 2 โครงการ คือ 1.โครงการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) จำนวน 10,000 จุด วงเงินกว่า 800 ล้านบาท และ 2. โครงการว่าจ้างดำเนินการขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้ครอบคลุมทั่วประเทศเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจภายใต้โครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ จำนวนกว่า 20,000 จุด รวมวงเงิน 13,000 ล้านบาท มีลักษณะการดำเนินการที่ส่อว่าจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้เอกชนเข้ามารับงาน (อ่านประกอบ : ร้องสอบติดตั้งไวไฟก.ไอซีทีหมื่นล.พิรุธเพียบ! ปลัดฯแจงโปร่งใส จ่อเลิกสัญญาทีโอที)
โดยการดำเนินงานโครงการในส่วน กศน.นั้น สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รับการร้องเรียนว่า ในปัจจุบันแม้จะได้ตัวเอกชนเข้ามารับงานแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถเริ่มดำเนินการโครงการได้ เนื่องจากเอกชนผู้ชนะ ซึ่งถูกระบุว่า ได้รับการสนับสนุนจากข้าราชการระดับสูงของกระทรวงไอซีที มีสถานะเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของเอกชนรายหนึ่ง ขณะที่เอกชนเจ้าของสินค้าตัวจริง ก็ได้เข้ายื่นซองเสนอราคาด้วย จึงทำให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบโครงการไม่กล้าที่จะเซ็นอนุมัติโครงการได้
เพื่อไขข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินงานโครงการนี้ ให้ชัดเจนมากขึ้น!
สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมพบว่า โครงการนี้ มีชื่อเรียกเป็นทางการว่า "โครงการบริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะสู่ชุมชน" มีเป้าหมายในการติดตั้งจุดให้บริการอินเทอร์เน็ต 7,400 แห่ง ให้ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) เชื่อมต่อโครงข่ายไปยังจุดให้บริการของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน กว่า 10,000 แห่งทั่วประเทศ ใช้งบประมาณราว 900 ล้านบาท
โดยขั้นตอนการดำเนินงาน กระทรวงไอซีที ได้ว่าจ้างให้ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เข้ามาดำเนินการให้ ในรูปแบบคอนซอร์เตี้ยม (รวมตัวกันเพื่อเป็นคู่สัญญาชั่วคราวเฉพาะงาน แบ่งงาน แบ่งรายได้ชัดเจน) แบ่งสัดส่วน ทีโอที 75 % กสท 25%
ส่วนขั้นตอนการคัดเลือกเอกชนั้น ทีโอที และ กสท มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาดำเนินการสืบราคา และคัดเลือกเอกชนเข้ามาขายสินค้า แต่ในขั้นตอนการดำเนินงานทีโอที จะเป็นแม่งานในการดำเนินงานส่วนใหญ่ เนื่องจากกสท.ได้ส่วนแบ่งจากโครงการนี้น้อยกว่า และมีคนจากกระทรวงไอซีที เข้ามาร่วมเป็นคณะทำงานด้วย
เบื้องต้น มีเอกชนจำนวน 3 รายเข้ามาเสนอราคา คือ บริษัท C , บริษัท A และ บริษัท R (ขอใช้ชื่อย่อ เพื่อความเป็นธรรม) ผลปรากฎว่า บริษัท C เสนอราคาต่ำสุด และมีสิทธิที่จะได้รับการคัดเลือกให้เสนอสินค้ามากกว่า บริษัท R ซึ่งเป็นเอกชนที่ถูกเตรียมการจะให้เข้ามารับงานนี้โดยตรง
อย่างไรก็ตาม บริษัท C ก็ยังไม่ได้รับการคัดเลือก เนื่องจากสถานะจริงๆ ของ บริษัท C เป็นเพียงแค่หุ้นส่วนทางธุรกิจ/ตัวแทนจำหน่ายสินค้าของบริษัทเอกชนรายหนึ่งเท่านั้น
และเมื่อบริษัทเอกชนเจ้าของสินค้าตัวจริง ทราบเรื่องว่ามีการประกวดราคาโครงการนี้ ก็รีบเข้ามายื่นเสนอราคาด้วย โดยเสนอราคาขายสินค้าที่ถูกกว่า บริษัท c มาก
จึงทำให้กระบวนการคัดเลือกเอกชน เข้ามารับงานนี้ มีปัญหาเรื่อง "ฮั้วแตก" เกิดขึ้น
แหล่งข่าวจากกระทรวงไอซีที ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า "ในระหว่างที่เกิดปัญหาหาทางออกไม่ได้อยู่นั้น มีคนกลุ่มหนึ่ง ได้รีบนำชื่อของบริษัท R ไปเสนอลงนามในสัญญาว่าจ้างโดยด่วน โดยยกเหตุผลเรื่องของเงื่อนระยะเวลาการรับประกันอุปกรณ์ ที่บริษัท R เสนอมากกว่าบริษัท C มาเป็นเงื่อนไขในการนำเสนอเรื่อง ทั้งที่ ในขั้นตอนการประกวดราคาก่อนหน้านี้ ไม่ได้มีการหยิบยกเรื่องเงื่อนไขระยะเวลารับประกันอุปกรณ์มาเป็นสาระสำคัญต่ออย่างใด"
"แต่เนื่องจากกระบวนการคัดเลือกเอกชน มีปัญหาความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นแบบนี้ จึงทำให้ในปัจจุบันแม้ว่าทีโอทีจะลงนามในสัญญากับ บริษัท R ไปแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ได้เซ็นตรวจรับงานแต่อย่างใด เนื่องจากกลัวว่าหากถูกตรวจสอบพบ มีความผิดเกิดขึ้น จะต้องร่วมรับผิดชอบด้วย"
และนั้นจึงเป็นสาเหตุเบื้องหลังที่ทำให้โครงการนี้ มีความล่าช้าเกิดขึ้น แบบที่เห็นและเป็นไปอยู่ในขณะนี้
และสำนักข่าวอิศรา จะตามเจาะลึกข้อเท็จจริงเรื่องนี้ มานำเสนอให้สาธารณชนได้รับในโอกาสต่อไป
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ในช่วงบ่ายวันที่ 1 ส.ค.2559 ได้พยายามติดต่อไปยัง นายมนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ทีโอที ให้ชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว แต่เลขาฯ หน้าห้องระบุว่า "นายมนต์ชัย ติดประชุมอยู่"
อ่านประกอบ :
ร้องสอบติดตั้งไวไฟก.ไอซีทีหมื่นล.พิรุธเพียบ! ปลัดฯแจงโปร่งใส จ่อเลิกสัญญาทีโอที
