คลอดแล้ว! กฎกระทรวง ช็อปโอท็อปช่วยชาติ ‘ลดหย่อนภาษี’ ได้ 1.5 หมื่นบ.
รมว.คลัง ลงนามเป็นทางการแล้ว กฎกระทรวงสนับสนุนมาตรการช็อปโอท็อปช่วยชาติ ‘ลดหย่อนภาษี’ ได้ 1.5 หมื่นบ. หลังซื้อสินค้าช่วง 1-31 ส.ค.2559 นี้ คาดเงินสะพัดหมื่นล้าน ระบุต้องมีการออกใบกํากับภาษีชัดเจน
จากกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 12 ก.ค.2559 เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมสร้างท้องถิ่นโอท็อป (OTOP Extravaganza ) หรือ ช็อปช่วยชุมชนตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในสินค้าโอท็อป ส่งเสริมสินค้าท้องถิ่นของไทย โดยสามารถนำมาหลักลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมได้สูงสุดไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท และต้องเป็นสินค้าโอท็อปที่ได้รับการรับรอง และเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเท่านั้น พร้อมกำหนดให้ใช้สิทธิซื้อสินค้าได้ตั้งแต่วันที่ 1-31 ส.ค.2559 นี้ โดยคาดว่าจะมีเงินสะพัดจากการจับจ่ายราว 1 หมื่นล้านบาท และเชื่อว่าจะกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐไม่มาก
ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ก.ค.2559 ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ได้เผยแพร่กฎกระทรวงฉบับที่ 318 (พ.ศ. 2559) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 20) พ.ศ. 2513 และมาตรา 42 (17) แห่งประมวลรัษฎากรซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 กําหนดให้เงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้าหนึ่งตําบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ให้แก่ผู้ประกอบการ จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ในระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2559 ถึงวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2559 ตามจํานวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินหนึ่งหมื่นห้าพันบาท เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคํานวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยต้องมีการออกใบกํากับภาษี ตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกําหนด
ข้อ 2 สินค้าตามข้อ 1 ต้องเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว
ให้ไว้ ณ วันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2559
อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ทั้งนี้ ท้ายกฎกระทรวง ฉบับนี้ ระบุว่า เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมสินค้าหนึ่งตําบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ โดยการสนับสนุนให้ประชาชนใช้จ่ายเงินเป็นค่าซื้อสินค้าหนึ่งตําบลหนึ่งผลิตภัณฑ์เพิ่มมากขึ้นสมควรกําหนดให้เงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้าดังกล่าว ในระหว่างวันที่ 1 ส.ค.2559-31 ส.ค.2559 ให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตามจํานวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินหนึ่งหมื่นห้าพันบาท เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคํานวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจึงจําเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
(ดูกฎกระทรวงฉบับเต็มที่นี่ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2559/A/065/1.PDF)